24 ม.ค. เวลา 03:15 • ความคิดเห็น
คนเรามันอยู่กับโลก ก็ใช้กิริยา ยืนเดินนั่งนอน ด้วยอารมณ์ที่ที่ปรุงแต่งกายและจิต ยืนเดินนั่งนอนด้วยอารมณ์กรรมที่ปรุงแต่งจิต กิริยาทั้งหมดที่ใช้ ..ล้วนปรุงแต่งด้วยอารมณ์กรรม.
คราวนี้ พระท่านบอกให้ดู องค์พระสิทธัตถะ ..ไปเดินยืนนั่งนอน จิตไม่มีอารมณ์ ..เดินยืนนั่งนอน ..ไม่นึกคิดอะไร ..จิตของข้าพเจ้าอาศัยอยู่ในเรือนกายของคุณบิดามารดาของข้าพเจ้า ..จิตของข้าพเจ้ามีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึง ..ภาวนา แค่พุทโธ ..ไม่ไปนึกถึงอะไร ทำให้เหลือจิตดวงเดียว ..ปราศอารมณ์ จิตมีสติสัมปชัญญะ เดินยืนนั่งนอน ไม่นึกคิดอะไรเลยตามอารมณ์ ยืนเดินนั่งนอน จิตอยู่กับพระ ..ปราศจากอารมณ์ ..จิตก็ใสสะอาด กายก็ใสสะอาดสะอ้าน ..
..นั่นเค้าเรียกว่า รอยทั้งสี่ขององค์พระสัมมากสัมพุทธเจ้า เวลานั่งก็นั่งสบาย ..ไม่มีอะไรปรุงแต่ง เวทนาอารมณ์ อะไรก็ไม่มี นั่งพับเพียบ นั่งที่ไหน ไม่มีอารมณ์ ก็นั่งๆนิ่งเฉยๆ ..นั่งไปเรื่อยสบาย ..ไม่มีอารมณ์ปรุงแต่ง เค้าว่า ..กายนั้นเป็นแก้วเจียไน ..มันไม่น่ายากเย็น ..แต่ว่า จิตต้องมีกุศลบารมีน่ะ ..ไม่เช่นนั้นใครมันจะทำได้ นอนในบ้านในเมืองสนุกกว่า ..ไปอยู่ในป่ารกทำไม..คนไม่มีบุญสะสมบุญกุศลบารมีมันทำไม่ได้หรอก อยู่เมือง ..สนุกเพลินด้วยอารมณ์สนุกสนาน ..แล้วเจ็บป่วยตาย ..
ไปอยู่ป่า..สิ่งปรุงแต่ง ..วิญญาณทั่งหกไม่ค่อยมี จิตปกครองตนเอง เป็นรัฐอิสระในเรือนกาย จะนั่งจะนอนเดินไปตรงไหน ..ก็สบายไม่มีภาระปลดเปลื้องเรื่องอารมณ์นึกคิด จิตไม่มีอะไรเลย .พระท่านบอกของง่ายๆ ง่ายนิดเดียวเอง ..ไปทำให้ได้ ..เราจะรู้ว่า เดืนขึ้นบันใดแก้ว นั้น เค้าทำกันอย่างไร ..ของง่ายๆนิดเดียวเองทำให้ได้ ไม่ยากเย็นอะไรเลย
เค้าบอกว่า อย่าไปเชื่อที่บอก เพราะยังไม่ได้ลงมือทำ ..ลองเอาแค่ฝึกหัด นั่งนานๆ นิ่งๆ ทำจิตเฉย ..อะไรเกิดขึ้น ..ก็ทิ้งอย่าไปยึด ไม่นึกคิดอะไรทั้งนั้น ..นั่งกายนิ่งจิตนิ่ง ..ลองทำดู ..ของไม่ยากเย็น ..ทุกคนมีกาย มีความสามารถกระทำได้แน่นอน..เพราะเราเป็นผู้อาศัยในเรือนกาย..เอากิริยาทั้งสี่ นั่นมากระทำ ..ในรอยของพระ จิตจะเป็นพระ..
พระท่านไม่บอกให้เชื่อ ท่านบอกให้ไปลงมือทำ ทำแล้ว ..เป็นอย่างไร ..นั่งคิดนั่นคิดนี่ นั่นมันเรื่องราวอารมณ์ ..ต้องปลดเปลื้องออกไป ทิ้งมันให้หมด ..เจ็บปวด..กาย มันทุกข์ ก็เป็นอารมณ์ ก็อย่าไปยึดมัน นั่งพับเพียบนิ่งๆ ตัวตรง
..กายนั้นเป็นผู้รับใช้จิต ..เราจะนั่ง ก็บังคับการให้นั่งนิ่งเฉย อย่ากระดุกกระดิก ขยับเขยื้อน เคลื่อนไหวกาย จิตจับกายมานั่งนิ่งๆ ดูซิว่า ..จะบังคับได้มั้ย ก็กายนี้ไม่ใช่ของๆเรา ..จิตเป็นใหญ่ ในเรือนกาย ก็บังคับกายให้นั่งนิ่ง เป็นตอไม้เป็นก้อนหิน ..ขยับเขยื้อนเมื่อไหร่. จิตก็เป็นทาสของอารมณ์ ลองทำดู ของไม่ยากเลย ง่ายนิดเดียวเอง .หากว่าจิตสะสมบุญกุศลบารมีมาดี ทำได้เลย ของไม่ยาก. ทำได้ ..กายเป็นแก้ว เข้าพระนิพพานได้ .
.ส่วนเราลองทำแล้ว ตามที่พระท่านบอก ..จิตไม่มีบุญกุศลบารมี .นั่งพับเพียบ ก็เสียทีอารมณ์ไปเรื่อย อารมณ์พาไปโน้นนี้ คิดนั่นคิดนี้ อารมณ์ปรุงแต่ง สร้างวิมาน อุปโลกน์นิพพานเป็นอารมณ์ ..มันอารมณ์ทั่งนั้น คิดไปเรื่อย ..นั่งทั้งที สติจับลมเข้าออกไม่ได้เลย)
โฆษณา