Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สารตั้งต้น
•
ติดตาม
3 มี.ค. เวลา 02:00 • การศึกษา
การบริหารความขัดแย้ง (Conflict Management) อย่างมีศิลปะ
ความขัดแย้ง สามารถเกิดได้กับทุกคน ทุกเวลา ตั้งแต่ในครอบครัว โรงเรียน ที่ทำงาน สังคม และ ประเทศ ดังที่เราทุกคนน่าจะมีประสบการณ์มากันมากหรือน้อยแตกต่างกันไป ดังนั้น ทักษณะการบริหาร หรือ จัดการความขัดแย้ง ถือเป็นทักษะสำคัญที่จะใช้จัดการความขัดแย้งให้ได้ผลลัทธ์ตามที่เราต้องการ
การบริหารความขัดแย้ง (Conflict Management) คือกระบวนการแก้ไขข้อพิพาทที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ เพื่อลดผลลัพธ์เชิงลบที่อาจเกิดขึ้นและสร้างโอกาสสำหรับผลลัพธ์เชิงบวกมาแทนที่
ความขัดแย้งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ในทุกสังคม ทั้งในชีวิตประจำวัน การทำงาน และ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ความขัดแย้งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความแตกต่างของความคิดเห็น ทัศนคติ ค่านิยม ความเชื่อ ผลประโยชน์ หรือความต้องการ
ความขัดแย้งอาจเป็นเชิงบวกหรือเชิงลบ ความขัดแย้งเชิงบวกสามารถนำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งเชิงลบสามารถทำลายล้างได้และอาจทำลายความสัมพันธ์ ขัดขวางการทำงาน และนำไปสู่ความรุนแรง
การบริหารความขัดแย้งมีเทคนิคพิเศษหลายประการ เทคนิคเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่
1. เทคนิคเชิงป้องกัน (Preventive Techniques) เป็นเทคนิคที่ใช้เพื่อลดโอกาสที่ความขัดแย้งจะเกิดขึ้น เทคนิคเหล่านี้ ได้แก่
1.1 การสร้างความไว้วางใจและความเคารพระหว่างกัน
1.2 การการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
1.3 การแก้ไขความขัดแย้งตั้งแต่เริ่มแรก
2. เทคนิคเชิงแก้ไข (Resolution Techniques) เป็นเทคนิคที่ใช้เพื่อแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้นแล้ว เทคนิคเหล่านี้ ได้แก่
2.1 การสื่อสาร (Communication) การสื่อสารที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแก้ไขข้อขัดแย้ง ซึ่งรวมถึงการฟังอย่างกระตือรือร้น การพูดที่กล้าแสดงออก และ การสื่อสารที่ชัดเจน กระชับ และ ให้เกียรติ
2.2 การแก้ปัญหา (Problem-solving) การแก้ไขข้อขัดแย้งมักเกี่ยวข้องกับการระบุสาเหตุของความขัดแย้ง จากนั้นจึงทำงานร่วมกันเพื่อค้นหาแนวทางแก้ไขที่ตรงกับความต้องการของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
2.3 การประนีประนอม (Compromise) การประนีประนอมเป็นกระบวนการในการค้นหาแนวทางแก้ไขที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นี่อาจเกี่ยวข้องกับการที่แต่ละฝ่ายสละสิ่งที่พวกเขาต้องการ บางครั้งวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ไขข้อขัดแย้งคือการหาทางประนีประนอม ซึ่งหมายความว่าแต่ละคนเต็มใจสละบางสิ่งบางอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
2.4 การไกล่เกลี่ย (Mediation) การไกล่เกลี่ยเป็นกระบวนการที่บุคคลที่สามที่เป็นกลางช่วยให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบรรลุข้อยุติ หากคนสองคนไม่สามารถแก้ไขข้อขัดแย้งได้ด้วยตนเอง คนกลาง คือ บุคคลที่สามที่เป็นกลางซึ่งสามารถช่วยให้ทั้งสองคนสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
2.5 การอนุญาโตตุลาการ (Arbitration) หากการไกล่เกลี่ยไม่ประสบผลสำเร็จ บุคคลสองคนที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งอาจเลือกที่จะไปดำเนินการอนุญาโตตุลาการ ในการอนุญาโตตุลาการ บุคคลที่สามที่เป็นกลางจะรับฟังข้อโต้แย้งจากทั้งสองฝ่ายและทำการตัดสินใจที่มีผลผูกพันทั้งสองฝ่าย
วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการความขัดแย้งขึ้นอยู่กับสถานการณ์เฉพาะ คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการแก้ไขข้อขัดแย้งอย่างสันติและสร้างสรรค์ได้โดยใช้กลยุทธ์หนึ่งหรือหลายข้อที่ระบุไว้ข้างต้น อย่างไรก็ตาม เคล็ดลับทั่วไปบางประการในการจัดการข้อขัดแย้งอย่างมีประสิทธิผล ได้แก่:
1.
มีสติและใจเย็น
2.
มุ่งเน้นไปที่ปัญหา ไม่ใช่ตัวบุคคล
3.
ใช้คำว่า "ฉัน" เพื่อแสดงความรู้สึกของคุณ
4.
รับฟังมุมมองของผู้อื่นอย่างกระตือรือร้น และ สุภาพ
5.
คู่ขัดแย้งเต็มใจที่จะประนีประนอม
6.
มุ่งเน้นการค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
ประโยชน์เพิ่มเติมบางประการของการจัดการความขัดแย้งที่มีประสิทธิผล:
- ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น เมื่อมีการจัดการความขัดแย้งอย่างมีประสิทธิผล ก็จะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นได้ เนื่องจากความขัดแย้งสามารถช่วยให้ผู้คนเข้าใจความต้องการและมุมมองของกันและกันได้ดีขึ้น
- ความคิดสร้างสรรค์ที่เพิ่มขึ้น บางครั้งความขัดแย้งอาจนำไปสู่แนวคิดและวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆ เมื่อผู้คนสามารถแสดงความเห็นไม่ตรงกันด้วยความเคารพ อาจนำไปสู่สภาพแวดล้อมที่สร้างสรรค์มากขึ้น
- การตัดสินใจที่ดีขึ้น เมื่อความขัดแย้งได้รับการจัดการอย่างมีประสิทธิผล ก็สามารถนำไปสู่การตัดสินใจที่ดีขึ้นได้ เนื่องจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีโอกาสแสดงความคิดเห็นและข้อกังวลของตน
- ความเครียดที่ลดลง ความขัดแย้งสามารถเป็นสาเหตุสำคัญของความเครียดได้ เมื่อจัดการความขัดแย้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยลดระดับความเครียดสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องได้
โดยรวมแล้ว การจัดการข้อขัดแย้งเป็นทักษะอันทรงคุณค่าที่จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ทั้งในด้านส่วนตัวและด้านอาชีพ การจัดการความขัดแย้งเป็นทักษะอันทรงคุณค่าที่สามารถนำไปใช้ได้ในทุกด้านของชีวิต
สารตั้งต้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคน เพราะคำว่า "ไม่รู้" ทำคนเสีย "น้ำตา" มามากแล้ว
ถ้าเนื้อหาถูกใจ ช่วยกดติดตาม กดไลท์ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจ
แลกเปลี่ยนความเห็น ติชม สอบถาม แนะนำเนื้อหาได้นะครับ
#สารตั้งต้น #ConflictManagement #Communication #Problem-solving #Compromise #Mediation #Arbitration
พัฒนาตัวเอง
ความรู้รอบตัว
สังคม
บันทึก
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning)
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย