ตอนที่ 2: วางแผน
โอเคเรามองภาพอนาคตตัวเองในไทยไม่ค่อยจะได้เท่าไรละ เก็บเงินยากแน่ๆ อนาคตไม่มีความแน่นอน ซึ่งเราไม่ชอบ ไม่ได้อยากเป็นภาระให้คนอื่น
ไม่อยากอยู่แบบเดือนชนเดือนไปวันๆ ความสุขของผมคือการได้เห็นเงินในบัญชีเยอะๆ อยากไปซื้ออะไรซื้อได้เลย กินอะไรก็สั่งได้เต็มที่ ไม่ต้องคอยเปิดแอพธนาคารดูว่า เงินกูจะเหลือเท่าไรวะ จะพอจ่ายไหม
ไหนจะอยากได้รถในฝันอีกราคาก็ไม่ได้ถูกจะซื้อรถบังคับมาแทนก็ใช่เรื่อง บ้านก็อยากมีไม่ได้อยากแค่สร้างบ้านในเกม The sims เพราะอยากได้โรงรถสวยๆไว้จอดรถตัวเองดีๆ มีห้องเล่นเกมสักห้อง
ที่สำคัญครอบครัวจะได้ไม่ต้องคอยเป็นห่วงว่าไอเด็กคนนี้มันจะไปรอดไหม
เรียนจบด้าน Digital Media มาสกิลติดตัวคือการถ่ายรูป(แวะชมที่ Focusonbbilr ได้นะ อิอิ) วิดิโอ แต่งภาพ ตัดต่อ กราฟฟิคนิดหน่อย การตลาดพอได้ นั่งคิดว่าจะไปต่อยอดอะไรดีวะ ที่เอาความรู้เดิมมาใช้ได้เลย
ในตอนที่คิดตอนนั้นอาชีพสาย Tech ก็ผุดขึ้นมาในหัว เราก็คิดได้ว่า เออด้าน Web Design ไหมอะ ทำอาชีพ UX/UI ได้ด้วย ไม่จำเป็นต้อง coding แบบ Front-End Dev ด้วย (***แต่ควรเข้าใจการโค้ดดิ้งบ้างนะครับเวลาทำงานเป็นทีมจะได้คุยกันรู้เรื่อง***)
เราก็มองดูตัวเลือกที่คัดกรองจากการหาข้อมูลตอนตัวเองกักตัวเพราะติดโควิทอยู่ ณ เวลานั้น
อเมริกาหรอ? ค่าเรียนแพงโคตรๆ วีซ่าก็ไม่น่าผ่านเพราะตอนนั้นลาออกจากงานแล้ว ก็คือว่างงานอะเอาสั้นๆ มีโอกาสถูกมองว่าจะโดดวีซ่าสูงแน่ Statement ไม่น่าไหว เรียนเสร็จจบมาต้องหานายจ้างให้ได้ทันที แล้วต้องมาลุ้นต่ออีกว่าจะโชคดีได้โควต้า H1B ไหม ที่สำคัญเราไม่ได้ต่อสาย STEM หรือ Healthcare ด้วย
ออสเตรเลียไหม ? แมลงเยอะรำคาญ คนไทยก็เยอะไหนๆจะไปแล้วขอไปที่ที่เราได้พัฒนาภาษาอย่างจริงจังละกัน บวกกับภรรยาไม่ได้อยากไปออสเตรเลียด้วย
สุดท้ายลงเอยที่ "แคนาดา" อ่าวแล้วเมืองอะไรดีวะ555555
นึกชื่อได้ 2 ที่ โตรอนโต้? แวนคูเวอร์? แต่ก็เลือกแวนคูเวอร์ เพราะง่ายๆครับ สภาพอากาศอุ่นที่สุด(ขนาดอุ่นสุดผมยังนั่งใส่เสื้อหนาวพิมพ์อยู่เลย5555)
และโรงเรียนที่หาไว้หลักๆมี 3 ที่ BCIT VCC และ Langara
1. BCIT - British Columbia Institute of Technology: สถาบันที่เรียนโหดโคตรๆเข้มข้นมากๆพูดได้เต็มปากเพราะภรรยาผมเรียนที่นี่ แต่เขามีการันตีเลยว่าจบที่นี่ได้งานแน่นอน คือก็เห็นหลายคนได้งานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบเยอะจากที่นี่ คนไทยหลายคนก็เลือกมาที่นี่
2. VCC - Vancouver Comunity College: เป็นตัวเลือกเพราะมีสอน Web Design/Development หลักสูตรค่อนข้างตรงใจพอสมควรและคะแนนภาษาผมก็น่าจะมีโอกาสยื่นได้
3.Langara College: เป้นตัวเลือกที่ดีมากอีกหนึ่งโรงเรียน เรียนไม่หนักมาก ค่าเทอมไม่ได้แพงเท่า 2 ที่ข้างบนแถมหลักสูตรก็ตรงกับที่เราอยากเรียนเป๊ะๆ
ช่วงสาระ ทำไมมาแคนาดา จริงๆมันมีอะไรที่น่าเลือกมากกว่าประเทศอื่นๆ?
คือถ้าเรียนจบจากสถาบันที่อยู่ใน Designated learning institutions list ของแคนาดาเนี่ย เรียนจบจะได้ PGWP สั้นๆคือวีซ่าทำงานสูงสุด 3 ปี ขึ้นอยู่กับว่าหลักสูตรเราเรียนนานไหม ระหว่างนั้นทำงานครบ 1 ปีภาษีสามารถยื่นขอ PR ได้เลยด้วย ปัจจัยที่ทำให้จะได้หรือไม่ได้ก็มีหลายอย่างตั้งเรียนวุฒิการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน อายุ ผลสอบภาษา(อังกฤษหรือฝรั่งเศส) ฯลฯ ไปหากันเอาเอง
การขอ Permanent Resident มีเส้นทางและขั้นตอนที่ค่อนข้างชัดเจน
สมมุติถ้าเป็น Citizen ที่นี่แล้วมีสิทธิ์ไปทำงานฝั่งอเมริกาได้ด้วยวีซ่า TN-1 วีซ่าตัวนี้เหมือนกับ H1B แหละแค่ไม่ต้องลุ้นโควต้า คือมันมี The North American Free Trade Agreement (NAFTA) ระหว่าง USA, Canada, Mexico อะไปอ่านกันเอาเองละกัน
เห็นไหมว่ามีโอกาสที่จะได้ทำงานได้ที่อเมริกาด้วยจากการเป็นพลเมืองแคนาดา
อ่านมาถึงตรงนี้บางคนอาจจะบอกว่า มันไม่ง่ายแบบที่พูดหรอก เออสิวะ ผมก็คิดเหมือนคุณๆว่าแน่นอนมันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆเราต้องใช้ความสามารถของเราเพื่อพิสูจน์ว่าเราคู่ควรกับมัน แต่ละขั้นตอนที่ต้องดู เอกสารมากมายที่ต้องยื่น การเรียนแต่ละเทอม การบริหารเวลาชีวิตให้ผ่านไปได้ด้วยดี วัฒนธรรม อาหารการกิน สภาพอากศที่ต้องเจอ
Ref. ภาพ - โทรศัพท์ผมเองอะ
#เบลอเบลอบิว
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
