25 ม.ค. 2024 เวลา 03:30 • สุขภาพ

#เนื้อหาที่อยากจะเล่าของหนังสือ I ate it again

“ความวิริยะอุตสาหะในการกินอาหารให้น้อยลง อาจสูญเปล่าไปในพริบตาได้ หากมื้อเย็นของคุณ สองมือของคุณจวงอาหารอย่างรวดเร็วและปากที่กำลังมูมมามกับรสชาติ”
จากที่อ่านมา ในหนังสือ I ate it again ของคิมยุนอา จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับปัญหาพฤติกรรมการกินและการหมกหมุ่นอยู่กับการลดน้ำหนักเป็นส่วนใหญ่ แต่เราได้พบเจอบทหนึ่งที่น่าสนใจ
โดยเนื้อหา จะแบ่งเป็น 2 บทใหญ่ๆ และจะมีบทย่อๆ อีก และบทที่จะนำมาเล่า มีชื่อว่า “อดทนทั้งวันพร้อมกับคิดว่ามื้อเย็นจะกินอะไรดี”
เริ่มด้วยเรื่องราวของผู้ที่มาขอคำปรึกษาคนหนึ่งชื่อ ซูมี ที่มีความกังวลกับอาการท้องอืดและตัวบวม ซึ่งกิจวัตรในช่วงก่อนเลิกงาน 1 ชั่วโมง เธอจะคิดไว้แล้วว่า เธอจะกินอะไรดี พอเลิกงานปุ๊บ เธอกินแหลกเหมือนน็อตหลุด ราวกับว่า นี้แหละ ความสุขที่แท้จริง
ทว่า หลังจากนั้น ใบหน้าเธอก็บวมเปล่ง ทำให้เธอรู้สึกละอายใจจากการกินที่ผ่านมา "จากแรกๆ ที่อร่อย หลังๆ ซึมทันที" ทำให้เธอปฏิญาณกับตัวเองว่า เย็นนี้จะกินเบาๆ
แม้หลังจากเหตุการณ์นั้น จะเปลี่ยนให้เธอจะหันมากินอาหารเพื่อสุขภาพในตอนเช้าและกลางวันแล้ว แต่เธอก็ยังติดลูปการกินแหลกตอนเย็นอยู่ดี บวกกับเพื่อนๆ ของเธอนั้น ได้ใช้เวลาหลังเลิกงานไปออกกำลังกายและเข้าชมรม ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมเธอถึงกินแหลกเฉพาะตอนเย็น
จริงๆ แล้ว พฤติกรรมนี้ มันเกิดจากการร่างกายของเราทำตามคำสั่งของสมอง โดยสมองส่วนโฮโปทาลามัส ทำหน้าที่เกี่ยวกับความอยากอาหารและความเพลิดเพลิน แม้มันจะให้ความรู้สึกพึงพอใจหลังการกิน แต่มันก็ทำให้สมองของเราอาจเข้าใจผิด คิดว่า เมื่อไรที่ใจรู้สึกอยากหรือว่างเปล่า สมองก็จะส่งสัญญาณว่า “หาอะไรกินเสียสิ”
[ แล้วเราจะออกจากลูปเหล่านี้ได้อย่างไรละ? ]
แน่นอนว่า อาหาร ก็เป็นตัวเลือกอีกอย่างที่ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้า อ่อนแรง และเยียวยาจิตใจเรา เพื่อเพิ่มพลังในระหว่างทำงานและเป็นรางวัลปลอบใจได้
แต่สิ่งสำคัญที่หนังสือนี้ จะบอกคุณเลยคือ อย่าฝากความสุขไว้กับอาหารอย่างเดียว ลองดึงตัวเอง ให้หากิจกรรมอดิเรกอื่นๆ เป็นการเพิ่มพลังและรางวัลปลอบใจในชีวิตแทน คุณอาจจะลองออกกำลังกาย คุณอาจจะลองเดินเล่นเบาๆ คุณอาจจะออกไปพบปะเพื่อนฝูงและพูดเรื่อยเปื่อยแบ่งปันงานอดิเรกร่วมกัน หากร่างกายไม่พร้อมจะทำกิจกรรมใช้แรงกายแรงใจ ก็สามารถอยู่บ้าน แช่ในอ่างน้ำก็ได้
ตอนแรกเราอาจจะรู้สึกว่า มันเหนื่อยและไม่อยากทำ แต่หากคุณได้ลองทำกิจกรรมต่างๆ คุณจะพบว่า มันอาจจะให้ความสุขแก่เราได้เท่ากับอาหารแน่นอน
แหล่งอ้างอิง
คิมยุนอา. (2565). อยากกิน แต่ไม่รู้ว่าหิวจริงหรือแค่เศร้า I ate it again (จารูพรรณ์ สีดาฐิติวัฒน์). บลูม พับลิชชิ่ง ในเครือบริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด
โฆษณา