Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
•
ติดตาม
11 เม.ย. เวลา 12:27 • นิยาย เรื่องสั้น
จบภารกิจ
บรรยากาศภายในบ้านของครอบครัวเสตเตนเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขที่ได้ต้อนรับหนูแอนนากลับคืนมาอย่างปลอดภัย
เมอร์คิวเรียสมองไปที่คุณนายเสตเตน หนูแอนนาและเหล่าคนรับใช้ซึ่งต่างก็มีน้ำตาแห่งความสุขไหลเอ่อล้น แต่กับคุณแวนเสตเตนนั้นเขากลับมีสีหน้าที่ดูเรียบเฉยจนเมอร์คิวเรียสไม่อาจคาดเดาความรู้สึกของเขาได้เลย
ทั้งคุณเสตเตนและคุณนายเสตเตนได้กล่าวขอบคุณเมอร์คิวเรียสที่สามารถพาแอนนากลับมาคืนให้กับครอบครัว จากนั้นทั้งสองได้เดินมาส่งเมอร์คิวเรียสที่หน้าประตู
ขณะเมอร์คิวเรียสยืนอยู่ตรงบันไดหน้าบ้านเขามองเห็นนายกเทศมนตรีกำลังเดินมุ่งหน้ามาหาเขา
ทันทีที่นายกเทศมนตรีอยู่ต่อหน้าเมอร์คิวเรียส เขาได้ถอดหมวกและโค้งตัวให้กับเมอร์คิวเรียส
“ผมขอแสดงความขอบคุณอาจารย์เมอร์คิวเรียสเป็นอย่างสูงที่ได้ช่วยเด็กหญิงทั้งสองคนให้กลับคืนสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัยครับ”
“ท่านนายกเทศมนตรีทราบได้อย่างไรครับว่าผมอยู่ที่นี่?”
“ผมรู้จากหญิงสาวที่คอยส่งสัญญาณบนโบสถ์นิวเคิร์กยังไงล่ะครับ เธอเห็นอาจารย์วิ่งไปทางถนนเวสท์ซิงเกลแล้วหายไปสักพักใหญ่ เธอจึงบอกพวกเราให้ไปทางนั้น แต่พวกเราหาอาจารย์ไม่เจอ พออาจารย์ปรากฏตัวอีกครั้ง เธอก็ได้ส่งสัญญาณบอกพวกเราทันที พอพวกเรามารวมตัวกันที่นิวเคิร์ก เธอบอกพวกเราว่าเธอเห็นอาจารย์พาแอนนากลับบ้าน อาจารย์ครับผมขอเชิญอาจารย์กลับไปที่ศาลาว่าการ ที่นั่นเรามีทั้งเบียร์ ขนมปังและสเต็กเตรียมไว้ต้อนรับครับ”
“ขอบคุณมากครับท่านนายกเทศมนตรี”
“อาจารย์ครับ แล้วเจ้าบริเอลล์ล่ะครับ เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือครับ?”
ก่อนที่เมอร์คิวเรียสจะตอบคำถามนี้เขานึกถึงคำกล่าวที่บอกว่าเวลาคนพูดเท็จ ร่างกายจะแสดงภาษากายบางอย่างออกมาโดยคนพูดเท็จไม่รู้ตัว หากคนฟังสังเกตให้ดีเขาก็จะรู้ว่าคนคนนี้พูดโกหก ซึ่งเมอร์คิวเรียสหวังว่านายกเทศมนตรีคงไม่เห็นภาษากายของเขาในครั้งนี้
“ท่านนายกเทศมนตรีครับ เหตุการณ์ตอนนั้นลำพังผมตัวคนเดียว ผมไม่มีปัญญาที่จะทั้งช่วยแอนนาและจับบริเอลล์ได้หรอกครับ บริเอลล์เป็นชายร่างใหญ่และแข็งแรง ผมสู้แรงเขาไม่ได้แน่นอน แต่ผมสามารถกล่อมให้บริเอลล์ปล่อยมือจากแอนนาได้
ผมบอกเขาว่าเขาไม่สามารถหลบหนีไปได้ตลอด อีกทั้งแอนนาไม่เหมาะที่จะใช้ชีวิตแบบเขาในการต้องออกทะเลไปกับเขา และเขาก็ไม่ควรทิ้งเธอไว้คนเดียวเวลาเขาออกทะเล เขาเองก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าตอนนี้แอนนาได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากครอบครัวเสตเตน และเขาเองก็ไม่อยากให้แอนนาต้องมาทนเห็นเขาถูกแขวนคอต่อหน้าต่อตา ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะจากเธอไปพร้อมกับให้สัญญาว่าเขาจะไม่มาพบเธอครับ”
“อาจารย์เชื่อคำพูดเขาหรือครับ?”
