6 มี.ค. เวลา 12:59 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 87

บทกวีขบถ (2) บทเพลงพยากรณ์
เมืองอู๋เหวยจวิน 无为军 ตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำฟากตรงข้ามกับเจียงโจว เป็นเมืองเล็กไม่ค่อยเจริญมีอดีตทงพั่น 通判 หรือผู้ช่วยเจ้าเมืองอาศัยอยู่แซ่หวง 黄 ชื่อ เหวินปิ่ง 文炳 แม้จะเคยร่ำเรียนตำรับตำราแต่ที่ได้ดีเพราะประจบสอพลอ เป็นคนจิตใจคับแคบ อิจฉาริษยา ใครดีกว่าตนคอยให้ร้าย ใครด้อยกว่าตนคอยกลั่นแกล้ง มักรังแกชาวบ้าน จึงมีฉายาว่า เหล็กไนต่อ 黄蜂针 รู้ว่าเจ้าเมืองไฉ้จิ่วเป็นบุตรของราชครูไฉ้จึงมักข้ามน้ำมาประจบหวังว่าจะได้กลับมาเป็นขุนนางมีตำแหน่ง นับเป็นมารผจญของซ่งเจียง
วันนั้นอยู่ว่างไม่มีอะไรทำจึงซื้อของขวัญนำข้ามน้ำมาหวังเลียขาเจ้าเมืองไฉ้จิ่วซึ่งเผอิญติดราชการอยู่ จึงเดินกลับมายังเรือเจ้ากรรมที่ผูกจอดอยู่หน้าหอสวินหยาง อากาศร้อน หวงเหวินปิ่งจึงขึ้นมาบนหอสวินหยางเพื่อนั่งพักหาอะไรกิน เห็นบนกำแพงมีบทกวีเขียนอยู่หลายบทจึงเดินอ่านดู บางบทเขียนได้ดี บางบทแย่ขาดฉันทลักษณ์ หวงเหวินปิ่งแอบขำอยู่
อ่านมาถึงบทกวีซีเจียงเยว่ของซ่งเจียงก็ไปสะดุดเอาที่สี่วรรคท้าย จึงกลับมาอ่านใหม่อีกรอบ
自幼曾攻经史,长成亦有权谋。
ยามเยาว์ศึกษาประว้ติคัดคัมภีร์
ยามใหญ่มีเล่ห์เพทุบายเชี่ยว
“เจ้านี่ขี้โม้ไม่เบา” หวงเหวินปิ่งเยาะ
恰如猛虎卧荒丘,潜伏爪牙忍受。
ดุจเสือร้ายเร้นกายหมอบเนินเปลี่ยว
งำเขี้ยวเล็บเก็บซ่อนอย่างอดทน
 
“หมอนี่ไม่เจียมตัว”
不幸刺文双颊,那堪配在江州。
โชคร้ายถูกสักหน้าตราสองแก้ม
แถมเนรเทศเจียงโจวระเหหน
 
“ไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร ดูท่าจะเป็นนักโทษเนรเทศ”
他年若得报冤仇,血染浔阳江口!
ปีหน้าล้างลบแค้นที่แสนทน
เลือดระคนนองปากน้ำสวินหยาง
 
“หมอนี่จะแก้แค้นใคร คิดจะลงมือที่นี่ แค่นักโทษเนรเทศจะทำอะไรได้”
心在山东身在吴,飘蓬江海谩嗟吁。
ใจคงอยู่ซานตงกายอยู่อู๋
เร่ร่อนอยู่ทะเลยุทธสุดอางขนาง
 
“สองวรรคนี้พออภัยได้”
他时若遂凌云志,敢笑黄巢不丈夫!
วันหน้าลุปณิธานผ่านฟ้ากว้าง
ใครอาจขวางหวงเฉาผู้เกรียงไกร
 
หวงเหวินปิ่งโคลงหัวว่า “ไร้มารยาท จะเอาอย่างหวงเฉา นี่มันเท่ากับคิดขบถ” แล้วอ่านต่อว่า
郓城宋江作
ซ่งเจียงวิ่นเฉิงประพันธ์
 
