23 ธ.ค. 2023 เวลา 04:30 • หนังสือ

เรื่องง่ายๆ : อย่าทำให้มันวุ่นวายดีกว่าน่า

ผมซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านด้วยมีคนแนะนำว่าเป็นนิยายขนาดสั้น เล่มบางๆ อ่านแป๊บเดียวจบ ที่สำคัญคือสนุกดี
ผมเชื่อครับเพราะเป็นคนหัวอ่อน
ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงแวะไปตามแผงข้างบ้าน ตอนนี้เขาเลิกกิจการแล้วปล่อยให้ร้านค้าอย่างอื่นมาแทน ผมเลยต้องระเห็ดไปซื้อตามศูนย์หนังสืออื่นๆ ไม่ก็สั่งตามเน็ตแทน
บางเล่มก็โอเคดี บางเล่มก็ เฮ้อ ซื้อมาได้ไงวะ
ยังดีที่เล่มนี้อยู่ในข่ายแรกครับ
หนังสือเล่มนี้ชื่อ Una storia semplice ประพันธ์โดย Leonardo Sciascia ชาวอิตาเลี่ยนครับ ชื่อไทยคือเรื่องง่ายๆ แปลโดย นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์อ่านอิตาลี
ต่อไปนี้คือคำโปรยปกหลังครับ
ศพ
ยาเสพติด
ภาพเขียนที่หายไป
มาเฟียแห่งเกาะซิซิลี
เรื่องง่ายๆที่แสนซับซ้อน
...
...
...
เปิดเรื่องมาเราจะพบว่ามีชายคนหนึ่งโทรหาตำรวจด้วยเรื่องอะไรบางอย่าง ปลายสายอยากให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่วิลลา(บ้าน)ในเวลานั้นเลย
ตำรวจที่เป็นจ่ารับเรื่องและจะเข้าไปตรวจสอบแต่สารวัตรห้ามไว้และบอกว่าน่าจะเป็นเรื่องล้อเล่นมากกว่าเพราะวิลลาแห่งนั้นไม่มีคนอยู่อาศัยมานานแล้ว
วันต่อมาก็พบศพ
ศพนั้นคือคนที่แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบที่วิลลานั่นเอง
เรื่องมันก็เลยอินุงตุงนังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ตำรวจท้องที่ทำท่าว่าจะเป่าให้เป็นเรื่องฆ่าตัวตายแต่ดันมีเหตุให้คดีขยายวงออกไปเพราะพบศพนายสถานีรถไฟกับลูกน้องเพิ่มอีก
ดูๆแล้วไม่น่าจะเกี่ยวกันนี่
แต่มันดันเกี่ยวข้องกันอย่างเหลือเชื่อ
ที่เหลือหากเป็นไปได้ขอให้ไปอ่านเอาเองครับ
หนังสือนิยายเล่มนี้เขียนด้วยสำนวนง่ายๆ ไม่ซับซ้อน มีจิกกัดเป็นปกติ ในเรื่องคนที่มีชื่อเรียกจริงๆจังๆจะมีแค่คนสองคนเท่านั้น นอกนั้นจะเรียกชื่อตำแหน่งหรือบรรยายสรรพคุณมากกว่า เช่น จ่า, สารวัตร, ผู้การ, อาจารย์, อัยการ หรือจะเป็นเจ้าของรถวอลโว่ เป็นต้น
ผู้เขียนใช้วิธีบรรยายว่าเกิดอะไรขึ้นสลับกับบทสนทนาไปตลอดเรื่อง ทั้งหมดจะเห็นได้ชัดเจนว่าโดยเนื้อแท้แล้วไม่มีใครอยากจะรับผิดชอบคดีหรืออยากทำอะไรที่มันซับซ้อนหรอก ต้องการข้อสรุปที่ง่ายๆ โบ้ยไปว่าฆ่าต้วตัวตายบ้าง ปืนลั่นขณะทำความสะอาดบ้าง ทั้งที่เรื่องที่เกิดขึ้นถ้ามีการตั้งข้อสังเกตจะเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นฆาตกรรมแบบมีผู้สมรู้ร่วมคิดและมีการพยายามปิดปากพยานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แต่สุดท้ายเรื่องมันก็สรุปให้เป็นเรื่องง่ายๆตามชื่อหนังสือนี่เอง
ง่ายซะไม่มี
ในฐานะคนอ่านแถมยังเป็นคนวงนอกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้นกับเรื่องนี้ อ่านแล้วก็ อะไรวะ ไม่เห็นว่าตำรวจหรือผู้เกี่ยวข้องคิดจะทำอะไรเลย มีแค่จ่าเท่านั้นที่ดูจะจริงจังกว่าคนอื่นแต่ก็ค่อนไปทางมโนนึกเอาเองมากอยู่
ยิ่งตอนท้ายเรื่องยิ่งแล้วใหญ่
บาทหลวงทักเจ้าของรถวอลโว่ว่าคุ้นหน้าซึ่งสุดท้ายแล้วเจ้าของรถก็จำได้ว่าเจอบาทหลวงที่ไหน
แต่เขาเองก็คิดขึ้นได้
"แล้วเขาจะไปหาเรื่องเดือดร้อนอีกทำไมวะ แถมยังหนักกว่าเดิมเสียอีก" *(หน้า74)
ก็ตาเจ้าของรถแกถูกขังทั้งที่ตำรวจเองนั่นล่ะที่เรียกแกมาสอบปากคำในฐานะพยานคดีพบศพนายสถานีรถไฟกับลูกน้อง กว่าจะถูกปล่อยออกมาก็แทบจบเรื่องแล้ว
เป็นผมคงจะเข็ดเขี้ยว
จะไปหาเรื่องเดือดร้อนอีกทำไมวะ
เออ นั่นสิ
จริงของแกเหมือนกัน
ธุระไม่ใช่...
กล่าวโดยสรุปเรื่องนี้คือนิยายจิกกัดวิพากษ์วิจารณ์สังคมที่มักง่ายและดูดายต่อความเป็นไปของคนอื่นๆในสังคมเดียวกันด้วยการทำทุกอย่างให้เป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แถมด้วยเรื่องทุจริต อาชญากรรมและผู้มีอิทธิพลระดับต่างๆในสังคม
ไม่ใช่เรื่องของกูนะเว้ย ไม่เอา เดี๋ยวมีอะไรขึ้นมากูจะพลอยซวยไปด้วย
จัดการมันเสร็จเดี๋ยวเรื่องมันก็เงียบไปเอง ใครมันจะมาสนใจ
เอาน่า ตีให้มันเป็นเรื่องง่ายๆดีกว่า จะได้ไม่ต้องทำอะไรให้มากความ ไม่ต้องอธิบายกันเยอะ โยนๆมันทิ้งไปบ้างก็ได้
นี่สิที่เรียกว่าชีวิตจริงของคน
แล้วก็มามักง่ายสรุปกันเพราะไม่อยากให้เรื่องมันยืดเยื้อวุ่นวายต่อไป
อ่านแล้วเจ็บปวด
แต่ถ้าเป็นเราเองก็คงเลือกที่จะทำให้มันเป็นเรื่องง่ายๆน่าจะดีกว่ากระมัง
อย่าทำอะไรให้ยุ่งยากซับซ้อน
โยนมันทิ้งไปบ้างก็ได้
เรื่องง่ายๆ
แค่นี้เอง
หึหึหึ
(มองบนแป๊บ)
โฆษณา