15 ม.ค. เวลา 23:00 • ธุรกิจ

พามารู้จักกับ Carenation แบรนด์พวงหวีดเพื่อการกุศลและความยั่งยืนของไทย

ครั้งนี้จะพามารู้จักกับแบรนด์ๆหนึ่งเป็นแบรนด์การกุศลเพื่อความยั่งยืนที่น่าสนใจ และยังมีเจ้าของเป็นคนไทยอีกด้วย
ซึ่งแบรนด์ที่กล่าวถึงนี้มีชื่อว่า Carenation โดยเจ้าของก็คือ คุณสรณัญช์ ชูฉัตร ซึ่งเป็นที่รู้จักจากธุรกิจสตาร์ทอัพรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ETRAN
คุณสรณัญช์ได้เล่าว่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาก่อตั้ง Carenation ขึ้นมานั้นมาจากการที่เขาและเพื่อนๆเป็นเด็กที่ชอบทำกิจกรรมกันมาตั้งแต่มัธยมจนถึงมหาวิทยาลัย
พวกเขาได้มีโอกาสทำกิจกรรมเพื่อสังคมมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ การได้ช่วยเหลือมูลนิธิหนึ่งที่ชื่อว่า "กลุ่มลูกเหรียง" ซึ่งเป็นมูลนิธิที่รับเด็กกำพร้าจากจังหวัดสามชายแดนภาคใต้มาดูแล คุณสรณัญช์และเพื่อนๆได้ช่วยเหลือด้วยการหาเงินให้เด็กกำพร้าเหล่านั้นทุกปีเพื่อเป็นทุนการศึกษา
หลังจากนั้นคุณสรณัญช์และเพื่อนๆได้มีโอกาสเข้าร่วมงานศพ และบังเอิญไปเห็นพวงหรีดจำนวนมากที่แขวนและตั้งอยู่ในงานศพ ประมาณสองถึงสามร้อยพวงได้
คุณสรณัญช์และเพื่อนๆ ได้สงสัยและคิดกันเล่นๆว่าพวงหรีดหนึ่งอันราคาน่าจะมีราคาประมาณ 2,000 บาท ซึ่งหากคูณจำนวนร้อยสองร้อยอันก็จะเป็นเงิน 4 ถึง 6 แสนบาทเลยทีเดียว
แถมเมื่องานศพสิ้นสุดลงพวงหรีดจำนวนมากมายเหล่านี้ยังกลายเป็นปัญหาขยะในภายหลังอีกด้วย
คุณสรณัญช์และเพื่อนๆ คิดว่าถ้าพวกเขาสามารถนำเงินที่สูญเปล่าเหล่านี้ไปช่วยเหลือเด็กๆที่เขากำพร้าพ่อแม่ได้ก็คงจะดี
จึงได้เกิดเป็นไอเดียทำธุรกิจเพื่อการกุศลและความยั่งยืนที่ช่วยเหลือสังคมอย่าง Carenation ขึ้นมานั่นเอง
โดยธุรกิจ Carenation นั้นเริ่มจากการจัดทำพวงหรีดที่มีชื่อว่า "พวงหรีดสานบุญ" ซึ่งทำโดยการนำกระดาษมาประกอบเป็นพวงหรีดให้สวยงาม
โดยกระดาษที่นำมาประกอบนั้น มาจากการรีไซเคิลและกระดาษจากป่าปลูกที่ได้การรับรองจากองค์การจัดการด้านป่าไม้ (FSC) ซึ่งย่อยสลายได้ง่ายและยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สาเหตุที่เลือกใช้กระดาษมาจัดทำเป็นพวงหรีดสานบุญ นั่นก็มาจากการที่คุณสรณัญช์และเพื่อนๆ ได้เล็งเห็นว่าพวงหรีดปกติทั่วไปนั้น มักจะกลายเป็นปัญหาให้แก่วัดที่ประกอบพิธีงานศพ
โดยในปีๆหนึ่งมีคนไทยที่เสียชีวิตเฉลี่ยประมาณ 400,000 คน ถ้าในงานศพหนึ่งมีพวงหรีดเฉลี่ย 10 พวง ก็เท่ากับว่าปีๆหนึ่งต้องมีขยะที่ย่อยสลายได้ยากถึง 4 ล้านชึ้น
ด้วยเหตุนี้เองพวงหรีดสานบุญของ Carenation จึงทำมาจากวัสดุประกอบและพลาสติกห่อที่ย่อยสลายได้ง่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั่นเอง
นอกจากนี้พวงหรีดสานบุญยังได้ถูกออกแบบมาให้ประกอบได้ง่ายและใช้เวลาเพียง 10-20 นาทีเท่านั้น และหลังจากการประกอบเสร็จสิ้นจะแทบไม่มีเศษกระดาษเหลือทิ้งเลย
และพวงหรีดสานบุญนี้จะประกอบขึ้นโดยคนในชุมชนเพื่อเป็นการให้โอกาสให้อาชีพและช่วยเหลือคนในชุมชน
เท่านั้นยังไม่พอรายได้ที่มาจากการขายพวงหรีดสานบุญ ทาง Carenation จะบริจาคให้แก่มูลนิธิและองค์กรการกุศลต่างๆ ตั้งแต่ 10% ถึง 40% โดยรายละเอียดต่างๆรวมถึงยอดบริจาคจะระบุไว้บนหน้าเว็บไซต์ของ Carenation
ซึ่งปัจจุบัน Carenation ได้เข้าร่วมกับมูลนิธิและองค์กรการกุศลแล้วกว่า 35 แห่ง และทาง Carenation ยังได้มีการทำงานร่วมกับ Unicef กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติอีกด้วย
นอกจากนี้เรายังสามารถนำใบเสร็จการบริจาคที่ได้จาก Carenation ไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ซึ่งหากเพื่อนๆสนใจจะสัั่งซื้อพวงหรีดสานบุญหรือของชำรวยอื่นๆจาก Carenation ก็สามารถทำได้ง่ายๆโดยสแกน QR CODE บนเว็บไซต์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสั่งซื้อได้ทาง Line ทุกวัน เวลา 08.00 – 19.00 น. โดยกรอกข้อมูล เลือกมูลนิธิที่ต้องการบริจาค ชำระเงินและแจ้งรายละเอียดการโอนเงิน
หลังจากนั้นทาง Carenation จะส่งรูปให้ตรวจก่อนและหลังการจัดส่ง ซึ่งจะจัดสั่งพร้อมใบเสร็จและใบอนุโมทนาบัตร โดยทาง Carenation จะบริการด้วยความโปร่งใสด้วยการแจ้งรายละเอียดและยอดบริจาคทั้งหมดให้แก่ผู้ซื้อได้ทราบเสมอ
คอนเซ็ปต์ธุรกิจขายพวงหรีดและของชำรวยเพื่อการกุศลและความยั่งยืนของแบรนด์ Carenation ได้กลายเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจและได้รับการชื่นชมอย่างมาก
เพราะทางแบรนด์ไม่ได้ต้องการให้พวงหรีดเป็นแค่เครื่องอนุสรณ์เพื่อให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสียเท่านั้น แต่ต้องการและมุ่งหวังที่จะให้การช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม
และไม่เพียงแต่ส่งกำลังใจให้แก่ครอบครัวผู้สูญเสียและช่วยเหลือสังคมเท่านั้น แต่ยังมอบผลประโยชน์แก่ผู้ซื้อโดยการนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วยนั่นเอง
เว็บไซต์ของ Carenation : https://care-nation.com/

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา