ดัชนี ISM คืออะไร ทำไมถึงสามารถบ่งบอกถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้
ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจหดตัวเป็นเวลาสองไตรมาสติดต่อกัน ภาวะเศรษฐกิจถดถอยสามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อธุรกิจ ครัวเรือน และเศรษฐกิจโดยรวม
นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนมักใช้ดัชนีทางเศรษฐกิจต่างๆ เพื่อติดตามภาวะเศรษฐกิจและพยากรณ์ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ครั้งนี้จะพามาทำความรู้จักกับ ดัชนี ISM อีกหนึ่งตัวชี้วัดว่าเราใกล้หรือเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้วหรือยัง
ดัชนี ISM เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นไปยังสภาพโดยรวมของภาคการผลิตและภาคบริการในสหรัฐฯ ที่จัดทำขึ้นโดยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของสหรัฐฯ ชื่อว่าสถาบันการจัดการอุปทาน (Institute For Supply Management) ซึ่งจะมีการประกาศออกมาทุกๆเดือนในช่วงต้นเดือน
เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่ได้รับความเชื่อมั่นและมักถูกนักเศรษฐศาสตร์ นักลงทุน และผู้กำหนดนโยบาย นำมาอ้างอิงและประกอบการตัดสินใจในการลงทุนหรือดำเนินนโยบาย
ซึ่งทำให้ดัชนี ISM เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดสำคัญที่ใช้คาดการณ์ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือทำให้ทราบว่าขณะนี้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเป็นอย่างไร
โดยจะมีอยู่สองดัชนีหลักๆที่นิยมนำมาใช้ นั่นก็คือ ISM Manufacturing PMI และ ISM Services PMI ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้บ่งบอกถึงสถานการณ์ภาคการผลิตและการบริการ
- ●ISM Manufacturing PMI
จะเป็นการนำข้อมูล
- คำสั่งซื้อใหม่
- การผลิต
- การจ้างงาน
- การส่งมอบซัพพลายเออร์
- สินค้าคงคลัง
- สินค้าคงคลังของลูกค้า
- ราคา
- ยอดค้างคาสั่งซื้อ
- คำสั่งส่งออกใหม่
- การนำเข้า
ของภาคการผลิตทั้งหมดของประเทศมาคิดเป็นดัชนี
- ●ISM Services PMI
จะเป็นการนำข้อมูล
- กิจกรรมทางธุรกิจ
- คำสั่งซื้อใหม่
- การจ้างงาน
- การส่งมอบซัพพลายเออร์
- สินค้าคงคลัง
- ราคา
- ยอดค้างคาสั่งซื้อ
- คำสั่งส่งออกใหม่
- การนำเข้า
- ความเชื่อมั่นของสินค้าคงคลัง
ของภาคการบริการทั้งหมดของประเทศมาคิดเป็นดัชนี
โดยทั่วไปหากตัวเลขของดัชนีทั้งสองนี้อยู่เหนือกว่า 50 จะถือว่าเศรษฐกิจยังคงมีความแข็งแรงอยู่หรือกำลังขยายตัว ซึ่งหากต่ำลงกว่า 50 ลงมาจะถือว่าเศรษฐกิจเริ่มที่จะชะลอตัวลง
และตามสถิติแล้วเมื่อตัวเลขของดัชนีทั้งสองนี้อยู่ต่ำกว่า 45 เราจะถือว่าเศรษฐกิจได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- ■ISM Manufacturing INDEX
ที่มา Tradingeconomics
- ■ISM Services INDEX
ที่มา Tradingeconomics
แต่บางคนอาจให้ความสำคัญกับตัว ISM Manufacturing PMI มากกว่า เพราะการเปลี่ยนแปลงในภาคการผลิต มักจะสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโดยรวมได้รวดเร็วและชัดเจนกว่าการเปลี่ยนแปลงในภาคบริการ
ตัวอย่างเช่น
เมื่อเศรษฐกิจเข้าใกล้ภาวะถอถอย เศรษฐกิจก็จะเริ่มย่ำแย่เหล่าผู้ผลิตจะประเมินสถานการณ์ของพวกเขาว่าควรที่จะลดกำลังการผลิตหรือลดปริมาณสินค้าคงคลังหรือไม่
หากพวกเขาประเมินแล้วว่าความต้องการในตลาดไม่ได้มีมาก พวกเขาอาจเลือกที่จะลดกำลังการผลิต ซึ่งจะบ่งบอกถึงแนวโน้มภาคการผลิจที่อ่อนแอลง และสะท้อนไปในดัชนีได้เร็วกว่าภาคการบริการที่มีโครงสร้างที่ซับซ้อนกว่าภาคการผลิต
ภาคการบริการประกอบด้วยธุรกิจและอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น การขนส่ง การท่องเที่ยว ค้าปลีก อาหาร การเงิน และอื่นๆ ซึ่งแต่ละธุรกิจและอุตสาหกรรมในภาคบริการมีปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนซึ่งกันและกัน
ในทางกลับกัน ภาคการผลิตมีโครงสร้างที่เรียบง่ายกว่า ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยธุรกิจที่ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าทุน
กล่าวคือ เพราะภาคการบริการมีองค์ประกอบมากกว่าภาคการผลิต จึงทำให้ตัวเลขสะท้อนไปยังดัชณีได้ช้ากว่านั่นเอง
ซึ่งหากอ้างอิงตามแผนภูมิ ปัจจุบันภาคการผลิตของสหรัฐฯ ได้เข้าใกล้ตัวเลข 45 แล้ว หมายความว่าภาคการผลิตสหรัฐฯอ่อนแอจนใกล้ระดับเดียวกับก่อนเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอดีต ซึ่งแตกต่างจากภาคบริการที่ยังคงแข็งแรงดีอยู่
เราจึงอนุมานได้ว่าดัชนีภาคการผลิตได้ชี้นำภาวะเศรษฐกิจโดยรวมไปแล้ว อาจเป็นไปได้ว่าดัชนีภาคการบริการจะมีการปรับตัวลดลงหลังจากนี้ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการคาดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
อย่างไรก็ดี ข้อมูลจากแหล่งต่างๆมักให้มุมมองที่แตกต่างเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ การอ้างอิงข้อมูลจากหลายๆแหล่ง ช่วยให้สามารถมองเห็นภาพรวมที่สมบูรณ์ของสภาพเศรษฐกิจได้ดียิ่งขึ้น และสามารถคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
นอกจากนี้ ข้อมูลจากแหล่งต่างๆยังสามารถช่วยยืนยันหรือหักล้างการคาดการณ์ของกันและกันได้ และต้องไม่ลืมว่าไม่มีข้อมูลใดที่สามารถคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้อย่างแม่นยำ 100%
ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการที่ยากที่จะคาดการณ์ล่วงหน้าก็เป็นได้
References:
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
