18 ธ.ค. 2023 เวลา 03:05 • ไลฟ์สไตล์

คำตอบ "ที่ไร้ซึ่งคำถาม"

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2566
ผมเตรียมตัวไปพบกับหลวงพ่อปราโมทย์ เพราะท่านจะมาเทศน์ที่ ม.สุโขทัยธรรมมาธิราช ผมก็ตื่นตี 4 ตามปกติ ภาวนาตามคำสอนของหลวงพ่อ จากนั้นก็อาบน้ำ แต่งตัว ออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง
ระหว่างทาง ผมก็นั่งใคร่ครวญว่า ผมมีเรื่องใดที่ยังไม่เข้าใจบ้างในการปฏิบัติ สิ่งที่ผมได้ก็คือ ผมยังไม่สามารถแยกขันธ์ได้ครบทั้ง 5 ชนิด ซึ่งสิ่งที่ผมยังไม่สามารถแยกออกมาได้ คือ
สัญญา = ความจำได้ หมายรู้
หนึ่งในขันธ์ทั้ง 5 ประเภท
จากคำสอนที่ผมได้เรียนมา ขันธ์ 5 แยกออกได้เป็น 2 ฝั่ง คือ รูป กับ นาม แต่ถ้าแบ่งแบบละเอียดจะได้ 5 ประเภท คือ
รูปขันธ์ = กาย รวมถึงลมหายใจด้วย
เวทนาขันธ์ = ความรู้สึกสุข ทุกข์ ไม่สุข ไม่ทุกข์ เฉยๆ
 
สัญญาขันธ์ = ความจำได้ หมายรู้ ความเข้าใจความหมายโดยไม่ต้องคิด
สังขารขันธ์ = ความคิด นึก ปรุงแต่ง
วิญญาณขันธ์ หรือ จิต = ตัวรับรู้อารมณ์จากขันธ์ทั้ง 4 อัน หรือพูดง่ายๆว่า จิต คือตัว connector
หลังจากผมได้ฝึกภาวนามาระยะหนึ่ง ผมพอจะเข้าใจขันธ์ทั้ง 4 ประเภทอยู่บ้าง จนถึง วันที่เดินทางไปฟังพระธรรมเทศนาจากหลวงพ่อปราโมทย์ ผมก็ครุ่นคิดถึงแต่เรื่อง "สัญญาขันธ์" ว่ามันเกิดขึ้นในขณะไหน ในจิตของเรา ซึ่งผมก็ยังไม่ได้คำตอบ
จากนั้น 6 โมงเช้า ผมก็ไปถึงที่หมาย ซึ่งกว่าจะลงทะเบียนได้ก็อีก 1 ชั่วโมงกว่าๆ ผมก็ยังไม่ได้คำตอบ แต่ผมก็วางคำถามนี้ไว้ จนกระทั่งมาคิดเรื่องการภาวนาในรูปแบบ ซึ่งผมเคยฟังจากคลิปของหลวงพ่อมาไม่น่าจะต่ำกว่า 50-60 คลิป แต่ละคลิปน่าจะ 1-2 รอบ เป็นอย่างน้อย แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่า สิ่งที่ผมปฏิบัติมันถูกต้องแค่ไหน?
ภายในเวลาไม่นาน ทางทีมงานก็ให้เราลงทะเบียน แล้วนำเข้าไปนั่งรอในห้องโถง ที่รองรับญาติธรรมถึง 1,200 คน ด้วยความที่ผมมาคนเดียว ผมก็เดินไปนั่งใกล้ที่สุด เพราะอยากเห็นหลวงพ่อชัดๆ จากนั้นผมก็นั่งภาวนา จนหลวงพ่อมาถึง....
ระหว่างที่นั่งภาวนา ผมได้คำตอบของ 1 ในคำถามของผมวันนั้น
ผมนั่งภาวนาอยู่ ผมก็ได้ยินเสียงคนคุยกัน เดินไปเดินมา บางครั้งก็เฉยๆ บางครั้งก็หงุดหงิด แต่ผมก็รู้อารมณ์ไปตามที่หลวงพ่อสอน จนมีจังหวะนึงที่จิตตรึกขึ้นมาได้ว่า
เสียงที่ได้ยิน มันไม่มีโทสะ
เราหงุดหงิดอะไร?
พอผมได้คำถามนั้น ผมก็หาคำตอบจากการดำเนินของคนถัดไปว่า
เสียงที่ผมได้ยินนั้น มันก็แค่เสียงธรรมดา แต่ตัวที่ไปแปลความหมายของมัน คือ "สัญญา"
เพราะผมได้ยินเสียงเดินมานับครั้งไม่ถ้วน ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา มันทำให้ผมรู้ว่า คนนี้เดินเร็ว คนนี้เดินช้า กายที่สัมผัสได้ถึงลมที่เย็น แรง เร็ว สัญญามันก็แปลให้ผมอีกว่า เนี่ย คนนี้เดินเร็วมาก จนลมพัดแรงเลย
ผมเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ทำไมสัญญาถึงเป็นตัวทุกข์ แต่จะทุกข์ไม่สะใจ สังขารจึงมาผสมโรง โดยการเอามาบ่นต่อในใจ 55555555555555 และนั่นก็เป็นเหตุทำให้หงุดหงิด
ถ้ากายเราสัมผัสได้ แล้วสัญญาไม่มาตีความ เราก็คงเฉยๆ
ถ้าสัญญาตีความ แล้วเราไม่ปรุงแต่ง ก็คงเฉยๆ
ถ้าปรุงแต่งแล้ว ไม่เกิดตัณหาของการไม่อยากได้ ก็คงเฉยๆ
ถ้าตัณหาเกิดแล้ว เราไม่พูดออกไป หรือไม่แสดงออกทางสีหน้า ท่าทาง ก็คงเฉยๆ
ถ้าเราพูด หรือแสดงท่าทางไม่ดีออกไป ก็คงมีเรื่องแน่ๆ 55555
นี่แหละครับ ผมได้รู้จักกับสัญญาจริงๆ ครั้งแรก
หลังจากผมได้คำตอบข้างต้น หลวงพ่อก็มาแบบไม่ทันตั้งตัว โดยประโยคแรกที่หลวงพ่อพูด คือ
มีสติเอาไว้นะ
หลวงพ่อปราโมทย​์
ผมจำได้ทันทีว่า นี่คือเสียงหลวงพ่อ เพราะผมฟังคลิปหลวงพ่อทั้งวัน
แล้วหลวงพ่อก็เทศน์ให้ฟัง แต่มีเรื่องที่อยากแชร์ให้ทุกท่านได้รู้ คือ
หลวงพ่อเทศน์เรื่องที่เป็นคำถามของผม !!!!
ซึ่งตลอดทุกคลิปที่ผ่านมา หลวงพ่อไม่เคยเทศน์เรื่องนี้จริงจัง
แต่ผมได้คำตอบทุกอย่าง ที่ผมต้องการในการฟังธรรมกับหลวงพ่อครั้งแรก
หลวงพ่อไม่เคยถามคนเป็นพันคน ว่าใครอยากได้อะไร อยากรู้อะไร
แต่ท่านเทศน์ออกมาได้ตรงใจผมมากๆ
ผมรู้สึกซาบซึ้งจนน้ำตาซึม จิตใจพองโต ได้สัมผัสความสุข อย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน ว่าความสุขที่แท้จริง เป็นแบบนี้นี่เอง ขนาดผมนั่งเขียนอยู่นี่ ผมยังน้ำตาปริ่มเลย
หลังจากที่หลวงพ่อตรวจการบ้านให้ญาติธรรม 8 ท่านจบ ท่านก็อวยพรให้ ผมตั้งใจฟังทุกคำของหลวงพ่อ แล้วประทับไว้ในใจ แล้วตั้งใจว่า จะปฏิบัติ โดยยึดหลวงพ่อเป็นแบบอย่างต่อไปจนกว่าจะสิ้นชาติ สิ้นภพ
หวังว่าท่านที่เข้ามาอ่าน คงจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ
ส่วนท่านใดที่ต้องการทราบ ว่าท่านเทศน์อะไร?
ทางทีมงานสื่อที่ทำงานกับหลวงพ่อ ชื่อว่า "มูลนิธิสื่อธรรมหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช" ได้บันทึกภาพ และ Live ตลอดการแสดงธรรม โดยผมจะวาง link ไว้ให้ที่นี่นะครับ สามารถเข้าไปรับฟังกันได้ และต้องขอขอบคุณทีมงานมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
โฆษณา