10 พ.ย. 2023 เวลา 04:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

The Marvels (2023) – มะรุมมะตุ้มสลับพลัง

แม้เส้นทางและกระแสในโลกภาพยนตร์ของหนังซูเปอร์ฮีโร่ในปีนี้ อาจจะไม่ได้เรียบหรูและน่าตื่นเต้น เฉกเช่นในปีที่ผ่าน ๆ มา แต่สำหรับจักรวาลมาร์เวล ก็ยังคงเดินหน้าต่อ แม้จะมีการถอยฉะออกมาตั้งหลักหลายรอบ อย่างไรก็ดี โครงการสุดท้ายของมาร์เวล สตูดิโอ ในปี 2023 คือหนังรวมพลังซูเปอร์ฮีโร่หญิง อย่าง The Marvels
The Marvels เล่าเรื่องต่อจากเหตุการณ์ในซีรีส์ Ms. Marvel ที่ กมลา ข่าน หนูน้อยฮีโร่จากย่านนิวเจอร์ซีย์ ถูกสลับตำแหน่งกับ แครอล เดนเวอร์ส หรือ “กัปตัน มาร์เวล” อย่างไม่คาดคิด โดยที่ทั้งสองจะค้นพบว่า ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ถูกสลับตำแหน่งผ่านกาลอวกาศ แต่มี โมนิก้า แรมโบ ถูกสลับตำแหน่งด้วย จากเป้าหมายสูงสุดของ ดาร์-เบนน์ ผู้นำคนใหม่ของชาวครี วางแผนเพื่อจะล้างแค้นจอมทำลายล้างบางอย่างกัปตันมาร์เวล
หนังพาเราเข้าไปสู่ความสดใสและเปี่ยมพลังวัยรุ่นของ กมลา ข่าน ฮีโร่หญิงคนใหม่ของจักรวาลได้มีเสน่ห์ ก่อนที่ความ “มะรุมมะตุ้ม” สลับพลังจะกลายเป็นกิมมิคสำคัญ ที่ทำให้เรื่องราวจากสามมุมของจักรวาล ผกผันเข้าหากัน และทำให้องก์แรกของหนังมาพร้อมความอลหม่านวุ่นวายหัวปั่นอยู่ไม่น้อย ก่อนที่ตัวหนังจะตบเข้าหาองก์สอง ที่ว่าด้วยการเดินทางไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของความมะรุมมะตุ้มของทั้งสามสาว
ค้นพบว่า ตัวหนังมีจังหวะการเล่าเรื่องที่โดดไปมาอยู่มากในช่วงแรก ทั้งความพยายามจะที่ต้องเรียบเรียงและลำดับฉากต่อสู้ ที่มีกิมมิคของการสลับพลังมาเกี่ยวข้อง ซึ่งก็ค้นพบว่า ก็ทำได้ค่อนข้างน่าประทับใจ ทั้งสร้างสรรค์และสนุกอยู่พอตัว รวมถึงเคมีที่ดูเข้ากันไม่เบา ระหว่าง บรี ลาร์สัน, เนโยนาห์ แพร์ริส และโดยเฉพาะ น้องอิมาน เวลลานี ที่เป็นตัวเพิ่มสีสันและเสียงหัวเราะ ในฐานะติ่งฮีโร่ได้ดีไม่เบา
แถม ตัวหนังยังสอดแทรกมิติทั้งตัวละครทั้งสามที่น่าสนใจ ทั้งภาวะทางอารมณ์ที่ตัวละคร เดนเวอร์ส ต้องเผชิญกับ แรมโบ เป็นครั้งแรก หรือการต้องเผชิญหน้า กับการทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้คน ในสเกลที่ใหญ่โตกว่าย่านบ้านแถบชานเมือง ในมุมมองของ กมลา ข่าน ก็เป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
นอกเหนือจากนี้ การวางแก่นของตัวร้ายอย่าง ดาร์-เบนน์ ก็มาพร้อมจุดประสงค์ที่ค่อนข้างน่าสนใจ และสะท้อนนัยยะทางการเมืองที่น่าขบคิด อีกทั้งยังแบ่งรับแบ่งสู้กับความข้นแค้นผ่านทางการแสดงของ ซาวี แอชตัน ได้ค่อนข้างพอเหมาะ และยัสอดรับการกิมมิคของการสลับพลัง ที่ว่าด้วยความยุ่งเหยิงผันผวนของมิติควอนตัม ซึ่งเป็นตัวแปรที่สำคัญของเส้นทางเฟสใหม่ของจักรวาลมาร์เวลได้ดีอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ตัวหนังยังคงเข้าขนบการนำเสนอมาตรฐานมาร์เวลแทบทั้งสิ้น ทั้งการสอดแทรกไปด้วยความตลก ผ่านการสร้างจังหวะเรียกเสียงหัวเราะ ฉากแอ็คชั่นที่โดดเด่นด้วยกิมมิคสลับพลัง ความบ้าบอคอแตกอีกหลายจังหวะที่ดูสร้างสรรค์ น่าเฮฮาไม่เบา และเคมีจากการแสดงระหว่างนักแสดงด้วยกัน ซึ่งทั้งหมด ก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นหนังที่ดูแล้วสนุก
แถมด้วยการตัดสินใจทำให้ตัวหนังมาพร้อมความยาวที่ค่อนข้างกระชับ ก็ดูเป็นดาบสองคม ที่ว่านัยนึง ตัวหนังก็สั้นกระชับจบไว มาพร้อมจังหวะที่ไม่ยืดยาดจนเกินไป และยังพอให้เราได้ประทับใจพอจะมีฉากจำ กระนั้นเองในทำนองเดียวกัน ปมบางส่วนก็ถูกเล่าอย่างรีบเร่งและรวบรัดจนน่าเสียดาย ที่ว่าหากเสริมหรือเพิ่มประเด็นที่แข็งแรงมากพอ มันจะเป็นหนังที่มีน้ำหนักและเลือดเนื้อมากพอตัว
กระนั้นเอง มันยังคงเป็นลูกสูตรที่ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่มากนัก มันยังคงถูกลำดับจัดวาง สรรค์สร้าง และดำเนินไปสู่หมุดหมายเดิม ที่หนังมาร์เวลหลายต่อหลายเรื่องยังคงตั้งเป้า นั่นคือ การเป็นความบันเทิงเพื่อ “ภายภาคหน้า” โดยที่ปลายทางของภายภาคนี้ ยังคงมาพร้อมบทสรุป ที่ใจจริงก็ไม่ได้เกินคาดเดามากมายนัก ไม่แม้กระทั่งการยั่วถึงภายภาคหน้า มันก็ยังคงเป็นความน่าประหลาดใจ ที่เราก็เดาได้ไว้ตั้งแต่ก่อนเดินเข้าโรง พลางจะให้แสร้งอุทานขึ้นมา เราก็คงไม่เชื่อตัวเองด้วยซ้ำ..
มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของ The Marvels
ความน่าสนใจเพียงไม่กี่อย่างของตัวหนัง ก็คือการที่หนังมันแอบว่าด้วยชาติพันธ์และสีผิวได้อย่างแยบยล ผ่านเรื่องราวที่ว่าด้วยการรุกรานอาณาเขต ผ่านเซ็ตติ้งของดวงดาวหลายดวงในจักรวาล ที่มาพร้อมวัฒนธรรมทรงภูมิและแตกต่างน่าแปลกตา ซึ่งไม่บังเอิญนัก เพราะตัวหนังเอง ก็นำมาด้วยภาพของหญิงสาวสามสีผิว ที่ต่างต้องผนึกกำลังร่วมมือผ่านความยุ่งเหยิงในระดับควอนตัม เพื่อแก้ไขภัยพิบัติระดับจักรวาล
แต่ขณะเดียวกัน มันก็บอกเล่าผ่านความชอกช้ำของตัวร้ายอย่าง ดาร์-เบนน์ ที่ต้องการจะฟื้นฟูพื้นฐานดาวบ้านเกิดตัวเองให้เป็นดั่งเดิม ผ่านวิธีการที่เรามักจะไม่ได้เห็นในขนบหนังฮอลลีวู้ด นั่นก็คือการช่วงชิงซึ่งทรัพยากรในระดับมหภาค แทนที่จะเข้ามารุกรานหรือยึดพื้นที่ เฉกเช่นตัวร้ายทั่วไป ซึ่งในตรงนี้เอง ที่มันสะท้อนกลับผ่านภาพของกัปตันมาร์เวล ซึ่งเป็นฮีโร่ผิวขาว และเคยโฉบเข้ามาทำลายรากฐานของสังคมต่างแดน ด้วยความหวังที่ว่ามันจะนำพาสังคมไปสู่ทิศทางที่ดี หากแต่มันกลับทำลายเสียสิ้นย่อยยับอย่างไม่คาดคิด
ไม่ว่า นัยยะตรงนี้จะสื่อถึงปฏิบัติการทหารฯ ในภาคพื้นไหน หรือเป็นการแฝงนัยยะเชิงการเมืองโดยตรงอะไรหรือไม่ แต่มันก็มาพร้อมประเด็นถกเถียงและมิติทางตัวละครฮีโร่ที่ค่อนข้างลุ่มลึกอย่างไม่น่าเชื่อ แต่กระนั้น ประเด็นเหล่านี้มันก็ถูกบอกผ่าน และส่งต่อไปยังฉากแอ็คชั่นอย่างน่าเสียดาย
สรุปแล้ว The Marvels คือหนังซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวล ที่ยังคงบอกเล่าในมาตรฐานลูกสูตรเดิม ที่ยังมาพร้อมองค์ประกอบของการเป็นหนังฮีโร่ที่อุดมไปด้วยการสร้างจังหวะเสียงหัวเราะ ความบ้าบอคอแตกเฮฮา ฉากแอ็คชั่นที่มีกิมมิคสลับพลังได้สร้างสรรค์ และเคมีที่ค่อนข้างเข้ากันของสามสาวนักแสดงนำ แม้มันจะไม่ได้มาพร้อมความแปลกใหม่ อีกทั้งการที่หนังสั้นลงจะเป็นดาบสองคมที่จบไวไม่ยืดยาด แต่ก็ไม่มีเวลาพอจะชูประเด็นจนแข็งแรง แต่โดยรวม มันก็อยู่ในเกณฑ์ที่สนุกได้แบบพอเพลิน ๆ
3.5 / 5
The Marvels (2023)
Directed by Nia DaCosta
Written by Nia DaCosta, Megan McDonnell & Elissa Karasik
Based on Marvel Comics

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา