“The Boy and the Heron” เล่าเรื่องของ มาฮิโตะ มาคิ หลังสูญเสียแม่ไปจากไฟของสงคราม พ่อของเขา โชอิจิ จึงพากันไปอาศัยกับคุณน้า นัตสึโกะ ในย่านชนบทนอกเมืองกรุง ในฐานะครอบครัวใหม่ ด้วยความใหญ่โตของบ้าน มาฮิโตะ ที่ไม่อาจปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ และก้าวผ่านบาดแผลจากการสูญเสีย กลับเผชิญเข้ากับนกกระสานวลสีเงิน ที่โฉบเข้ามาเรียกด้วยเสียงขับขาน ก่อนนำพา มาฮิโตะ ไปสู่หอคอยลึกลับกลางป่า ที่กำลังจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่มิติพิศวงของเขา
เฉกเช่นหนังของเขา ที่มักจะพาเราเข้าเรื่องแทบจะทันที “The Boy and the Heron” มาพร้อมการเล่าเรื่องที่เป็นเส้นตรง และแบ่งเป็นองก์ที่ค่อนข้างชัดเจน ทั้งเนื้อหาช่วงแรกที่พา มาฮิโตะ มาสู่ย่านชนบทเพื่อตั้งต้นชีวิตกับคุณแม่คนใหม่ หลังฉากเปิดเรื่องที่เผยให้เห็นไฟแดงฉาน อันโหมกระหน่ำในกรุงโตเกียว ไปสู่ธรรมชาติอันเขียวชะอุ่ม และนกกระสาสีนวลที่โฉบเข้ามา
“The Boy and the Heron” ก็เป็นเช่นนั้น หากแต่หนังใช้เวลาองก์แรก เพื่ออุทิศและพูดถึงชีวิตวัยเด็กที่ไม่อาจก้าวข้ามบาดแผลอันใหญ่หลวงของตนเอง นั่นคือ การสูญเสียแม่ผู้ให้กำเนิดไปอย่างไม่มีวันกลับจากไฟของสงคราม พลางการปรับตัวในสภาพแวดล้อมใหม่ก็ยากยิ่ง
แต่สิ่งที่ทำให้ “The Boy and the Heron” โดดเด่น และเหมาะสมกับการเป็น “หนังเรื่องสุดท้ายของฮายาโอะ มิยาซากิ” แบบที่เขาป่าวประกาศไปก่อนหน้าอย่างยิ่งยวด เพราะมันสะท้อนถึงแง่มุมวัยเด็ก รวมถึงตัวตนของเขา ในฐานะผู้สร้างสรรค์ได้อย่างลุ่มลึกเกินคาดเดา มันตอกย้ำถึงทัศนคติของเขา ที่สะท้อนผ่านในผลงานมากมายหลายสิบเรื่อง ที่ต่างร่ายมนตร์ขลัง ผ่านเฟรมภาพมากมาย ผ่านงานภาพและเนื้อหาที่จับใจ เพื่อปลอบประโลมความแข็งกระด้าง และสร้างแรงบันดาลใจพลางขณะที่เรากำลังดู
ไม่เพียงแค่นั้น “The Boy and the Heron” ยังส่งเสริม ให้เราชวนลุกขึ้นไปทำในสิ่งที่ มิยาซากิ ได้ทำ นั่นคือการกำหนดซึ่งทางเดินชีวิตของตนเอง ที่แม้โลกจริงอาจไม่สวยหรูแบบที่เราคาดไว้ แต่เราสามารถกำหนด “วิธีใช้ชีวิต” แบบที่เราต้องการได้ มันไม่อาจจะต้องใหญ่โตแบบมิยาซากิ อาจจะไม่สมดุล อาจจะไม่งดงาม แต่อย่างน้อย เราสามารถส่งแรงบันดาลใจเฉกเช่นเดียวกันนี้ ไปยังผู้คนรุ่นต่อไปได้ด้วย
สรุปแล้ว “The Boy and the Heron” คือแอนิเมชันเรื่องล่าสุดจากสตูดิโอจิบลิ ที่ยังคงตอกย้ำถึงความเอกอุของฮายาโอะ มิยาซากิ ในการรังสรรค์โลกที่ไว้หลีกหนีจากความจริงอันเจ็บปวด ทั้งบาดแผลจากสงคราม การข้ามผ่านแผลใจในวัยเด็ก ไปสู่โลกแฟนตาซีเหนือจินตนาการ ที่ยังคงสะท้อนความเป็นจริงได้อย่างแหลมคม ด้วยจังหวะเล่าที่สุขุมและชวนปล่อยวางมากขึ้น สะท้อนทัศนคติและตัวตน ผ่านแง่มุมวัยเด็กของมิยาซากิ ด้วยการส่งผ่านแรงบันดาลใจ จากคณูปการของการสรรค์สร้างได้อย่างยิ่งยวด
4.5 / 5
The Boy and the Heron - 君たちはどう生きるか (2023)
Written & Directed by Hayao Miyazaki
The Boy and the Heron มีกำหนดฉายในไทย 11 มกราคม 2024