19 ก.พ. เวลา 14:01 • ยานยนต์
ปัจจุบันบริษัทผลิตรถยนต์จะเน้นโลเคชั่นการผลิตและประกอบแตกต่างจากในสมัยก่อนค่อนข้างมากเพราะการขนส่งรถทั้งคันไม่ว่าจะเป็น Inbound Outbound ค่าใช้จ่ายจะสูงมากและค่าขนส่งก็จะแปรผันตามเชื้อเพลิงในแต่ละประเทศหรือพื้นที่ซึ่งทำให้การทำตัวเลขกำไรขาดทุนหรือลดต้นทุนในแต่ละสาขาหรือแต่ละแบรนด์ต้องแข่งขันกันสูงขึ้น ดังนั้นปัจจัยเรื่องเชื้อเพลิงที่เป็นน้ำมันกับไฟฟ้าจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องไปแข่งขันกับจีนซึ่งในประเทศของเขานั้นมีกำลังซื้อและมีความต้องการเพียงพออยู่แล้วนอกจากต้นทุนเรื่องค่าแรงและวัตถุดิบอื่นๆ
ดังนั้นเชื้อเพลิง Hydrogen จึงเป็นสิ่งที่บริษัทญี่ปุ่นให้ความสำคัญมากกว่ารถไฟฟ้าที่เห่อผลิตกันในยุโรปและได้รับความนิยมกันมาก่อนหน้าในช่วงที่จีนกำลังเปิดประเทศได้สักพักและกำลังสร้างธุรกิจปิโตรเลียมให้เป็นฟองสบู่ทั้ง Sinopec หรืออะไรต่อมิอะไรก็เริ่มมีในยุคนั้น
หากถามว่าราคาค่าไฟฟ้าในแต่ละประเทศนี่มันถูกแพงต่างกันมากกว่าราคาน้ำมันหรือ Hydrogen ขนาดไหน? ความเสี่ยงจากการปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลงของอะไรจะดูมีผลกับยอดขายมากกว่า? อย่างน้อยถ้าวันนึงหากรถบรรทุกรถยนต์สามารถใช้แต่เชื้อเพลิงสะอาดได้ล้วนๆต้นทุนจะเป็นเช่นไร?
ประการต่อมาก็คือนโยบายการลดการปล่อยมลพิษหรือลดคาร์บอนที่กลายเป็นมาตรฐานไปแล้วทั่วโลก ที่แม้การลดการใช้น้ำมันจะแพร่หลายเป็นอย่างยิ่งและเพิ่มมาตรฐานให้กับทุกสัดส่วนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องแต่การผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับยานยนต์ที่ใช้ไฟฟ้านั้นเท่ากับเป็นการสนับสนุนการสร้างเขื่อนหรือสร้างโรงไฟฟ้าไปในตัว เมื่อเป็นเช่นนี้ บริษัทชั้นนำด้านยานยนต์จะเลือกพัฒนาหรือผลิตอะไรมากกว่า?หากรถที่ใช้ไฟฟ้านั้นตามมาด้วยปัจจัยเหล่านั้น?
1
โฆษณา