Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สารพันบันเทิงจีน
•
ติดตาม
10 ธ.ค. 2023 เวลา 16:34 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ย้อนรอย Jungle Voice 1
รายการนี้ออกอากาศไปตั้งแต่ปี 2018 สาเหตุที่ดึงเรื่องนี้กลับมาเขียน เพราะเกล โสพิชา (อังคะไวมงคล) ซึ่งได้ที่ 4 จากประกวดร้องเพลงในรายการนี้ ล่าสุด มีเพลงจีนอัลบั๊มใหม่ออกมาในวัย 18 ปี
เผอิญว่าได้ดูรายการนี้ ตามคอนเซปต์เจอเด็กไทยในรายการต่างชาติ อวยได้ต้องอวย
ขอเรียก เกล เฉย ๆ ไม่มี “น้อง” นำหน้า เพราะนับแต่นี้ไปเธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ก่อนหน้าจะได้ดูรายการนี้ รู้จักเกล แบบผ่านตาในข่าวการประกวด Thailand Got Talent เท่านั้น รายละเอียดอื่นไม่รู้เลย
ตอนที่ดูรายการนี้ ยังไม่ได้เริ่มกลับมาดูซีรีส์จีนด้วยซ้ำ ฟังภาษาจีนกลางไม่ออกเลย (ทุกวันนี้ก็ยังฟังไม่ออก 😂 แค่เดา ๆ เอาบ้าง ใช้google บ้าง)
โชคดีที่ตอนนั้นมีคนแปลซับไทยช่วงที่เกลแสดงออกมาเป็นระยะ จึงเข้าใจว่าเขาพูดอะไรกัน คลับคล้ายคลับคลาว่าหลังจากรายการออกไปแล้วสักวันสองวันหรือสัปดาห์นี่แหละ เหมือนจะมีซับอังกฤษด้วย
ปัจจุบันตัวรายการหาไม่เจอแล้ว แต่ยังมีคลิปการแสดงของเกลทั้งที่มีซับไทยและไม่มีอยู่บ้าง
หลังรื้อฟื้นความจำ เท่าที่พอจำได้เกี่ยวกับเกลกับรายการนี้ มีดังนี้
Jungle Voice เป็นรายการประกวดร้องเพลง เพื่อหานักร้องหน้าใหม่ ของไต้หวัน กติกา มีทั้งจับคู่แข่งขัน หรือรวมทีมแข่งกัน แล้วให้กรรมการเลือกว่าใครจะเข้ารอบ เวทีสุดท้ายเหมือนจะให้ทั้งกรรมการและคนที่ได้รับเลือกไปลงคะแนน แข่งกันไปเรื่อย ๆ จนเหลือ 12 คนสุดท้าย
กรรมการหลักมีสองคน คือ เจมส์ เชา( เสียวจิ้งเถิง) คนนี้เคยเห็นหน้าในรายการอื่น ๆ มาก่อน และ หลีโย่วเจีย คนนี้ไม่เคยรู้จักมาก่อน (แต่หลังจากรายการนี้ก็คือชอบเพลงที่เขาร้องหลายเพลงอยู่นะ)
รอบคัดเลือก เกล อายุ 13 เป็นผู้เข้าแข่งขันอายุน้อยที่สุดในรายการ เป็นคนต่างชาติ มาไต้หวันเป็นครั้งแรก พูดภาษาจีนไม่ได้ ตอนขึ้นเวทีแนะนำตัวเป็นภาษาจีนเพราะท่องจำมา พอกรรมการถาม คือไม่สนใจไปเลย เพราะฟังไม่ออกว่ากรรมการถาม
เกลร้องเพลง Havana/ Super Bass พร้อมกับเล่นกีตาร์ และ ใช้ Looper ไปด้วย ปรากฏว่าพอร้องจบ ผู้แข่งขันคนอื่นที่นั่งฟังอยู่ในห้องกรี๊ดกันสนั่นหวั่นไหว
หลีโย่วเจีย ถึงกับเรียกว่า มินิ เอด ชีแรน (หัวหน้า) นักดนตรี ที่เล่นแบคอัพให้ผู้เข้าแข่งขัน ถึงกับชมว่า การเล่นดนตรีไปด้วย ร้องเพลงไปด้วย ใช้ Looper แม้แต่นักดนตรีที่มีประสบการณ์แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำได้ดีเท่านี้
รอบที่สอง แข่งกันกับผู้แข่งขันอีกคนว่าใครจะได้ร้อง Shape of You เกลก็ชนะอีก แต่เวทีนี้ถ้าพูดกันตรงไปตรงมาคือทำได้ไม่ดีนัก แต่กรรมการก็ยังให้กำลังใจ เพราะมองเห็นว่าพื้นฐานดนตรีของเกลนั้นดีมาก
รอบที่สาม ร้องเพลงคู่กับผู้แข่งขันอีกคน คราวนี้ร้องเพลงภาษาจีน รอบนี้จำรายละเอียดไม่ได้ แต่เกลก็ผ่านเข้ารอบต่อไป
รอบที่สี่ ร้องเพลง你啊你啊 กับนักร้องรับเชิญ Janice Yan ความยากคือไม่ใช่แค่ร้องเพลงจีนกลางเท่านั้น แต่ยังมีเนื้อร้องส่วนที่เป็นภาษาหมิ่นหนาน (ฮกเกี้ยน) ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของไต้หวันด้วย ซึ่งกลายเป็นไวรัลไปในทันที แถมด้วย Janice Yan พาเกลไปขึ้นเวทีคอนเสิร์ตของเธออีกด้วย
รอบที่ห้า ร้องเพลง Stranger in the North ของ Namewee แรปเปอร์ มาเลเซียเชื้อสายจีน ที่ร้องกับวังลีโฮม ส่วนที่ยากก็คือ เนื้อแรปภาษาจีน นั่นแหละ เพราะทั้งเร็วทั้งยาว เกลงับเนื้อเพลงไม่ทันอยู่บ้าง แต่โดยภาพรวมก็ยังน่าประทับมากอยู่ดี ที่เด็กต่างชาติ อายุ 13 กล้าร้องเพลงแรปภาษาจีนที่ยากขนาดนั้น เจ้าของเพลง ถึงกับโพสต์ชมว่าเก่งมาก
รอบที่ 6 ร้องเพลง I Love You มีดราม่าเล็ก ๆ เมื่อ กรรมการรับเชิญ หลัวจื้อเสียง วิจารณ์เกล ประมาณว่า การเป็นเด็กแล้วร้องเพลงได้ กลายเป็นดีกว่าผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็แย่สิ แต่เผอิญว่า กรรมการหลักทั้ง 2 คน รีบพูดให้กลายเป็นเรื่องตลกไป ผลก็คือ หลัวจื้อเสียง ถูกทัวร์ไต้หวันลงไปเรียบร้อย
มันก็อาจจะจริง ที่ความเป็นเด็กอาจทำให้คนตื่นเต้นเวลาที่ทำอะไรสักอย่างได้ดีเท่าผู้ใหญ่ แต่ถ้ามองในอีกแง่หนึ่ง หมายความว่าเด็กคนนั้นต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนถึงจะสู้กับผู้ใหญ่ได้
หลัวจื้อเสียงเองก็เข้าวงการเพลงมาตั้งแต่เด็ก สงสัยตอนเด็กคงเคยโดนวิจารณ์แบบนี้มาก่อน
เมื่อสองปีก่อน หลัวจื้อเสียง ถูกแบนเพราะข่าวการนอกใจแฟน ต้องบอกลางานบนจีนแผ่นดินใหญ่ทั้งหมดไป ส่วนงานที่ไต้หวัน กลับมาทำงานได้แล้ว หลังจากโดนต่อต้านไปเกือบปี ล่าสุดออกเพลง ที่มีภาษาไทย ไม่มี ไม่ใช่ ไม่ต้องกลัว ซึ่งเป็นประโยคที่เคยแซวเกลบนเวที
สำหรับรอบนี้ หลีโย่วเจีย คอมเมนต์ไว้อย่างน่าสนใจประมาณว่า ตอนแรกเขาคิดว่าเกลจะไปไกลแค่ไหน เพราะภาษาจีนไม่ดีนัก (จริง ๆ คือพูดจีนไม่ได้เลย ) แต่หลังจากหลายเวทีผ่านไป เขาคิดว่าภาษาไม่สำคัญกับเสน่ห์บนเวที
จริง ๆ ร้องเพลงภาษาจีนก็สำคัญ แต่ทุกคนยอมรับความพยายามขั้นสูงสุดของเกลไปแล้ว ว่าร้องเพลงจีนได้ทั้ง ๆ ที่พูดจีนไม่ได้นี่แหละ
เวทีสุดท้าย ร้องเพลง Heart Blossoms ซึ่งเป็นภาษาหมิ่นหนานทั้งเพลง พีคสุดไปค่ะ ทั้งภาษาและการแสดงบนเวที กรรมการหลักทั้งคู่นั้นเอ็นดูขั้นสุดไปนานแล้ว ส่วนกรรมการรับเชิญจะเหลือหรือ อวยออกนอกหน้าหนักมาก
ผลการประกวด เกลได้ที่ 4 (จากผู้ได้รางวัลทั้งหมด 7 คน) รายการประกวดที่ไหน ก็ล้วนแต่วางตัวคนชนะกันมาแล้วทั้งสิ้น ถ้าเข้าใจวงการบันเทิง ก็จะไม่นอยด์ ดูให้สนุกกันไป แต่ก็นะ ยิ่งคนดูดราม่า ยิ่งนอยด์ ผลดีย่อมตกอยู่กับรายการ เพราะก็จะยิ่งถูกพูดถึง