“ชื่อนี้เคยได้ยินบ่อยอยู่ ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหน้าที่เล็กๆ 小吏”
หวงเหวินปิ่งจึงเรียกบริกรมาสอบถาม “ใครเป็นผู้เขียนบทกวีไว้ที่นี่”
บริกรว่า “เมื่อคืนมีชายผู้หนึ่งมานั่งดื่มอยู่ผู้เดียว พอเมาแล้วเขียนเอาไว้”
“ลักษณะเป็นคนอย่างไร”
“บนแก้มมีตราสักอยู่สองแถว น่าจะเป็นคนโทษในค่าย รูปร่างท้วมเตี้ยดำ”
หวงเหวินปิ่งว่า “ใช่แล้ว” จึงยืมหมึกพู่กันมาคัดลอกใส่กระดาษเก็บไว้ และกำชับบริกรว่าอย่าเพิ่งขูดลบทิ้ง
หวงเหวินปิ่งลงจากหอมาค้างคืนที่เรือหนึ่งคืน เช้าวันรุ่งขึ้นให้คนใช้แบกของขวัญตามมายังจวนเจ้าเมือง ท่านเจ้าเมืองกลับมาจากที่ว่าการพอดี พอคนเข้าไปรายงานได้เป็นนาน อย่างมากพิธีรีตองกว่าจะใช้คนมาเชิญเข้าไปด้านใน ทักทายตามพิธีกันอีกครู่ใหญ่กว่าจะได้มอบของขวัญให้ จนในที่สุด หวงเหวินปิ่งก็ได้โอกาสกราบเรียนว่า
“เหวินปิ่งข้ามน้ำมาแต่เมื่อวานเพื่อมาคารวะ แต่ทราบว่าพระคุณท่านติดราชการจึงไม่กล้ารบกวน จึงได้รอกลับมาใหม่ในวันนี้”
ไฉ้จิ่วว่า “ทงพั่นเป็นผู้รู้ใจข้า จะเข้ามาคุยกันเป็นไรมี ข้าเองก็ไม่ได้ต้อนรับ”
หวงเหวินปิ่งว่า “เรียนถามพระคุณท่าน ระยะนี้พระคุณท่านราชครูมีข่าวคราวมาบ้างหรือไม่”
ไฉ้จิ่วว่า “วันก่อนเพิ่งมีหนังสือมาว่า ท่านซือเทียนเจี้ยน 司天监 โหราจารย์ผู้สำรวจดาราบนฟากฟ้าถวายรายงานว่า ดาวกัง 罡星 หางดาวจระเข้เจิดจ้าเหนือ อู๋ 吴 และ ฉู่ 楚 (ดินแดนทางใต้) จะมีการลุกฮือก่อขบถ ให้เฝ้าตรวจตราและปราบปรามเสีย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเพลงกล่อมเด็กแพร่หลายในหมู่ชาวบ้านร้านตลาดอยู่สี่วรรคว่า
耗国因家木,刀兵点水工。
纵横三十六,播乱在山东。
 
ปล้นเมืองไม้ในบ้าน
บัญชาทหารงานแต้มอุทก
ทั้งสิ้นสามสิบหก
เพาะขบถที่ซานตง
จึงมีบัญชามา ให้ตรวจตราท้องที่ให้จงดี”
หวงเหวินปิ่งตรองอยู่ค่อนวันจึงหัวเราะว่า “พระคุณท่าน จะบังเอิญเกินไปไหมนี่” แล้วก็ล้วงเอาบทกวีที่คัดลอกมาจากในแขนเสื้อส่งให้ไฉ้จิ่วแล้วว่า “คิดไม่ถึงว่าจะอยู่ที่นี่เอง”
ไฉ้จิ่วอ่านดูแล้วว่า “นี่เป็นบทกวีขบถ ทงพั่นท่านได้มาจากที่ใด”
หวงเหวินปิ่งว่า “เมื่อวานผู้น้อยมิบังอาจเข้ามาในจวน จึงกลับไปที่ริมน้ำ ขึ้นไปนั่งหลบร้อนอยู่บนหอสวินหยาง อ่านดูบทกวีที่คนก่อนๆ เขียนเอาไว้ เห็นบนผนังมีบทนี้เพิ่งเขียนไว้ใหม่”
เจ้าเมืองว่า “ผู้เขียนนี้เป็นคนเช่นไร”
หวงเหวินปิ่งตอบว่า “นายท่าน ในนั้นมีชื่อแซ่เขียนไว้ชัดเจนว่า ซ่งเจียงวิ่นเฉิงประพันธ์”
เจ้าเมืองว่า “ซ่งเจียงผู้นี้เป็นคนเช่นไร”
หวงเหวินปิ่งว่า “เขาเขียนเอาไว้ว่า
โชคร้ายถูกสักหน้าตราสองแก้ม
แถมเนรเทศเจียงโจวระเหหน
คงเป็นนักโทษเนรเทศในแดนจำ”
เจ้าเมืองว่า “แค่นักโทษเนรเทศ จะทำอะไรได้”
หวงเหวินปิ่งว่า “นายท่านอย่าได้ประมาทไป ในหนังสือของพระคุณท่านผู้บิดากล่าวถึงเพลงกล่อมเด็ก หมายถึงคนผู้นี้”
เจ้าเมืองว่า “เห็นได้อย่างไร”
1
หวงเหวินปิ่งว่า “ปล้นเมืองไม้ในบ้าน 耗国因家木 ผู้ที่ปล้นบ้านปล้นเมืองนั้น คือผู้ที่มีอักษร “ไม้ 木” อยู่ใต้หลังคา “บ้าน 家” เห็นชัดว่าคืออักษร “ซ่ง 宋” ส่วนวรรคที่สองที่ว่า บัญชาทหารงานแต้มอุทก 刀兵点水工 ผู้ที่ระดมกำลังก่อการนั้นคือ ผู้ที่มีน้ำแต้มอยู่ข้างอักษร “งาน 工” ซึ่งชัดเจนว่าคืออักษร “เจียง 江” คนผู้นี้แซ่ซ่งชื่อเจียง ทั้งยังแต่งบทกวีขบถ
明是天数,万民有福。
ชัดเจนว่าลิขิตฟ้า
มวลประชานับเป็นโชค”
เจ้าเมืองถามอีกว่า “เหตุใดจึงว่า ทั้งสิ้นสามสิบหก 纵横三十六 เพาะขบถที่ซานตง 播乱在山东”
หวงเหวินปิ่งตอบว่า “อาจหมายถึงปีหกหก หรือหมายถึงจำนวนหกหก ส่วนที่ว่า เพาะขบถที่ซานตง นั้น ปัจจุบันอำเภอวิ่นเฉิงขึ้นอยู่กับซานตง คำทำนายทั้งสี่วรรคนี้สอดคล้องต้องกัน”
เจ้าเมืองว่า “ไม่รู้ว่าที่นี่มีคนผู้นี้หรือไม่”
หวงเหวินปิ่งว่า “เมื่อวานผู้น้อยถามคนที่ร้านได้ความว่าคนผู้นี้เพิ่งเขียนเอาไว้เมื่อวันก่อน เรื่องนี้ไม่ยาก เพียงนำบันทึกของแดนจำมาตรวจดูก็รู้ว่ามีหรือไม่”
เจ้าเมืองจึงให้คนไปนำบันทึกแดนจำจากคลังเอกสารมาตรวจดูด้วยตัวเองก็พบว่า เมื่อเดือนห้ามีนักโทษเนรเทศมาอยู่ใหม่จดชื่อไว้ว่า ซ่งเจียงอำเภอวิ่นเฉิง
หวงเหวินปิ่งว่า “ตรงกับเพลงพยากรณ์ไม่มีผิด หากชักช้า ข่าวอาจรั่วไหล ควรรีบจับตัวมาคุมขังไว้แล้วค่อยหารือ”
เจ้าเมืองว่า “กล่าวได้ถูกต้อง”
เจ้าเมืองขึ้นว่าการเรียกพัสดีอาวุโสสองที่ว่าการ 两院押牢节级 มาเข้าพบ ไต้จงมาถึงขานคารวะแล้ว เจ้าเมืองก็สั่งว่า
“ท่านรีบนำคนไปยังแดนจำ จับกุมผู้ที่เขียนบทกวีขบถบนหอสวินหยาง ซ่งเจียงอำเถอวิ่นเฉิงมา อย่าได้ผิดพลาด”
ตอนก่อนหน้า : บทกวีบนหอสวินหยาง
ตอนถัดไป : ไต้จงเดินสาส์น

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา