ความคิดเห็นบนคำถาม

คุณรู้จักนิพพานดีแค่ไหน แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าคนปัจจุบันที่บอกทางแก่คุณเคยถึงนิพพานแล้ว ?
24 ม.ค. เวลา 01:55 • ความคิดเห็น • 13 คำตอบ
คำตอบ (13)
  • สุดยอดคำตอบ
    ผู้รู้มักไม่พูด ผู้พูดมักไม่รู้
    ปัจจัตตัง เวทตัพโพ เพราะเป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน...
    1
  • สาธุ กำลังศึกษา หนทาง พ้นทุกข์ อยู่ค่ะ 🙏😊 ขอบคุณตุ้ยมาก เลย พันเต สุดยอด!!
  • ตามรากศัพท์ มันแปลว่าดับ(จากความร้อน) ซึ่งเป็นคำธรรมดาสามัญ ชาวบ้านใช้กันอยู่แล้ว.. เมื่อพุทธองค์ต้องการจะสอนภาวะทางจิตที่สูงที่สุดในศาสนา ท่านจึงยืมคำนี้มา เพื่อให้ทุกคนเข้าใจและเห็นภาพได้ง่าย
    แต่พอกาลเวลาผ่านไป คำนี้ก็เพี้ยนความหมาย กลายเป็นตามที่หลายคนยึดมั่น...
  • ผมนิพพานแล้ว และรู้จักวิธีที่จะเข้าถึงนิพพานดี แต่บอกใครเขาก็ไม่เชื่อ ไปเชื่อคนที่บอกว่าอย่าเชื่อใครที่บอกว่านิพพานแล้ว ดังนั้นตอบไปก็ไม่มีประโยชน์ เดี๋ยวก็ไม่เชื่อผมอยู่ดีแหละ เห็นมีคนมาตอบว่าอย่าเชื่อคนที่บอกว่านิพพานแล้วอยู่แว๊บ ๆ
    2
  • รู้แต่ว่าเป็นความดับเย็น ไม่เหลือความทุกข์อีก เพราะเชื้อกิเลสมันหมด ส่วนคนอื่นจะเป็นปุถุชนหรืออ้างว่าเป็นอริยบุคคลขั้นใดก็ตาม จะมาบอกอะไร ก็อย่าเพิ่งไปปักใจเชื่อ เพราะมันเป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน ไม่มีใครทำนายใครว่าเป็นอะไรได้ นอกจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
  • นิพพานคือการแตกดับโดยสิ้นเชิง จนหลุดจากวัฏสงสาร
    ใครบอกเคยถึงนิพพานคือโกหกครับ เพราะยังมีตัวตนอยู่
    ตามหลักพุทธแล้ว คนเราเกิดมาชดใช้กรรมเก่า การไม่สร้างกรรมใหม่ในชาติเดียว ก็อาจไม่พอให้ถึงนิพพานได้...
  • ระเบียบวินัย การรักษาหน้าที่ ความรัก ความอบอุ่นการทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้คือนิพพานใช่หรือไม่ ผมยังคงไม่แน่ใจ เพียงแต่มั่นใจว่าสิ่งเหล่านั้นคือความสุขที่สามารถควบคุมให้อยู่กับเราได้มานานมาก มาจนถึงปัจจุบันเท่านั้นครับ
  • พุทธศาสนาไม่เคยมุ่งเน้นมโน
    จิตไปในเรื่องที่มองไม่เห็นอิทธิฤทธิ์
    มีพลังปฐิหารใดๆเรื่องเล่าไม่มีผู้
    ใดเกิดทันการบันทึกเพื่อเล่าขาน...
  • คนเรามันอยู่กับโลก ก็ใช้กิริยา ยืนเดินนั่งนอน ด้วยอารมณ์ที่ที่ปรุงแต่งกายและจิต ยืนเดินนั่งนอนด้วยอารมณ์กรรมที่ปรุงแต่งจิต กิริยาทั้งหมดที่ใช้ ..ล้วนปรุงแต่งด้วยอารมณ์กรรม.
    คราวนี้ พระท่านบอกให้ดู องค์พระสิทธัตถะ ..ไปเดินยืนนั่งนอน จิตไม่มีอาร...
  • เรารู้จักคำว่านิพพานครั้งแรก จากการตามคุณแม่ไปวัดบ่อยๆ และทุกครั้งเวลาถวายสิ่งใด แม่จะให้ร่วม "จบ" โดยการพูดว่า "นิพฺพานปจฺจโย โหตุ” เราไม่ได้ใส่ใจในความหมายมันนัก แค่ทำตามแม่แล้วก็นึกในใจว่า "ได้ขึ้นสวรรค์แน่แล้ว" เราสรุปด้วยความบ้องตื้นโง่เขลาเบาปัญญาว่า "นิพพานก็คือสวรรค์"...