8 ธ.ค. 2023 เวลา 14:14 • ธุรกิจ

ทำไม Tesla ถึงส่งเอกสารการออกแบบรถไฟฟ้าระบบ 48V ให้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อื่นแบบฟรี ๆ

เรียกได้ว่าช็อคโลกสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์กันเลยทีเดียวเพราะ Tesla ที่เพิ่งเปิดตัวและส่งมอบ Cybertruck ให้ได้ทดสอบประสิทธิภาพกันไป ได้ส่งเอกสารการออกแบบระบบไฟฟ้าแรงดัน 48 โวลล์และเทคโนโลยี steer-by-wire ที่เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีหัวใจหลักของ Cybertruck ให้กับ CEO ของผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ หลายรายไม่สนใจว่าจะเป็นคู่แข่งหรือไม่
2
โดยเอกสารการออกแบบฉบับที่ลงลายเซ็นของ อีลอน มัสก์ กำกับไว้นี้ ถูกส่งให้กับเหล่า CEO ของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่หลายรายผ่านทาง e-mail
ซึ่งตอนแรกก็มีคนคิดว่าเป็นแค่การ PR ของ Tesla หรือเปล่า แต่ล่าสุดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา Jim Farley CEO ของฟอร์ดได้ออกมายืนยันใน X ว่าเขาได้รับเอกสารดังกล่าวจริง
โพสใน X ที่ยืนยันว่ามีการส่งเอกสารการออบแบบนี้ให้ CEO ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ จริง
ซึ่งเทคโนโลยีที่ Tesla แชร์ให้ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ นี้ไม่ใช่แค่ระบบไฟ 48V เท่านั้นแต่ยังรวมถึง steer-by-wire เทคโนโลยีการควบคุมและขับเคลื่อน 4 ล้ออิสระของ Cybertruck เรียกได้ว่าให้หมด ให้ฟรี มีข้อแม้แค่ต้องเอาไปต่อยอดให้ได้ดีกว่าที่ Tesla ทำ ห้ามลอกเอาไปใช้เฉย ๆ ทั้งดุ้น เรียกว่าถ้าทำได้ดีกว่าเราเอาไปเลยจ้า
สำหรับระบบไฟ 48V และเทคโนโลยี steer-by-wire นี้ไม่ใช่ Tesla เจ้าแรกที่ทำเพราะก่อนหน้านี้ฟอร์ดก็เริ่มนำมาใช้แล้ว แต่ Tesla พัฒนาต่อยอดไปอีกขั้น
ฟอร์ดก็กำลังพัฒนาแพลตฟอร์ม 48V สำหรับรถ BEV อยู่เช่นกัน
** แล้วเทคโนโลยี 48V นี่ดียังไง? **
ด้วยการเพิ่มแรงดันไฟให้กับระบบต่าง ๆ ภายในรถจะทำให้ลดขนาดและจำนวนสายไฟรวมถึงอุปกรณ์ในระบบไฟฟ้า นั่นหมายถึงลดน้ำหนักตัวรถซึ่งมีผลอย่างมากต่อสมรรถนะและประสิทธิภาพการใช้พลังงานของรถไฟฟ้า
1
อย่าง Cybertruck ที่ได้ทั้งความถึกอึด ความแรง และความคล่องตัว ก็ด้วยอานิสงค์จากแพลตฟอร์ม 48V และ steer-by-wire ระบบบังคับเลี้ยวที่ไม่มีก้านพวงมาลัย
ซึ่งแน่นอนว่าระบบบังคับเลี้ยวแบบใหม่นี้ลดอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักไปได้เยอะทีเดียวเมื่อเทียบกับระบบบังคับเลี้ยวแบบเดิมที่ใช้กันอยู่
ไม่มีแล้วก้านพวงมาลัยสำหรับระบบบังคับเลี้ยว ทุกการควบคุมและสื่อสารสำหรับระบบบังคับเลี้ยวทำผ่านสายส่งสัญญาณแทน
นอกจากนั้นเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกแชร์ออกไปนี้ยังมีจุดเด่นอื่น ๆ อีก อาทิเช่น
- เพิ่มความเร็วในการชาร์จไฟ
- เพิ่มความเร็วในการตอบสนองต่อการควบคุมรถ
** แล้ว Tesla จะทำไปเพื่ออะไร? เป็นนักบุญเหรอ? **
เรียกได้ว่าการแจกเทคโนโลยีนี้ก็เหมือนกับแจกข้อสอบ ไม่ต้องเสียเงินเสียเวลาไปนั่งวิจัยพัฒนากันเอง เอาไปต่อยอดฟรีไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ Tesla ทำไปแล้วจะได้อะไร
การกระทำในครั้งนี้ดูเหมือน Tesla นั้นไม่ใช่แค่การเป็นเจ้าตลาดรถ EV เท่านั้น แต่หากเป็นการกวาดเอารถเครื่องยนต์สันดาปออกไปจากถนนให้สิ้นโดยเร็วที่สุด
แจงรายละเอียดยิบแนวการเดินสายจุดเชื่อมต่อสัญญาณไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถ ฯลฯ
แล้วมันจะไม่เกิดผลเสียกับคู่แข่งเหรอ ยื่นดาบให้ศัตรูชัด ๆ ?
อันนี้ก็แล้วแต่มุมมอง ถ้าจุดหมายคือเป็นผู้ทำเทรนวางมาตราฐานใหม่ของอุตสาหกรรมรถยนต์กวาดรถเครื่องยนต์สันดาปให้สูญพันธ์ุ การติดอาวุธกับเหล่าผู้ผลิตที่เปลี่ยนใจมาผลิตรถ EV จะเป็นการสร้างการแข่งขันและบางทีอาจเป็นการสร้างความร่วมมือในการพัฒนา
1
ซึ่งจะเป็นตัวเร่งให้อุตสาหกรรมรถ EV มีพัฒนาการก้าวกระโดดกว่าที่เป็นอยู่ และแน่นอนว่า Tesla กับ อีลอน มัสก์ ไม่เคยกลัวคู่แข่ง หนำซ้ำคงอยากได้คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อเสียด้วยซ้ำถึงได้กล้าทำแบบนี้
โชว์พลังเสร็จก็แจกเทคโนโลยีเอาไปต่อยอดกันฟรี ๆ ไปเลย
รวมถึงเหล่าผู้ผลิตชิ้นส่วนส่งให้กับผู้ผลิตรถยนต์ก็ต้องมีการปรับตัว เปลี่ยนมาผลิตอุปกรณ์ให้กับรถไฟฟ้าแทนถ้าหากอยากจะอยู่รอดในอุตสาหกรรมนี้ต่อไป
เป็นการเร่งให้เกิดระบบนิเวศน์ใหม่ในอุตสาหกรรมรถยนต์สำหรับรถไฟฟ้าแทนที่รถเครื่องยนต์สันดาป
และนี่ก็จะเป็นการเร่งให้อุตสาหกรรมรถไฟฟ้าเติบโตไปแบบก้าวกระโดด แทนที่จะมีแค่ Tesla มาแย่งส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ แต่นี่เป็นการเขย่าให้ทั้งอุตสาหกรรมเปลี่ยนไปเป็นรถไฟฟ้าต่างหาก
สำหรับการพัฒนารถไฟฟ้านั้นเริ่มมาจากแรงดันไฟ 6V มาเป็น 12V ในปัจจุบัน และล่าสุดมันอาจจะก้าวกระโดดไป 48V ในอีกไม่นาน
ทั้งนี้ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่า การส่งมอบเทคโนโลยีไปให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ นั้นมีเจ้าไหนบ้าง คาดกันว่าน่าจะเฉพาะในอเมริกาและยุโรป แต่ไม่น่าไปถึงผู้ผลิตรถ EV จีน (ถ้าไปถึงจีนละก็วุ่นวายแน่ ^^)
เรียกได้ว่าการขยับครั้งนี้ของ Tesla ทำอึ้งกันทั้งวงการ หรือนี่จะเป็นแค่การ PR ที่เตี๊ยมกับระหว่าง Tesla กับ Ford ก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะตอบสนองอย่างไรกับการแจกฟรีเทคโนโลยีในครั้งนี้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา