เรื่องเล่าข้างคิด EP. 115
“ตรงต่อเวลา แสดงถึงการให้เกียรติผู้ที่เรานัด”
“คุณว่า การที่เรามาสาย หรือ มาตรงเวลา เกี่ยวอะไรกับตัวเรา หรือ คนที่เรานัดไหม?”
คราวที่แล้วเขียนเรื่องตรงเวลาไป คราวนี้มาขอต่ออีกหน่อยหนึ่ง
ฉันเคยเป็นคนไม่ตรงต่อเวลา เมื่อก่อนเวลานัดใคร ฉันจะไปแบบตรงเวลา แบบว่าไม่อยากไปก่อนเวลา ขี้เกียจรอนาน ไม่มีอะไรทำระหว่างนั้น ฉันจึงเลือกไปแบบเวลากระชั้นชิด ไปถึงก่อนนิดหน่อย หรือ เลยเวลาไปนิดหน่อย
หลายครั้งเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน รถติด รถรอนาน เจอเพื่อนระหว่างทาง หรือ อะไรก็ตามแต่ ทำให้ไปสายเป็นประจำ ขณะเดินทาง ฉันจะดูร้อนรน ทำอะไรรีบ ๆ ร้อน ๆ ไม่ค่อยได้ทักผู้คน หรือ เหลือบดู หรือ ชื่นชม สิ่งของ วิวทิวทัศน์ รอบข้างเลย เมื่อไปถึง ก็ลก ๆ ขอโทษขอโพยผู้ที่เรานัดกันไปตามมารยาทไม่ได้รู้สึกผิดอะไร ฉันก็เป็นฉันอย่างนี้แหละ
จนเมื่อหลายปีที่แล้ว ได้มีโอกาสไปเรียนกับไลฟ์โค้ชท่านหนึ่งที่เก่งมาก ไปเรียนกับท่านหลายครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่ง คนในห้องมาสายกันเยอะมาก ท่านเลยดุเอาว่า
“พวกคุณทำอะไร รู้ไหมการที่พวกคุณมาสาย คนนั้นมาสายนิดนึง 15 นาที คนโน้นมาสายอีกหน่อย 1/2 ชั่วโมง รวม ๆ กันไปมา สายไปเป็นชั่วโมง ทำให้หลายคนในห้อง (ซึ่งจำนวนมากด้วย ประมาณว่าคนหลายร้อยคน มารอคนหลักสิบคน) ต้องมารอพวกคุณ เสียเวลาเรียน เสียเวลานอน เวลาพักผ่อน แทนที่เขาจะได้ความรู้กันไปมากมาย ต้องมาเสียสมาธิเพราะพวกคุณเข้ามาช้า ตอนออกจากห้อง ก็นัดเวลากันดิบดีแล้วนี่ ว่าให้กลับมาเข้าห้องเวลานี้ ถ้าเวลาที่นัดมันไม่ถูกต้อง ทำไมคนส่วนใหญ่เขามากันได้ แต่คนส่วนน้อยอย่างพวกคุณ ทำไมมาไม่ได้ มีปัญหาอะไรกัน…”
จำคำพูดท่านไม่ได้เป๊ะหรอก แต่จำได้ใจความประมาณนี้
แล้วท่านก็บอกว่า คนที่ชอบมาสาย นอกจากไม่ให้เกียรติผู้ที่นัดแล้ว ยังไม่เคารพตนเองอีกด้วย อันนี้ฉันนั่งงงไปเลย เกี่ยวกันด้วยเหรอ?