“ผมเชื่อเขาครับ ไม่ใช่เพราะเขาสัญญากับผม แต่เป็นเพราะเขาให้สัญญากับลูกสาวของเขาต่างหากครับ”
“ฟังอย่างนี้แล้วผมเห็นด้วยกับอาจารย์ครับ ผมว่าเรารีบกลับศาลาว่าการดีกว่าครับ ทุกคนรอเราอยู่”
บรรยากาศที่ศาลาว่าการเป็นไปอย่างรื่นเริงหลังจากทุกคนเหน็ดเหนื่อยกับการล้อมจับคนร้าย มีเจ้าหน้าที่หลายคนเข้ามาแสดงความขอบคุณเมอร์คิวเรียส แต่ว่าในใจของเมอร์คิวเรียสกลับไม่ได้มีความภูมิใจตัวเองแม้แต่น้อย
แม้ว่าบริเอลล์ได้เข้าพิธีสารภาพบาปต่อเขาในฐานะนักบวชคาทอลิกและได้ให้สัญญาว่าจะไม่มาพบแอนนาก็ตาม แต่ว่าถ้าเขาบอกเรื่องนี้ออกไปมันจะทำให้เขาต้องสูญเสียสถานะการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยไลเดน แต่ถ้าหากเขาปกปิดเรื่องนี้เขาก็จะผิดคำพูดที่ให้ไว้กับบริเอลล์ ถึงตอนนี้แล้วเมอร์คิวเรียสได้แต่ภาวนาอย่าให้มีใครมาขุดคุ้ยเรื่องนี้ขึ้นมาเลย
แวนลิวเวนฮอคและแวนรุจเวนได้เดินมาพูดคุยกับเมอร์คิวเรียส ทั้งสองขอร้องให้เมอร์คิวเรียสเล่ารายละเอียดให้ฟัง
“เท่าที่อาจารย์เล่ามานั้น ผมเองก็เข้าใจและเห็นใจกับคนร้าย แต่ผมขอยืนยันว่าคนร้ายสมควรที่จะได้รับการตัดสินจากศาลบนโลกมนุษย์ก่อนที่จะถึงวันพิพากษาของพระผู้เป็นเจ้า การที่บริเอลล์สามารถหลบหนีไปได้ทำให้จิตวิญญาณของเขาไม่ได้รับการชำระล้าง” แวนรุจเวนกล่าวอย่างหนักแน่น
เมอร์คิวเรียสไม่ได้กล่าวโต้เถียงแวนรุจเวนแต่อย่างใด สำหรับเมอร์คิวเรียสแล้วคำว่าเมตตาและการให้อภัยเป็นสิ่งที่บริเอลล์สมควรได้รับ
ส่วนแวนลิวเวนฮอคนั้นได้กล่าวกับเมอร์คิวเรียสว่า
“ผมขอบอกอาจารย์ตามตรงว่าผมไม่ได้อยากเห็นเจ้าบริเอลล์ถูกแขวนคอหรอก และผมก็ไม่อยากให้อาจารย์ถูกบริเอลล์ทำร้าย ที่ผ่านมาถึงแม้ว่ามีบางรรยากาศภายในบ้านของครอบครัวเสตเตนเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขที่ได้ต้อนรับหนูแอนนากลับคืนมาอย่างปลอดภัย
เมอร์คิวเรียสมองไปที่คุณนายเสตเตน หนูแอนนาและเหล่าคนรับใช้ซึ่งต่างก็มีน้ำตาแห่งความสุขไหลเอ่อล้น แต่กับคุณแวนเสตเตนนั้นเขากลับมีสีหน้าที่ดูเรียบเฉยจนเมอร์คิวเรียสไม่อาจคาดเดาความรู้สึกของเขาได้เลย
ทั้งคุณเสตเตนและคุณนายเสตเตนได้กล่าวขอบคุณเมอร์คิวเรียสที่สามารถพาแอนนากลับมาคืนให้กับครอบครัว จากนั้นทั้งสองได้เดินมาส่งเมอร์คิวเรียสที่หน้าประตู
ขณะเมอร์คิวเรียสยืนอยู่ตรงบันไดหน้าบ้านเขามองเห็นนายกเทศมนตรีกำลังเดินมุ่งหน้ามาหาเขา
ทันทีที่นายกเทศมนตรีอยู่ต่อหน้าเมอร์คิวเรียส เขาได้ถอดหมวกและโค้งตัวให้กับเมอร์คิวเรียส
“ผมขอแสดงความขอบคุณอาจารย์เมอร์คิวเรียสเป็นอย่างสูงที่ได้ช่วยเด็กหญิงทั้งสองคนให้กลับคืนสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัยครับ”
“ท่านนายกเทศมนตรีทราบได้อย่างไรครับว่าผมอยู่ที่นี่?”
“ผมรู้จากหญิงสาวที่คอยส่งสัญญาณบนโบสถ์นิวเคิร์กยังไงล่ะครับ เธอเห็นอาจารย์วิ่งไปทางถนนเวสท์ซิงเกลแล้วหายไปสักพักใหญ่ เธอจึงบอกพวกเราให้ไปทางนั้น แต่พวกเราหาอาจารย์ไม่เจอ พออาจารย์ปรากฏตัวอีกครั้ง เธอก็ได้ส่งสัญญาณบอกพวกเราทันที พอพวกเรามารวมตัวกันที่นิวเคิร์ก เธอบอกพวกเราว่าเธอเห็นอาจารย์พาแอนนากลับบ้าน อาจารย์ครับผมขอเชิญอาจารย์กลับไปที่ศาลาว่าการ ที่นั่นเรามีทั้งเบียร์ ขนมปังและสเต็กเตรียมไว้ต้อนรับครับ”
“ขอบคุณมากครับท่านนายกเทศมนตรี”
“อาจารย์ครับ แล้วเจ้าบริเอลล์ล่ะครับ เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือครับ?”
ก่อนที่เมอร์คิวเรียสจะตอบคำถามนี้เขานึกถึงคำกล่าวที่บอกว่าเวลาคนพูดเท็จ ร่างกายจะแสดงภาษากายบางอย่างออกมาโดยคนพูดเท็จไม่รู้ตัว หากคนฟังสังเกตให้ดีเขาก็จะรู้ว่าคนคนนี้พูดโกหก ซึ่งเมอร์คิวเรียสหวังว่านายกเทศมนตรีคงไม่เห็นภาษากายของเขาในครั้งนี้
“ท่านนายกเทศมนตรีครับ เหตุการณ์ตอนนั้นลำพังผมตัวคนเดียว ผมไม่มีปัญญาที่จะทั้งช่วยแอนนาและจับบริเอลล์ได้หรอกครับ บริเอลล์เป็นชายร่างใหญ่และแข็งแรง ผมสู้แรงเขาไม่ได้แน่นอน แต่ผมสามารถกล่อมให้บริเอลล์ปล่อยมือจากแอนนาได้
ผมบอกเขาว่าเขาไม่สามารถหลบหนีไปได้ตลอด อีกทั้งแอนนาไม่เหมาะที่จะใช้ชีวิตแบบเขาในการต้องออกทะเลไปกับเขา และเขาก็ไม่ควรทิ้งเธอไว้คนเดียวเวลาเขาออกทะเล เขาเองก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าตอนนี้แอนนาได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากครอบครัวเสตเตน และเขาเองก็ไม่อยากให้แอนนาต้องมาทนเห็นเขาถูกแขวนคอต่อหน้าต่อตา ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะจากเธอไปพร้อมกับให้สัญญาว่าเขาจะไม่มาพบเธอครับ”
“อาจารย์เชื่อคำพูดเขาหรือครับ?”
“ผมเชื่อเขาครับ ไม่ใช่เพราะเขาสัญญากับผม แต่เป็นเพราะเขาให้สัญญากับลูกสาวของเขาต่างหากครับ”
“ฟังอย่างนี้แล้วผมเห็นด้วยกับอาจารย์ครับ ผมว่าเรารีบกลับศาลาว่าการดีกว่าครับ ทุกคนรอเราอยู่”
บรรยากาศที่ศาลาว่าการเป็นไปอย่างรื่นเริงหลังจากทุกคนเหน็ดเหนื่อยกับการล้อมจับคนร้าย มีเจ้าหน้าที่หลายคนเข้ามาแสดงความขอบคุณเมอร์คิวเรียส แต่ว่าในใจของเมอร์คิวเรียสกลับไม่ได้มีความภูมิใจตัวเองแม้แต่น้อย
แม้ว่าบริเอลล์ได้เข้าพิธีสารภาพบาปต่อเขาในฐานะนักบวชคาทอลิกและได้ให้สัญญาว่าจะไม่มาพบแอนนาก็ตาม แต่ว่าถ้าเขาบอกเรื่องนี้ออกไปมันจะทำให้เขาต้องสูญเสียสถานะการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยไลเดน แต่ถ้าหากเขาปกปิดเรื่องนี้เขาก็จะผิดคำพูดที่ให้ไว้กับบริเอลล์ ถึงตอนนี้แล้วเมอร์คิวเรียสได้แต่ภาวนาอย่าให้มีใครมาขุดคุ้ยเรื่องนี้ขึ้นมาเลย
แวนลิวเวนฮอคและแวนรุจเวนได้เดินมาพูดคุยกับเมอร์คิวเรียส ทั้งสองขอร้องให้เมอร์คิวเรียสเล่ารายละเอียดให้ฟัง
“เท่าที่อาจารย์เล่ามานั้น ผมเองก็เข้าใจและเห็นใจกับคนร้าย แต่ผมขอยืนยันว่าคนร้ายสมควรที่จะได้รับการตัดสินจากศาลบนโลกมนุษย์ก่อนที่จะถึงวันพิพากษาของพระผู้เป็นเจ้า การที่บริเอลล์สามารถหลบหนีไปได้ทำให้จิตวิญญาณของเขาไม่ได้รับการชำระล้าง” แวนรุจเวนกล่าวอย่างหนักแน่น
เมอร์คิวเรียสไม่ได้กล่าวโต้เถียงแวนรุจเวนแต่อย่างใด สำหรับเมอร์คิวเรียสแล้วคำว่าเมตตาและการให้อภัยเป็นสิ่งที่บริเอลล์สมควรได้รับ
ส่วนแวนลิวเวนฮอคนั้นได้กล่าวกับเมอร์คิวเรียสว่า
“ผมขอบอกอาจารย์ตามตรงว่าผมไม่ได้อยากเห็นเจ้าบริเอลล์ถูกแขวนคอหรอก และผมก็ไม่อยากให้อาจารย์ถูกบริเอลล์ทำร้าย ที่ผ่านมาถึงแม้ว่ามีบางเรื่องที่ผมจะไม่ได้เห็นด้วยกับอาจารย์ แต่ผมก็เข้าใจอาจารย์ดีว่าอาจารย์ได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ดีที่สุดแล้วในขณะนั้น”
ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันกลับที่พัก นายกเทศมนตรีได้ขอให้เมอร์คิวเรียสสรุปค่าใช้จ่ายที่เสียไปเพื่อจะได้เตรียมเบิกเงินคืนให้เมอร์คิวเรียส นอกจากนี้นายกเทศมนตรียังบอกเมอร์คิวเรียสว่าทางเทศบาลเมืองเดลฟท์ติดหนี้บุญคุณเมอร์คิวเรียสเป็นอย่างมาก เมอร์คิวเรียสจึงถือโอกาสนี้ฝากนายกเทศมนตรีหางานให้กับลูซี่เป็นการตอบแทนความมีน้ำใจของลูซี่ที่มีต่อเขาในช่วงที่พักอยู่ในเดลฟท์
จบบริบูรณ์
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม
สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
11เมษายน2567
นวนิยายแปล
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เรื่องเล่า ไขคดีปริศนาเมืองเดลฟท์( Death in Delft) ผลงานเกรแฮม แบรก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย