เทคนิคการเลือกผู้รับเหมา
ปัญหาในการเลือกผู้รับเหมาเพื่อมาทำงานก่อสร้าง ต่อเติมให้กับเรานั้น อาจจะเป็นเรื่องที่ว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็พอจะมีหลักคิดหรือพิจารณาอยู่
ดังนี้
1.ดูที่งานที่จะให้ทำก่อนว่าเป็นงานประเภทไหน เพื่อจะเลือกช่างได้อย่างถูกต้องกับประเภทงาน เช่น การก่อสร้างอาคารทั้งหลัง ก็ควรเป็นช่างที่มีทีมงานทั้งช่างอิฐช่างปูน ช่างเหล็ก ช่างไม้ เป็นต้น หรือถ้าเป็นงานตกแต่งภายใน ก็ควรเป็นช่างที่ทำงานด้านนี้โดยเฉพาะ
2.ขนาดของงานที่จะให้ทำ หรือเรียกว่า Scope of work เช่น ทำการก่อสร้างทั้งหลังหรือทำแค่บางส่วน เช่นทำเฉพาะการปูกระเบื้อง เท่านั้น เพราะเนื้องานที่จะให้ช่างทำนั้น จะเป็นจุดสนใจของช่างจำนวนหนึ่ง เช่นถ้างานเล็กๆน้อยๆ อาจจะหาช่างยากกว่างานที่มีเนื้องานเยอะ หรือหาได้ แต่ก็จะแลกมาด้วยค่าจ้างที่สูง
3.ควรมีแบบที่ชัดเจนว่าจะให้ทำอะไรบ้าง หน้าตาในสิ่งที่จะต้องทำเป็นอย่างไร เพื่อลดปัญหาความเข้าใจไม่ตรงกันและทำงานออกมาไม่ตรงกับที่ต้องการ
แบบนั้นควรมีการระบุ ขนาด ระยะ วัสดุที่จะใช้ให้ชัดเจน ถ้าระบุถึงวิธีการติดตั้งได้ก็จะเป็นการดีแต่เจ้าของต้องมั่นใจว่าการติดตั้งนั้นเป็นสิ่งที่เป็นมาตราฐาน
4.ผู้รับเหมาควรเสนอราคา โดยมีการแยกรายการที่ละเอียดชัดเจน เรียกในภาษางานก่อสร้างว่า BOQ (อ่านว่า บิวคิว ย่อมาจาก Bill of Quantities) เช่นใช้กระเบื้องกี่ตารางเมตร คิดค่ากระเบื้องตารางเมตรละเท่าไร คิดค่าติดตั้งค่าแรงตารางเมตรละเท่าไร เป็นต้น
5.ควรมีผู้รับเหมา มาเสนอราคาอย่างน้อย 2 เจ้าในกรณีที่งานใหญ่ แต่ถ้างานเล็กๆ ก็ตามแต่ตกลง
6.เลือกผู้รับเหมาที่เคยผ่านงานที่เราจะให้ทำมาบ้าง มีรูปผลงานหรือพาไปดูบ้านลูกค้าเดิมได้
เช่น หากช่างไม่เคยทำงานปูกระเบื้องก็ไม่ควรจ้าง แม้ช่างจะบอกว่าทำได้ก็เถอะ (เพราะช่างส่วนใหญ่ชอบบอกว่าทำได้ทุกอย่าง ซึ่งไม่จริงเลย)
7.สอบถามจากคนที่เคยจ้างทำงาน หรือผ่านคนที่แนะนำมาก็ดี อย่างน้อยถูกคัดสรรประวัติมาประมาณหนึ่ง
8.มีการทำสัญญาที่ชัดเจน แบ่งเป็นกี่งวดงาน แต่ละงวดงานจะมีอะไรเสร็จบ้างและจะเบิกเงินกี่% ของมูลค่ารวมของงาน
หากเจอผู้รับเหมาเร่งจะปิดดีลการว่าจ้าง แล้วเสนอส่วนลดเท่านั้นเท่านี้หรือบอกว่าจะไปรับงานอื่นแล้วถ้าไม่รีบตกลง ไม่จำเป็นต้องเร่งตาม
ส่วนลดที่เยอะอาจดูล่อใจ แต่ก็จะแลกมาด้วยคำถามที่ว่า แล้วเงินที่เหลือจะพอทำงานให้เราจริงเหรอ
หากเจอกรณีแบบนี้ ให้ระวังให้ดี ผู้รับเหมาบางรายแค่ต้องการได้งานใหม่เรื่อยๆแต่ไม่กะจะจบงาน หรือมีโอกาสทิ้งงาน
9.ควรมีระยะเวลาการประกันผลงานที่เหมาะสมและตกลงกันที่ชัดเจน อาจจะมีการหักเงินไว้จำนวนหนึ่ง อาจจะเป็น 5% หรือ 3% และจะจ่ายเมื่อครบระยะเวลารับประกัน แต่ในกรณีนี้ งานเล็กๆมันจะยากที่จะมีการรับประกันผลงาน ดังนั้นควรพิจารณาให้ดี
10.ในสัญญา เงินก้อนแรกที่เบิกไม่ควรเกิน 10-15% ของมูลค่างาน ส่วนงวดอื่นๆก็ตามสัดส่วนงาน
11.กรณีทำไประหว่างทาง ผู้รับเหมาอาจมีการขอเบิกล่วงหน้าหรือเบิกเงินตามงวดงานแต่ปริมาณงานที่ต้องเสร็จไม่ครบตามที่ระบุในงวดงานนั้นๆ
ในกรณีนี้ หากจะจ่ายก็ให้หักออกตามส่วน งานไหนเสร็จจ่ายแค่นั้น งานไหนไม่เสร็จไม่ต้องจ่าย
เมื่อเจอแบบนี้ให้เริ่มระวังตัว หากเกิดขึ้น 2 งวดงานติดมักจะเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีเท่าไร
หยุดได้คือหยุด หรืออาจจะเปลี่ยนข้อตกลงเป็นไปในลักษณะอื่นแทน เช่นจ้างเฉพาะค่าแรงรายวันหรือจ้างเฉพาะค่าแรงต่อชิ้นงาน
หากเหตุการณ์ยังเป็นไปในลักษณะเดิม ให้ตัดใจเลิกจ้าง เครียเงินตามจริง หาช่างใหม่
หวังว่าคงจะพอเป็นประโยชน์บ้างนะครับ
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
