23 ธ.ค. 2023 เวลา 00:30 • หนังสือ

เรื่องเล่าข้างคิด EP. 109

“ให้คุณค่าตนเองดีกว่ารอใครมาให้”
“เคยน้อยใจอะไรบ้างไหม? ทำไมเขาไม่ใส่ใจเราเลย? ทำไมเขาไม่มาดูแลเรา? ฯลฯ”
“ดูละครแล้วย้อนดูตน” คำนี้ยังใช้ได้ดีเสมอ
ได้ดูละครเรื่อง “มาตลดา” น้าของพระเอก นั่งกินไวน์อยู่บ้าน ลูกมาเยี่ยม เลยมีบทสนทนากัน เพื่อเล่าถึงปูมหลังของน้าท่านนี้
เริ่มจาก ตอนสาว ๆ แม่พระเอกได้เป็นดารา ตายายปลื้มมาก ผิดกับน้าที่เรียนเก่งกว่า แต่หน้าตาไม่สวย จึงไม่มีใครชม ไม่ค่อยมีใครสนใจ
พอแต่งงาน แม่พระเอกได้สามีจน ตายายหันมาเชียร์น้าเขย เพราะรวยกว่า พอเวลาผ่านไป พ่อพระเอกรวยขึ้น ซื้อบ้านหลังใหญ่ให้ตายายอยู่ แต่น้าเขยไม่ได้ซื้อบ้านให้ ตายายจึงเปลี่ยนมาชื่นชมครอบครัวแม่พระเอกแทน
ในสายตาของน้า คือ แม่พระเอก นั่งไขว่ห้างเป็นคุณนาย แต่น้ายังต้องทำงานงก ๆ
พอมีลูก พระเอกเป็นหมอ เรียนเก่ง มีอาชีพมั่นคง รายได้ดี เป็นหลักแหล่ง แต่ลูกน้า ลอยไปลอยมา ทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง น้าโมโหที่ลูกของตนไม่ได้ครึ่งของพระเอกเลย ไม่ได้เป็นหมอ
“น้าเหงา พาลไปหมด กินไวน์ เมา โทษคนโน้นโทษคนนี้”
มานึกถึงว่า น้าเป็นแบบนี้เพราะอะไร เพราะน้า “ไม่ให้คุณค่าตนเอง” อยู่หรือเปล่า?
น้าเปรียบเทียบทุกสิ่งอย่าง น้าต้องชนะทุกเหตุการณ์ ทุกสมรภูมิเลยเหรอ?
ชีวิตจริงไม่ใช่สนามรบนะ เราไม่จำเป็นต้องชนะทุกสิ่งก็ได้ เราพอใจในสิ่งที่เรามี ให้คุณค่ากับตนเอง และผู้อื่น โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว ลูก สามี ภรรยา พ่อ แม่ พี่ น้อง ของเรา
ขอเพียงน้าให้ “คุณค่ากับตนเอง” ก่อน น้าเรียนเก่ง มีสามีที่ดี มีบ้านอยู่ มีลูกที่น่ารัก รักแม่มาก ขอให้แม่เลิกเมา แต่น้ามองไม่เห็นสิ่งนี้เลย
คิดถึงครั้งหนึ่ง น้าสะใภ้ได้แชร์ประสบการณ์ เหตุการณ์คล้าย ๆ กันเลย เธอพยามให้น้าชายกลับบ้านตรงเวลา ไม่เถลไถล เอาใจใส่เธอ เมื่อไม่เป็นดั่งใจ เธอก็เมา แล้วโทษทุกสิ่งอย่าง พอน้ากลับมาก็หาเรื่องชวนทะเลาะ น้าเองก็เบื่อ พยามกลับมาบ้านช้า ๆ เพื่อเลี่ยงการปะทะ แต่กลายเป็นว่าเธอมองว่าน้าเถลไถล เหลวไหล อาจมีบ้านเล็กบ้านน้อย
พอเธอรู้สึกตัว เลิกสนใจเรื่องที่น้าจะกลับตอนไหน แต่หันกลับมาดูแลตนเองแทน เลิกเมา เลิกโทษคนอื่น มาทำงานบ้าน ดูแลบ้าน ดูแลบริษัท หาอะไรทำ เต็มไปหมด ชีวิตมีค่า มีคุณค่าในตนเอง เลิกตาม เลิกถาม กลายเป็นว่า น้าชายกลับเป็นฝ่ายถามหาเธอมากกว่า เริ่มกลับบ้านตรงเวลาขึ้น หรือถ้ากลับช้าก็จะโทรศัพท์บอกเธอแทบทุกครั้ง
นี่คือตัวอย่างชีวิตจริงที่ยิ่งกว่าละครอีก!!!
ชีวิตเรากับละคร จริง ๆ ก็คงไม่ต่างกัน แต่อยู่ที่เราจะเรียนรู้ได้มากน้อยแค่ไหน? เรียนรู้ได้ไวแค่ไหน?
เรียนรู้ได้มาก เราก็จะพยามหาข้อดีในเหตุการณ์ต่าง ๆ อยู่เสมอ แม้แต่ในเหตุการณ์ร้าย ก็มีข้อดี หรือ ประสบการณ์ ให้เราหยิบยกขึ้นมาเรียนรู้ได้
เรียนรู้ได้ไว ก็ได้เปรียบ เพราะเราจะรู้ตัวว่า ที่เราคิดอยู่ พูดอยู่ กระทำอยู่ นั้น ถูกทางหรือไม่? ถ้าไม่แน่ใจ ลองใช้หลักยึดเรื่อง “ความสุข” หรือ “ความสบายใจ” ก็ได้ หากเราทำอะไรแล้วอึดอัดใจบ่อย ๆ นั่นน่าจะไม่ใช่ทางที่ถูก ลองเปลี่ยนวิธีดู หากสิ่งนั้นสุขใจ สบายใจ ก็น่าจะมาถูกทางแล้ว แต่สำคัญอีกหนึ่งคือหากเราสุขใจ แต่กลับสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น อันนี้เราอาจต้องลองทบทวนดูอีกที
เราจะรู้วิธีที่เราจะกระทำได้ โดยอาศัยสิ่งที่บอกข้างต้น ขอเพียงเรา “ไม่หลอกตนเอง” “มองทุกอย่างตามความเป็นจริง” แค่นี้ก็มีความสุขที่สุดแล้ว
แล้วความสุขนี้แหล่ะ จะนำพาความสุขสวัสดีมาสู่ชีวิตเราอย่างแน่นอน คอนเฟิร์ม…
#เพจโค้ชสุนีย์ที่ปรึกษาการเงิน
#พู่สร้าง
#พู่คือพู่กัน
#สร้างคือสร้างแรงบันดาลใจ
#ถ้าเรื่องเหล่านี้ได้จุดประกาย สร้างแรงบันดาลใจให้ใครสักคน
ลุกขึ้นมาเปลี่ยนชีวิตตนให้ดีขึ้น
เมื่อนั้นก็ถือว่าพู่สร้างประสบความสำเร็จแล้ว
#ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา