2 ม.ค. เวลา 15:27 • ประวัติศาสตร์
บ้านนาสีนวล

"ฮ้ายกวดหนี ดีกวดเข่า" มนต์อันประเสริฐพร้อมฝ้ายผูกแขน

สวัสดีปีใหม่ พ.ศ.2567 ทุกคนครับ
หลายคนใช้วาระเทศกาลวันหยุดยาว กลับจากทำงานต่างถิ่นมาบ้านเกิด
บรรยากาศบ้านเรา ยังรู้สึกอบอุ่นเหมือนเดิมใช่ไหม
4
ลมพัดเย็นๆ อากาศแบบนี่ผมคิดถึงตอนเด็ก ครอบครัวญาติพี่น้องที่อยู่บ้าน จะเตรียมอุปกรณ์ไปสูบน้ำในบ่อสระในหนองไว้รอ มีวิศวกรคำนวณปริมาณน้ำและกำลังเครื่องอย่างมาตรฐาน (ถ้าไม่เมา) วางแผนกำหนดการสูบน้ำแห้ง ทันคนที่มาจากทำงานได้ลงเก็บปลาได้พอดี
หลังจากที่กลับอาบน้ำเสร็จแล้ว ขอแนะนำโลชั่นบำรุงผิวด้วยนะครับ ถ้าลืมขาของท่านจะแตกลายแน่นอน
ปลาที่เก็บได้นำมาทำอาหารได้หลายเมนู เช่น ย่าง ลาบ ก้อย ต้ม นึ่ง และอีกหลายอย่าง ส่วนหนึ่งแบ่งไว้แกงเป็นหม้อลงวัดทำบุญ อีกส่วนแจกจ่ายเพื่อนบ้านด้วย พร้อมกับจัดฉลองงานเลี้ยงปีใหม่ดื่มกินอย่างสนุกสนาน
เดียวก่อน..แต่ก่อนถ้าซื้อเครื่องดื่มมาฝากพ่อผม อาจได้กิน "ต้มไก่บ้าน" ใส่ใบมะขามอ่อนด้วยนะครับ
เทศกาลวันหยุดจบแล้ว
ดื่มด่ำกับบรรยากาศได้ครบจบเหมือนตอนคิดถึงบ้านไหมครับ ภาพจำวิถีชุมชนชัดเจนอยู่ใช่ไหม
ถึงเวลาเตรียมตัวเดินทางกลับไปสู้งานต่อ
เช้า เช้า ก่อนเดินทางมีเสียงพูดถามกันดังขึ้น "เก็บของครบหรือยัง ของฝากเจ้เอาครบทุกคนหรือยัง กินยาแก้เมาวินเวียนรถหรือยัง....." พร้อมกับช่วยกันจัดของอาจเป็นวุ่นวายมาก
สักพัก..แม่พูดขึ้นเสียงดัง "ทุกคนหยุดมานั่งก่อน"
พูดจบวิ่งไปชั้นบูชาพระ...จับย้ามเดินออกมา พูดว่า "เกือบลืม"
ในนั้น...มีฝ้ายผูกแขน ของวัตถุมงคล แม่เป็นผู้แนะนำ "ชุดนี้จากวัดนี้สวดพุทธาภิเษก ชุดนี้จากวัดนี้ตัดหวายลูกนิมิต"
จากนั้น...ทุกคนเข้าไปให้ผูกแขน "ฮ้ายกวดหนี ฮ้ายกวดหนี ดีกวดเข่า ดีกวดเข่า" เริ่มต้นคำอวยพรแต่ละคน
แล้วมอบสิ่งมงคลให้ลูก เอาไว้เป็นเครื่องเตือนใจเวลาเหนื่อยล้าคิดถึงบ้าน เหมือนมีเสียงแม่บอกให้อดทนสู้เพื่อคนข้างหลังรออยู่ ส่งแรงใจผ่านฝ้ายข้าวและวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์
ถึงแม้ไม่มีราคา แต่มันมีคุณค่าสูงสุด
ความรู้สึกดีดี คือ ของขวัญอันประเสริฐในทุกเทศกาล
การอ่อนน้อมถ่อมตน คือ สัญลักษณ์ของผู้น้อย
ป้ายหน้า…เจอกันสงกรานต์ กลับมาแนเด้อ
ขอมอบเพลงนี้…ยามคิดถึงบ้านสงกรานต์เจอกันอีก
โฆษณา