25 พ.ย. 2023 เวลา 11:10 • ประวัติศาสตร์
ฝรั่งเศส

ฝรั่งเศส ตอนที่ 2 จักรพรรดิแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Roman Empire)

จะขออธิบายเกี่ยวกับจักรวรรดิโรมันกับจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ 2 อาณาจักรนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกันนะครับ โดยจะขอยกวลีที่เข้าใจง่ายที่สุด
จักรวรรดิแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์นั้น ไม่มีส่วนไหนที่ศักดิ์สิทธิ์ มันไม่มีความเป็นโรมัน และมันก็ไม่ใช่จักรวรรดิอีกด้วย
กล่าวโดย ฟร็องซัว-มารี อารูเอ (วอลแตร์)
ฟร็องซัว-มารี อารูเอ (วอลแตร์) สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งช่วงท้าย
หลังจากที่พระเจ้าเปแป็งได้ขึ้นครองบัลลังและตั้งชื่อราชวงศ์คาโรแล็งเชียง พระองค์มีบุตรชาย 2 คน ก็คือ คาร์โลแมน(Carloman) และ ชาร์ลเลอมาญ (Charlemagne)
ในเวลานั้นพื้นที่ยุโรปตอนกลางก็คือ พื้นที่ฝรั่งเศส เบเนลักซ์ เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย ฮังการี และตอนเหนือของอิตาลี เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่
1
เมื่อพระเจ้าเปแป็งสิ้นพระชนม์ ทำให้บุตรทั้งสองแบ่งพื้นที่ออกมาครองเท่าๆกัน แต่ด้วยความเหตุบังเอิญทำให้คาร์โลแมนผู้เป็นน้องเสียชีวิตไปก่อน ทำให้ไม่เกิดสงครามกลางเมืองกัน มีผลให้ชาร์ลเลอมาญเป็นผู้นำของขาวแฟรงก์แต่เพียงผู้เดียว
ในปี ค.ศ.795 ณ กรุงโรมสถานที่พำนักของพระสันตะปาปาของศาสนาคริสต์โรมันคาทอลิก สมเด็จพระสันตะปาปาเอเดรียนสิ้นพระชนม์ โดยตามธรรมเนียมก็จะมีการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่โดยพระคาร์ดินัล
ผลการเลือกตั้งถือว่าผิดไปจากความคาดหมายเพราะผู้ที่ชนะการเลือกตั้งนั้นมีพระนามว่า สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 3 พระองค์นั้นไม่ใช่ชาวโรมันเหมือนองค์ก่อน เชื่อว่าพระองค์เป็นชาวกรีก และยิ่งไปกว่านั้นชาติกำเนิดของพระองค์เป็นชาวบ้านที่ยากจนมาก่อน ทำให้เกิดความไม่พอใจในพระคาร์ดินัลองค์อื่นๆ และชาวคริสต์หัวโบราณ
พระเจ้าชาร์เลอมาญ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งช่วงท้าย
ด้วยความที่สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 3 ไม่มีคนสนับสนุน ไม่มีผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง ไม่มีสถานภาพใดๆ ไม่มีกำลังทหาร ทำให้ตกเป็นเหยื่อของการทำร้ายและโดนทรมานโดยกลุ่มที่เกลียดพระองค์ เช่น การโดนตัดสิ้น ควักลูกตา ร่วมถึงการเนรเทศออกไป
เวลานั้นคนที่พระสันตะปาปาลีโอที่ 3 พอที่จะพึ่งพาได้ก็คือ กษัตริย์ของชาวแฟรงก์ซึ่งเพิ่งจะสถาปนาตัวเองขึ้นมาบนพื้นที่ทางตอนเหนือของโรม ก็คือ พระเจ้าชาร์ลเลอมาญ จึงได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือเพื่อทำให้พระองค์ได้กลับไปเป็นประมุขของศาสนาจักรอีกครั้งหนึ่ง
โดยขอให้มีความคุ้มครองและการสนับสนุน ด้วยความที่ พระเจ้าชาร์ลเลอมาญ เป็นกษัตริย์ที่มีความเมตตาจึงให้ความช่วยเหลือ โดยใช้กำลังทหารปกป้องแล้วช่วยให้พระสันตะปาปาลีโอที่ 3 กลับไปดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาสืบต่อไปอีกวาระหนึ่ง แม้ว่าจะมีกระบวนการพิสูจน์บาปแต่สุดท้ายแล้วพระสันตะปาปาลีโอที่ 3 ก็ได้ดำรงตำแหน่งประมุขของศาสนาจักรแห่งโรมันคาทอลิกอีกครั้ง
ชาร์เลอมาญรับการสวมมงกุฎโดยพระสันตะปาปาให้เป็นจักรพรรดิแห่งชาวโรมัน
สิ่งที่พระเจ้าชาร์ลเลอมาญอาจจะหวังอยู่ลึกๆว่า อยากให้พระสันตะปาปาสถาปนาตัวเองเป็นจักรพรรดิแห่งโรม เพราะตัวเองมีทุกอย่างพร้อมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นทหาร สถานภาพ ดินแดน อำนาจ แล้วก็เคยช่วยพระสันตะปาปา แต่อย่างที่เราได้กล่าวไว้ตอนต้นว่า จักรวรรดิโรมหรือจักรวรรดิโรมันตะวันออกมีกษัตริย์อยู่แล้ว ก็คือไบแซนไทน์
สถานการณ์ของ ไบแซนไทน์ ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล ณ เวลานั้นเกิดความวุ่นวายทางการเมืองในราชสำนักเพราะพระนางไอรีน ซารันตาเปชาอีนา พระชายาของจักรพรรดิเลโอที่ 4 และเป็นมารดาของคอนสแตนติที่ 6 ได้ทำการยึดอำนาจของบุตรชายตัวเอง ตั้งตัวเองเป็นพระจักรพรรดินีแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิล ในปี ค.ศ.797
พระนางไอรีน ซารันตาเปชาอีนา
ทำให้ศาสนาจักรที่โรมเกิดความลังเลเพราะพระจักรพรรดิทุกพระองค์เป็นชายทั้งหมดเลย ในฐานะที่พระสันตะปาปาเป็นตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้าควรจะสวมมงกุฏให้กับพระนางไอรีนหรือไม่ จุดนี้เองที่พระสันตะปาปาลีโอที่ 3 สบโอกาสแล้วได้ใช้วันคริสต์มาสของปี ค.ศ. 800 ประกาศสถาปนาพระจักรพรรดิชาร์ลเลอมาญ กษัตริย์ของชาวแฟรงก์เป็นจักรพรรดิแห่งโรม คำว่าอันศักดิ์สิทธิ์ยังไม่มีนะครับ แต่บ้างข้อมูลก็ให้นับว่าพระจักรพรรดิชาร์ลเลอมาญเป็นปฐมกษัตริย์ของจักรพรรดิแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
เมื่อพระเจ้าชาร์ลเลอมาญสวรรคต พระเจ้าลูทวิชที่ 1 หรือที่นิยมเรียก หลุยส์ผู้ศรัทธาก็สืบราชบัลลังต่อ แต่ผลงานและความสามารถไม่อาจเทียบกับพระเจ้าชาร์ลเลอมาญผู้พ่อได้ ทำให้ประเทศที่อยู่ตามแนวชายขอบเริ่มที่จะประกาศตัวเป็นอิสระ
พระเจ้าลูทวิชที่ 1 ได้มีพระราชโอรส 3 พระองค์ ได้แก่เจ้าชายโลทาร์, เจ้าชายเปแป็ง และเจ้าชายลูทวิชที่ 2 ทั้ง 3 คนตกลงกันไม่ได้ที่ว่าใครจะเป็นผู้สืบทอดราชบัลลัง อันที่จริงพระเจ้าลูทวิชที่ 1 อยากมอบบัลลังให้กับโลทาร์ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตแต่ธรรมเนียมของชาวแฟรงก์ไม่เหมือนกับที่อื่น กล่าวคือต้องให้สมบัติกับบุตรทุกคนเท่ากัน ทำให้ไม่สามารถหาข้อตกลงที่ลงตัวได้
จักรวรรดิแฟรงค์ในยุคที่รุ่งเรืองที่สุดแสดงการแบ่งเป็นสามส่วนในปี ค.ศ. 843
จนในที่สุดพระราชโอรสทั้ง 3 พระองค์ ตัดสินใจที่แยกแบ่งแผ่นดินของพระเจ้าชาร์ลเลอมาญผู้ที่เป็นปู่ออกเป็น 3 ส่วน แล้วได้ทำสนธิสัญญาแวร์เดิง
  • โลทาร์ได้รับดินแดนตอนกลางของจักรวรรดิที่ต่อมาเป็นกลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำ ลอร์แรน, อัลซาซ, ภูมิภาคเบอร์กันดี, พรอว็องส์ และ ราชอาณาจักรอิตาลี (เฉพาะครึ่งเหนือของคาบสมุทรอิตาลี) ที่เรียกรวมกันว่า “ราชอาณาจักรแฟรงค์กลาง” (Middle Francia) นอกจากนั้นพระองค์ก็ยังทรงฟื้นฟูราชนครสองนครอาเคินและโรม และถือว่าเป็นทำเลที่แย่ที่สุด แคบที่สุดแถมตอนล่างทั้งหมดติดกับเทือกเขาแอลป์ มีความหมายว่าไม่สามารถจะใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทั้งผืนได้
  • เจ้าชายลูทวิชที่ 2 (ชาร์ลส์เดอะบอลด์) ได้รับ “ราชอาณาจักรแฟรงค์ตะวันตก” (West Francia) ที่ต่อมาเป็นฝรั่งเศส
  • เจ้าชายเปแป็ง(ลุดวิกเดอะเยอรมัน)ได้รับ “ราชอาณาจักรแฟรงค์ตะวันออก” (East Francia) และทรงได้รับตำแหน่งกษัตริย์ของดินแดนทางตะวันออกของแม่น้ำไรน์ทั้งหมด และทางเหนือและทางตะวันออกของอิตาลี ที่ต่อมาเป็นจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และต่อมาเป็นเยอรมนีในปัจจุบัน
ภายหลังราชอาณาจักรแฟรงค์ตะวันตกของกษัตริย์ชาร์ลส์เดอะบอลด์ไม่ได้มีบทบาทที่เกียวกับจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เพราะมีศัตรูคู่อาฆาตคู่ใหม่คืออังกฤษ
ตอนต่อไป ปฐมกษัตริย์แห่งฝรั่งเศส
ฝากกดถูกใจ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
Reference ฝรั่งเศส ตอนที่ 2

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา