สรุป Price Skimming of Apple การตั้งราคาแบบผู้นำฉบับ Apple
Apple แบรนด์ขึ้นชื่อเรื่อง Brand Loyalty หรือความจงรักภักดีที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ ซึ่งแบรนด์ Apple ก็ได้ใช้สิ่งนี้เพื่อสร้างผลกำไรให้กับตนเองได้อย่างมหาศาล
สิ่งที่อยู่เบื้องหลังที่สามารถดึงศักยภาพของแบรนด์และนำไปสู่ความสำเร็จนี้คืออะไร Apple ซ่อนกลยุทธ์อะไรไว้ ครั้งนี้เราจะมาบอกเล่าให้ฟัง
ใครที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Apple จะรู้กันดีว่า Apple ขึ้นชื่อเรื่องการตั้งราคาสินค้าที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาด
เมื่อเปิดตัวสินค้าใหม่ Apple จะตั้งราคาสินค้าไว้ค่อนข้างสูง เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเป็น "Early Adopter" หรือผู้ใช้กลุ่มแรกๆ ที่ยอมจ่ายเงินแพงเพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ หรือก็คือ ดึงดูดกลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นสาวกของ Apple
ลองคิดตามดู ปกติด้วยราคาที่สูงลิ่วของผลิตภัณฑ์ Apple ก็ทำให้แบรนด์ Apple ดูมีความพรีเมียมในระดับผู้นำตลาดอย่างมากอยู่แล้วด้วยกลยุทธ์การตั้งราคาแบบผู้นำตลาด และยิ่งมีผู้บริโภคแบบ Early Adopter ที่พร้อมจะแย่งกันซื้อสินค้าใหม่ของแบรนด์ตั้งแต่ก่อนเปิดตัว จะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูดีขึ้นขนาดไหน
ซึ่งการแย่งกันซื้อของลูกค้า Early Adopter จะยิ่งทำให้สินค้าของ Apple ดูมีความต้องการมากขึ้นในสายตาบุคคลภายนอกและกลุ่มลูกค้าอื่นๆ และอาจทำให้กลุ่มลูกค้าเหล่านั้นรู้สึกว่า ตนเองพลาดอะไรไปหรือเปล่า ซึ่งหลักจิตวิทยาการตลาดนี้ถูกเรียกว่า Loss Aversion จิตวิทยากลัวการสูญเสียนั่นเอง
และเมื่อมีประกาศเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ครั้งถัดไป Apple จะค่อยๆ ปรับลดราคาสินค้ารุ่นเก่านั้นลง เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มีงบจำกัด ซึ่งก็คือ ดึงดูดกลุ่มลูกค้ารองที่ไม่ใช่สาวกของ Apple ขนาดนั้นแต่ก็อยากลองใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Apple
และถ้าสังเกตผลิตภัณฑ์ของ Apple จะมีการแบ่งเป็น 3 ถึง 4 รุ่นย่อย เช่น iPhone รุ่นปกติ, iPhone Plus, iPhone Pro, iPhone Pro Max อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งสเปคเครื่องเพิ่มเติมได้
ที่ทำเช่นนี้ก็เพราะ เพื่อรับรองความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้ารอง ซึ่งจะแตกต่างจากกลุ่มลูกค้าแบบ Early Adopter ที่จะยอดจ่ายสูงเพื่อให้ได้สินค้าที่ดีที่สุดของแบรนด์นั้นก่อนใคร แต่สำหรับกลุ่มลูกค้ารอง พวกเขาไม่ได้อยากจ่ายสูงขนาดนั้น พวกเขาแค่อยากลองใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple
เมื่อ Apple มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ และปรับลดราคาสินค้ารุ่นเก่าลง กลุ่มลูกค้ารองของ Apple ที่มีงบจำกัดจะได้มีตัวเลือกสินค้าในหลายราคา และจะทำให้ Apple สามารถขายสินค้าได้ในจำนวนที่มากขึ้นนั่นเอง
ผลลัพธ์ของกลยุทธ์การตั้งราคาแบบผู้นำ หรือ Price Skimming นั้นประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับแบรนด์อย่าง Apple การตั้งราคาให้สูงไว้ในช่วงแรกเพื่อทำกำไรสูงสุดจากกลุ่มลูกค้าที่ยินดีจ่ายก่อน ซึ่งนอกจากรายได้ที่มากขึ้นแล้วยังสร้างภาพลักษณ์สินค้าพรีเมียมให้กับผลิตภัณฑ์ของ Apple ได้อีกด้วย
และด้วยภาพลักษณ์สินค้าระดับพรีเมียมนี้เอง ก็สามารถดึงดูดบุคคลภายนอกและกลุ่มลูกค้าอื่นๆ ให้มาสนใจผลิตภัณฑ์ของ Apple และขายสินค้าให้กับพวกเขาได้อีก
กรณีของแบรนด์ Apple ที่มี Brand Loyalty ที่แข็งแกร่งและมีสาวกที่เป็น Early Adopter จำนวนมาก ก็ยิ่งทำให้กลยุทธ์ Price Skimming แสดงประสิทธิภาพได้ดีมากขึ้นไปอีก
Apple จึงสามารถสร้างฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น รักในแบรนด์ และยินดีจ่ายเงินแพงเพื่อซื้อสินค้าใหม่ ๆ อยู่เสมอ ส่งผลให้ Apple กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าทางการตลาดมากที่สุดในโลกบริษัทหนึ่งในอย่างยาวนาน