เกลต้องเรียกว่าเป็นยิ่งกว่าม้านอกสายตา ยิ่งไปกว่านั้น เกลยังได้รางวัลป๊อบปูล่าโหวตอันดับ 1 อย่าว่าแต่มีฐานเสียงแฟนคลับเหมือนคนอื่นเลย ตอนไปแข่งรอบแรก แทบไม่มีใครรู้จักว่าเกลคือใครด้วยซ้ำ
คงไม่ต้องบอกว่าคนไต้หวันชอบเกลขนาดไหน ที่พิเศษคือเกลมีแฟนคลับรุ่นเล็กเยอะมาก หลายคอนเสิร์ตหน้าเวทีจะเต็มไปด้วยเด็ก ๆ (ที่ส่วนใหญ่อายุไม่น่าจะเกินสิบขวบ) ที่พ่อแม่พาทั้งนั้น
มากกว่าความน่ารักสดใส ใครก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกลมีความสามารถมากกว่าอายุ จริงอยู่ว่าส่วนหนึ่งมาจากการที่ครอบครัวสนับสนุนเต็มที่ แต่ถ้าปราศจากความพยายาม ความทุ่มเทเกินร้อยของเจ้าตัวแล้ว ก็ไม่มีทางจะเปล่งประกายได้เจิดจรัสขนาดนี้
ผู้เขียนเพิ่งมาเห็นสัมภาษณ์เมื่อตอนที่คิดจะเขียนเรื่องนี้ ว่าก่อนจะไปประกวด เกลเรียนทั้งการเต้น การแสดงบนเวที ( ดนตรีเรียนมานานแล้ว) เรียกว่าเตรียมตัวมาดีอย่างดี แม้ไม่คิดว่าจะเข้าถึงรอบสุดท้ายก็ตาม
ความสำเร็จที่ได้รับจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือฟ้าประทานมาให้
พรสวรรค์จะส่งผลสูงสุดก็ต่อเมื่อมีพรแสวงด้วย
คนที่ได้ดูรายการรวมทั้งผู้เขียน รู้สึกว่าเกลไม่ได้มาแข่งกับใคร แต่เหมือนมาเปิดคอนเสิร์ตของตัวเองมากกว่า
นอกจากความสามารถ ความขยัน ความพยายาม ต้องบอกอีกแล้วว่าความเด็กไทย ที่อ่อนโยน จริงใจโอบอ้อมอารี อ่อนน้อมถ่อมตน (อันนี้ไปอ่านเจอจากคอมเมนต์ของคนจีน) นี่แหละ ที่ชนะใจแฟนคลับ รวมถึงพี่ ๆ ที่เข้าแข่ง ที่ถึงยกกับแก๊งกันมาเที่ยวไทยพร้อมไปกินข้าวเฮฮาปาจิงโกะกับเกลด้วย
กรรมการหลัก กรรมการรับเชิญทุกท่าน ล้วนแต่เอ็นดูเกลกันทั่วหน้า
หลังรายการจบ บริษัทแสดงชัดเจนว่าจะปั้นสาวน้อยคนนี้แน่นอน และมีซิงเกิ้ลแรก KILLIN’ ME ไปแล้ว (ผู้เขียนชอบสไตล์ดนตรีของเพลงนี้มากกว่าเพลงจากอัลบั๊มใหม่)
https://www.youtube.com/watch?v=AEVWqacDOGc
เนื่องจากสถานการณ์โควิด จึงไม่ได้งานเพลงออกมาอีก แต่ก็ทำให้เกลได้เรียนต่อชั้นมัธยมปลายในไทย และสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่คณะแพทย์ศาสตร์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้
ก็จะไม่ให้เรียกสาวน้อยมหัศจรรย์ได้อย่างไร เล่นดนตรีได้ ร้องเพลงดี มีเสน่ห์บนเวที ล่าสุดแถลงข่าวเปิดตัวอัลบั๊ม ไม่ต้องอาศัยล่าม พูดจีนคล่องไปอีก
2-3 ปีที่ไม่สามารถทำงานเพลงได้ แต่ก็ทำให้ภาษาจีนดีขึ้นชนิดแฟนคลับฝั่งจีนปลาบปลื้มกันไป
วันนี้เกลพร้อมแล้วที่จะก้าวขึ้นเวทีที่ใหญ่กว่าที่ผ่านมา
ซีรีส์จีน
บันทึก
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
แนะนำซีรีส์
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย