The Heart มากกว่าการผ่าตัดหัวใจ
เรื่องที่น่าเสียดายที่สุดของเรื่องนี้ คือ wetv ไม่ทำซับดี ๆ ใช้ AI แปล ซึ่งทำให้ได้รายละเอียดไม่ครบถ้วน แล้วเราก็ต้องแปลไทยเป็นไทยอีกรอบ เอาล่ะ อย่างน้อยก็พอรู้เรื่อง ไม่ถึงกับมึนแล้วต้องเทไปก่อนอย่างซับของช่อง Mango
ความน่าสนใจที่ดึงดูดให้ดูเรื่องนี้ทั้งที่มันไม่ปรากฏในหน้าแรกของ wetv ด้วยซ้ำ คือ นักแสดง โดยเฉพาะ จ้าวโย่วถิง แถมด้วยโจอันเชง (ถ้าอ่านออกเสียงภาษาแมนดารินคงต้องเรียกว่า เฉินชง แต่เผอิญชินกับชื่อนี้ เพราะรู้จักเธอจากภาพยนตร์ตะวันตกมาก่อน แล้วก็ออกเสียงชื่อเธอแบบฝรั่งมาตลอด)
และก็ไม่ผิดหวังเลย เพราะนักแสดงเล่นดีทุกคน โดยเฉพาะจ้าวโย่วถิง ไม่ว่าในฐานะหมอที่เก็บความรู้สึกต่าง ๆ ไว้ในใจ ลูกชายที่มีปมกับแม่ พี่ชายที่เอ็นดูน้องสาว ผู้ชายที่รักผู้หญิง คือเล่นดีมาก
The Heart เป็นซีรีส์แนวอาชีพแพทย์ เน้นศัลยแพทย์โรคหัวใจ ตัวละครหลักคือ หมอ 2 คน ที่บุคลิกต่างกันโดยสิ้นเชิง มีปมในชีวิตเหมือนกัน ช่วงแรกตีกันตลอด แต่ในที่สุดก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
นอกจากนั้นยังมีเรื่องความสัมพันธ์ของพี่ชายน้องสาว แบบที่ไม่ค่อยเห็นซีรีส์เรื่องไหน
หมอเสี่ยวหราน เป็นหมอตามพี่ชายคนละพ่อที่เจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง เมื่อได้มาอยู่โรงพยาบาลก็พยายามใกล้ชิด ดึงพี่ชายให้กลับไปดีกับแม่
ผู้เขียนชอบบทเรื่องราวพี่น้องส่วนนี้ที่สุด น่ารักดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป เป็นส่วนที่ดีกว่าเลิฟไลน์ของตัวละครทั้งสองคู่อีกต่างหาก
บทโดยรวมไม่ได้เน้นเรื่องการผ่าตัดหัวใจ แต่เป็นการตั้งคำถามเกี่ยวกับการมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นในฐานะหมอหรือคนไข้
แน่นอนว่าเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับหมอ ต้องมีประเด็นเรื่องถูกคนไข้และญาติคนไข้ทำร้าย ฟ้องร้อง
แม้ว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ติดซีรีส์จีน ซึ่งน่าจะมาจากการวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน จึงพอเข้าใจวิธีคิดและการดำเนินชีวิตของคนจีน แต่ก็มีบางเรื่องที่เข้าใจไม่ได้จริง ๆ อย่าง การทำร้ายหมอที่เห็นในข่าวเป็นระยะ บางรายรุนแรงถึงขั้นทำหมอเสียชีวิตเพราะไม่พอใจการรักษา
รู้ว่าเสียใจที่ญาติหรือคนในครอบครัวเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต ต่อให้หมอพลาดก็ไม่ใช่เหตุจะไปไล่ทุบเขาขนาดนั้น ฆ่าหมอตายแล้วจะทำให้ญาติอาการดีขึ้นหรือฟื้นขึ้นมาอย่างนั้นหรือ
ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์โกรธหมอตอนแม่ป่วยหนัก แต่ไม่เคยมีความคิดสักนิดในหัวว่าอยากจะไปหยิกหมอสักที
ถ้ามองในแง่ร้ายหน่อย ก็น่าสงสัยว่าโทสะนั้นอยู่ในดีเอ็นเอของคนจีนหรือเปล่า เพราะทุกคนพร้อมระเบิดตลอดเวลา
ว่าด้วยการทำร้ายหมอ ในเรื่องบอกด้วยว่าปัจจุบันมีมาตรการออกมาเพื่อปกป้องการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์แล้ว
ก็นะ..ถ้าปล่อยไปแบบนี้ ใครจะอยากมาเป็นหมอ
เคสสามีหมอกับหัวหน้าพยาบาล กับลูกที่เกิดมามีโอกาสเสี่ยงจะพิการ ในชีวิตจริงก็เลือกยากเช่นกัน และหลาย ๆ กรณีไม่ได้จบสวยแบบในซีรีส์
เรื่องนี้ทำให้นึกถึงตอนทำงานเป็นสื่อที่มีประสบการณ์มาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อครั้งไปสัมภาษณ์คุณแม่ ที่เสียลูกสาววัยสิบกว่าขวบไปด้วยโรคมะเร็งเม็ดโลหิต โดยต้องเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อเปลี่ยนเลือดอยู่หลายปี ผู้เขียนนั่งฟังแม่เล่าถึงความเจ็บป่วยทรมาน ที่ไล่ลำดับขึ้นไปเรื่อย ๆ จนคุณแม่ต้องบอกน้องว่า
“พอแล้วลูก หนูไม่ต้องสู้แล้วลูก”
ยังจำได้แม่นจนถึงทุกวันนี้ว่า ผู้เขียนรู้สึกถึงน้ำตาที่คลออยู่ดวงตาของตัวเอง แต่ต้องจิกเล็บบนฝ่ามือสุดฤทธิ์เพื่อเรียกสติ ให้นั่งฟังจนจบการสัมภาษณ์นั้น
หลังจากแยกจากคุณแม่ และพ้นตึกหลังนั้นออกมาได้ ถึงกับรีบหาที่นั่งพักหายใจเข้าแรง ๆ อยู่พักใหญ่ รู้สึกเหนื่อยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ขนาดเราเป็นแค่คนนั่งฟังเรื่องที่มันผ่านมาแล้ว ยังรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกขนาดนี้ แล้วคนที่ต้องอยู่กับสถานการณ์แบบนั้นปีแล้วปีเล่าจะเป็นอย่างไร
ส่วนเคสที่ดูจะเป็นปมขัดแย้งที่สุดของเรื่องคือ หมอหลินมีพันธุกรรมที่เป็นโรคหัวใจร้ายแรง ทั้งพ่อและพี่ชายก็เป็น จึงปฏิเสธความรักของเสี่ยวหรานทั้ง ๆ ที่ก็ชอบเธอ ด้วยเหตุผลว่าไม่อยากให้เธอต้องมาเผชิญชะตากรรม ต้องดูแลคนป่วยและเจ็บปวดสูญเสียเมื่อเขาต้องตาย
คนเขียนบทคงต้องการหาจุดขัดแย้งเพื่อให้คนดูลุ้นความรักของหมอหลินกันไป
ในชีวิตคนเรา ต่อให้เป็นคนแข็งแรงปกติ ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าใครจะตายก่อนใคร บางคนเป็นมะเร็งอยู่ตั้งหลายปี ยังไม่เสียชีวิต แต่คนแข็งแรงดี เดินออกจากบ้านไปถูกรถชนตายก่อนเสียอย่างนั้น
ทุกคนบนโลกนี้จึงมีเพียง “วันนี้” เท่านั้นที่สามารถทำให้ดีที่สุดได้
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
