เทรซี่ต้องการรู้สาเหตุให้ได้ เธอจึงตัดสินใจกลับไปเรียนต่อปริญญาเอกที่ University of California-San Diego ในขณะที่เธอทำวิจัยระหว่างเรียน บวกกับการเฝ้าดูอาการชักอย่างต่อเนื่องของลูกทุกวันเป็นเวลา 16 ปี เทรซี่ก็พบสาเหตุอาการป่วยของลูก แถมยังค้นพบวิธีรักษาเป็นของแถมอีกด้วย
ปัจจุบันเทรซี่เป็น ดร.เทรซี่ นักประสาทวิทยา นักพันธุศาสตร์ และผู้สนับสนุนให้ข้อมูลช่วยเหลือผู้ป่วย ด้วยบทบาทที่เป็นทั้งนักวิจัยโรคลมชักและเป็นแม่ของลูกที่เป็นโรคลมชัก เทรซี่รู้ว่าการวิจัยมีความสำคัญ เธอจึงหันมาช่วยเหลือสังคมด้วย เธอเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการพิจารณาการวิจัยของ Citizens United for Research in Epilepsy (CURE) และยังทำงานให้กับมูลนิธิโรคลมชักแห่งซานดิเอโก เครือข่ายสนับสนุนโรคลมชักแห่งออเรนจ์เคาน์ตี้ และมูลนิธิเลนน็อกซ์-กาสเตาต์ซินโดรม