ฉันได้เรียนรู้ว่า…
การให้เกียรติผู้ที่เรานัด
เพราะเราให้เกียรติ เราจึงทำในสิ่งที่ควรทำ ไม่ทำให้เขาลำบากกาย ลำบากใจ ไม่ต้องให้เขามานั่งรอเราเป็นชั่วโมง แทนที่จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่น อีกอย่างการมาสายมากเกินไป เขาอาจจะอารมณ์เสีย แล้วพาลไม่อยากเจรจาธุรกิจ ซื้อขาย หรือ ทำงานร่วมกันกับเรา ทำให้เราเสียโอกาสบางอย่างไป
การเคารพตนเอง
เมื่อเราเคารพตนเอง ให้เกียรติตนเอง ให้คุณค่าตนเอง เราจะทำให้ตนเองมีค่า สมควรที่คนอื่นควรให้เกียรติ เราก็จะทำในสิ่งที่สมควรทำ ไปตรงเวลา มีระเบียบวินัย ไม่ทำตัวสะเปะสะปะ เหลวไหล
นึกไปถึงเหตุการณ์หนึ่ง ในคลาสเรียนของโค้ชท่านนี้ ได้มีคอร์สสำหรับเด็ก มีเด็กคนหนึ่งมาให้สัมภาษณ์ว่า
“สมัยก่อนหนูเป็นคนไปโรงเรียนสาย เพราะตื่นสาย ต้องรอแม่มาเรียก ถ้าใครมาถามว่าหนูไปโรงเรียนเพราะอะไร หนูจะบอกว่าเพราะแม่บังคับ แม่บอกให้ไป”
“แต่พอหนูได้มาเข้าคอร์สของโค้ช หนูรู้เป้าหมายของตนเองแล้ว หนูจึงตื่นเช้า ตั้งใจเรียนหนังสือ เพราะหนูอยากเรียนในโรงเรียที่ดีที่สุดของจังหวัด เป็นโรงเรียนที่ต้องเก่งภาษาอังกฤษมาก ๆ แต่ภาษาอังกฤษเดิมของหนูไม่ดีเลย หนูจึงลุกขึ้นมาตั้งใจเรียน ไปโรงเรียนแต่เช้า จะได้มีเวลาเตรียมตัวในการเข้าเรียน มีสมาธิดี ไม่ร้อนรน”
เหล่านี้คือสิ่งที่เด็กคนนั้นได้พูดเอาไว้ อย่างที่บอก ฉันไม่ได้จำคำพูดมาแบบเป๊ะ ๆ แต่จำแบบจับใจความได้
วันนี้ฉันค่อย ๆ เปลี่ยนนิสัยการมาสายแล้ว ส่วนใหญ่มักจะไปก่อนเวลา งานสำคัญจะไปก่อนเวลาเป็นชั่วโมง ส่วนงานปกติก็จะไปก่อนเวลานิดหน่อย อาจเป็นเพราะการเดินทางสามารถใช้รถไฟฟ้า ทำให้การคาดการณ์เวลาทำได้ดีขึ้น หรือเพราะฉันเห็นคุณค่าของทั้งตนเอง และผู้อื่นมากขึ้นก็อาจเป็นได้
แค่อยากแชร์ว่า ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงได้ นิสัยแย่ ๆ ของเราก็เช่นกัน เราอาจเคยอึดอัด ที่ไม่สามารถแก้นิสัยแย่ ๆ บางอย่างของเรา ฉันเองเป็นบทพิสูจน์หนึ่ง ที่สามารถค่อย ๆ แก้ไขนิสัยเสียนี้ได้ ถึงแม้จะไม่เต็ม 100% แต่ก็มากเกินกว่า 90% แน่นอน โดยการเปลี่ยนทีละน้อย
คุณเองก็สามารถทำได้ เชื่อฉันเถิด!!!
โค้ชสุนีย์ เอี่ยมแสงสิน
ที่ปรึกษาการเงิน
เจ้าของหนังสือ “รู้ 4 สิ่งนี้ การเงินดีตลอดกาล”
และ “จัดการเงินดี เงินก็ไม่หนีไปหาคนอื่น”
ติดตามความรู้ดี ๆ ทางช่องทางต่าง ๆ : -
Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZSRfVqrVj/
#รู้4สิ่งนี้การเงินดีตลอดกาล
#เทคนิคง่ายและกระชับเพื่อยกระดับฐานะการเงิน
#จัดการเงินดีเงินก็ไม่หนีไปหาคนอื่น
#อ่านเองยังยิ่งอ่านยิ่งอินคนอื่นอ่านยุ่อมยังประโยชน์ได้แน่นอน
#หนังสือการเงินที่อ่านง่าย
#ต้องมีไว้ติดบ้าน
#เด็กอ่านได้
#ผู้ใหญ่อ่านดี
#เสริมภูมิคุ้มกันด้านการเงิน
#คู่คิดประจำบ้าน
#เพจโค้ชสุนีย์ที่ปรึกษาการเงิน
#พู่สร้าง
#พู่คือพู่กัน
#สร้างคือสร้างแรงบันดาลใจ
#ถ้าเรื่องเหล่านี้ได้จุดประกาย สร้างแรงบันดาลใจให้ใครสักคน
ลุกขึ้นมาเปลี่ยนชีวิตตนให้ดีขึ้น
เมื่อนั้นก็ถือว่าพู่สร้างประสบความสำเร็จแล้ว
#ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
