3 พ.ค. เวลา 12:37 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 112

ศึกบ้านสกุลจู้ (2) พลาดท่าสกุลจู้
ซ่งเจียงนำทัพบุกเข้าไปถึงบ้านสกุลจู้เป็นเวลาเย็นแล้ว ซ่งเจียงเร่งกองหน้าให้เข้าตี หลี่ขุยกองหน้าถอดทั้งเกราะทั้งเสื้อเหลือแต่ร่างเปลือยควงขวานคู่ วิ่งตลุยจนมาถึงหน้าคฤหาสน์ เห็นสะพานชักถูกชักเก็บขึ้น ในคฤหาสน์ดับไฟมืด หลี่ขุยจะลงน้ำข้ามคูไป หยางสยงฉุดรั้งตัวไว้ “ไปไม่ได้ ปิดประตูเงียบแบบนี้ต้องมีอุบายแน่ รอท่านพี่มาก่อนแล้วค่อยหารือ”
หลี่ขุยมีหรือจะรอเฉยๆ เอาขวานคู่ตบกันแล้วตะโกนด่าข้ามคูน้ำไปว่า “ไอ้เฒ่าหัวนกเขาจู้ไท่กง ออกมานี่ พ่อพายุหมุนดำอยู่ที่นี่” ในคฤหาสน์นิ่งเงียบไม่มีการตอบรับใดๆ
ซ่งเจียงนำกำลังกองกลางมาถึง หยางสยงรายงานว่าในคฤหาสน์ไม่เห็นมีทหาร ทุกอย่างเงียบสงบ ซ่งเจียงจึงชักม้าสำรวจดู บนกำแพงไม่เห็นทั้งคนทั้งอาวุธ ให้นึกสงสัย ฉุกคิดได้ว่า “ในหนังสือฟ้าก็เขียนห้ามเอาไว้ชัดเจน เผชิญศัตรูอย่าหัวเสีย ข้าพลาดไปเอง มัวคิดแต่จะช่วยพวกพี่น้องทั้งสอง จึงให้เข้าโจมตีในเวลากลางคืน จึงพากันเข้ามาตกอยู่ในที่คับขัน มาถึงหน้าคฤหาสน์กลับไม่เห็นมีทหาร นี่ย่อมมีอุบายแน่ จำต้องรีบถอยทัพ”
หลี่ขุยตะโกนมาว่า “พี่ท่าน คนก็มาถึงกันแล้ว อย่าเพิ่งถอยทัพ ข้าลุยเข้าไปเอง พวกท่านตามข้ามา”
ไม่ทันขาดคำ ในคฤหาสน์มีปืนใหญ่ยิงขึ้นไปกลางฟ้าเป็นอาณัติสัญญาณ บนเนินตู๋หลงมีคบไฟสว่างขึ้นนับพัน มีธนูและหน้าไม้ระดมยิงมาจากหอสูงที่ประตู ซ่งเจียงรีบถอยทัพกลับทางเก่า มาปะกับกองหลังของหลี่จวิ้นหนีฮือขึ้นมาแจ้งว่า “ทางเก่าที่เข้ามาถูกตัดทางแล้ว มีกองกำลังซุ่มอยู่” ซ่งเจียงให้ทหารออกสำรวจหาทางโดยรอบทิศ หลี่ขุยควงขวานคู่วิ่งพล่านจะหาคนมาฆ่าเซ่นขวานแต่ไม่พบใครสักคน
ปืนใหญ่บนเนินตู๋หลงยิงขึ้นฟ้าอีกนัด รอบด้านมีเสียงทหารโห่ร้องกึกก้องกัมปนาท ซ่งเจียงจึงให้ฝ่าออกไปตามทางใหญ่ กลับมีรายงานมาว่าแย่แล้วทัพไปเบียดกันแน่นไม่มีทางออก ซ่งเจียงถามว่า “สภาพแย่อย่างไร”
“ทางข้างหน้าเป็นเขาวงกต เดินไปเดินมา กลับมาที่เก่า”
ซ่งเจียงว่า “ให้ทหารเดินมุ่งไปทางที่มีแสงไฟ มีบ้านเรือนผู้คน หาทางออกไป”
ผ่านไปสักพัก กองหน้ารายงานมาว่า “พอไปตามทางที่มีแสงไฟ กลับมีธนูไม้ไผ่ กระสุนเหล็กหนาม หรือขวากปักอยู่ ไม่มีทางไป”
ซ่งเจียงว่า “สวรรค์จะให้ข้ามาตายเสียที่นี่กระมัง”
ขณะวิตกกังวลอยู่นั้น มีเสียงเอะอะขึ้นทางปีกซ้ายของมู่หง มีรายงานมาว่า “สือสิ้วมาแล้ว”
สือสิ้วถือดาบ ตรงมาหน้าม้าซ่งเจียงแจ้งว่า “พี่ท่านอย่าได้กังวล ผู้น้องรู้ทางแล้ว ให้แจ้งกองทัพเงียบๆ ว่าเห็นต้นหยางขาวให้เลี้ยวทางนั้นไม่ต้องสนใจว่าเป็นทางกว้างหรือทางแคบ”
เดินทัพตามต้นหยางขาวไปได้ราวห้าหกลี้ เห็นทัพข้าศึกด้านหน้ากลับเติมมาจนหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ซ่งเจียงฉงน จึงเรียกสือสิ้วมาสอบถาม “น้องเรา ทำไมทัพโจรข้างหน้าขยายแนวกว้างขึ้น”
สือสิ้วว่า “พวกเขาใช้โคมสัญญาณระดมพล”
ฮวาหยงสังเกตมองบนหลังม้า แล้วเอานิ้วชี้บอกซ่งเจียงว่า “พี่ท่าน เห็นโคมไฟใต้ต้นไม้ดวงนั้นไหม พอเห็นทัพเราเดินมุ่งตะวันออก ก็จะโบกไปทางตะวันออก พอเรามุ่งตะวันตก ก็จะโบกไปทางตะวันตก นั่นคงเป็นโคมสัญญาณ”
ซ่งเจียงว่า “จะทำอย่างไรกับโคมดวงนั้น”
ฮวาหยงว่า “ยากอะไร” จึงคว้าธนู ชักม้าขึ้นหน้าเล็งยิงไปถูกโคมดับ ทัพซุ่มของศัตรูพอไม่เห็นโคมแดงก็เกิดสับสน
ซ่งเจียงให้สือสิ้วนำทางจนออกมาถึงปากทาง ได้ยินเสียงการสู้รบที่หน้าเขา แนวคบไฟกระจัดกระจายไม่เป็นขบวน  ซ่งเจียงให้ทัพหน้าหยุดรอ ให้สือสิ้วไปสอดแนมกลับมารายงานว่า “ทัพที่สองของค่ายเรามาถึงแล้ว กำลังรบกับทัพที่ซุ่มอยู่”
ซ่งเจียงสั่งให้ทัพยกเข้าตีกระหนาบออกไปจากปากทางหมู่บ้าน ทัพสกุลจู้แตกหนีกระเจิง  พบกับหลินชง ฉินหมิง จึงพากันมาที่ปากทางหมู่บ้าน พอดีฟ้าสาง จึงตั้งค่ายลงบนเนินสูง แล้วสำรวจไพร่พลดูความเสียหาย ปรากฏว่า ควบสามเขาหวงซิ่นหายตัวไป จึงเรียกไพร่พลในทัพมาสอบถามได้ความว่า “ท่านหัวหน้าหวงรับบัญชาให้ออกเสาะหาเส้นทาง มาถึงพงอ้อไม่ทันระวัง มีตะขอยื่นมาเกี่ยวขาม้าล้มลง แล้วมีคนกรูเข้ามาจับตัวไป พวกเราเข้าไปช่วยไม่ทัน”
ซ่งเจียงฟังจบโกรธจัด สั่งให้นำตัวไปประการ ฐานที่ไม่รีบรายงานให้รู้ก่อน หลินชง ฮวาหยงจึงช่วยกันขอชีวิตไว้
เหล่าพี่น้องต่างงุนงงว่า “คฤหาสน์ยังตีไม่สำเร็จ กลับเสียพี่น้องไปสองคน ครานี้จะทำอย่างไร”
หยางสยงว่า “สามหมู่บ้านที่นี่มีพันธะสัญญากัน ทว่าหลี่อิ้งที่หมู่บ้านตะวันออก วันก่อนถูกจู้เปียวยิงธนูใส่ไปดอกหนึ่ง ยังพักรักษาตัวอยู่ พี่ท่านไม่ลองไปเจรจาดู”
ซ่งเจียงว่า “ข้าก็ลืมไป เขาย่อมรู้ชัยภูมิที่แห่งนี้เป็นอย่างดี” แล้วจึงสั่งให้เตรียมแพรพรรณสองพับ สุราแพะ(สำหรับวาระสำคัญ) ม้าศึกพ่วงพีพร้อมเครื่องอานบังเหียน นำไปขอเข้าพบด้วยตนเอง ให้หลินชง ฉินหมิงอยู่รักษาค่าย
ซ่งเจียงนำ ฮวาหยง หยางสยง สือสิ้ว และทหารม้าสามร้อยมุ่งหน้ามาบ้านสกุลหลี่ พอมาถึงก็พบว่าประตูคฤหาสน์ปิดไว้แน่นหนา สะพานถูกชักขึ้น บนกำแพงมีทหารรักษาการณ์จำนวนมาก พอเห็นม้าศึกมาก็รัวกลองขึ้น
ซ่งเจียงอยู่บนหลังม้าตะโกนไปว่า “ข้าคือซ่งเจียงแห่งเขาเหลียงซานตั้งใจมาขอเข้าพบท่านขุนนางใหญ่หลี่ หาได้มีเจตนาอื่น พวกท่านไม่จำเป็นต้องเตรียมรบ”
ตู้ซิงอยู่บนกำแพงเห็นหยางสยง สือสิ้วมาด้วย จึงให้เปิดประตู และลงเรือเล็กข้ามคูมาพบ ตู้ซิงขานคารวะซ่งเจียง ซ่งเจียงรีบลงจากม้าคำนับตอบ หยางสยง สือสิ้วก้าวขึ้นหน้าแนะนำว่า
“พี่ท่านนี้คือผู้ที่นำพาผู้น้องทั้งสองเข้าพบท่านขุนนางใหญ่หลี่ เรียกขานว่า ไอ้หน้าผีตู้ซิง”
ซ่งเจียงว่า “ที่แท้คือท่านพ่อบ้านตู้ รบกวนท่านโปรดเรียนท่านขุนนางใหญ่หลี่ว่า ข้าซ่งเจียงแห่งเขาเหลียงซานได้ยินชื่อท่านขุนนางใหญ่มานาน ไม่มีวาสนาได้มาพบ บัดนี้บ้านสกุลจู้ตั้งตัวเป็นอริกับพวกข้า จึงได้ผ่านมาทางนี้ ตั้งใจนำแพรพรรณ ม้าศึก สุราแพะมาเป็นของกำนัลขอเข้าพบ หาได้มีเจตนาอื่น”
ตู้ซิงจึงนำคำข้ามเรือกลับไปรายงานต่อหลี่อิ้งที่ห้องโถงใหญ่ หลี่อิ้งได้รับบาดเจ็บคล้องแขนนั่งอยู่กล่าวว่า “เขาเป็นพวกขบถเขาเหลียงซาน ข้าจะพบเขาได้อย่างไร เจ้าไปบอกเขาว่าข้านอนป่วยอยู่ขยับตัวไม่ได้ ไม่สะดวกให้พบ ไว้วันหน้าจะไปเยี่ยมคารวะ สำหรับของกำนัลไม่อาจรับไว้”
ตู้ซิงข้ามน้ำกลับมาแจ้งแก่ซ่งเจียงว่า “ท่านประมุขตะวันออกน้อมคารวะมายังท่านหัวหน้า เดิมท่านก็ตั้งใจจะมาต้อนรับ แต่เนื่องจากได้รับบาดเจ็บยังนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง จึงไม่อาจมาพบได้ ไว้วันหลังโอกาสเหมาะท่านจะไปคารวะ สำหรับของกำนัลล้ำค่านั้น ท่านจึงมิอาจรับไว้”
ซ่งเจียงว่า “ข้าเข้าใจความหมายของท่านประมุขตะวันออกแล้ว ข้าโจมตีบ้านสกุลจู้พลาดท่า จึงมาขอเข้าพบ ท่านเกรงว่าทางบ้านสกุลจู้จะต่อว่า จึงไม่ยอมออกมาพบ”
ตู้ซิงว่า “ไม่ใช่เช่นนั้น ท่านประมุขป่วยจริง ผู้น้อยเองแม้เป็นชาวเมืองจงซาน แต่มาอยู่ที่นี่หลายปี พอรู้สถานการณ์ที่นี่อยู่บ้าง ตรงกลางคือบ้านสกุลจู้ ทางตะวันออกคือพวกเราบ้านสกุลหลี่ ทางตะวันตกคือบ้านสกุลหู้
ทั้งสามหมู่บ้านนี้ร่วมสาบานว่าจะเป็นตายด้วยกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ครานี้มาทำร้ายท่านประมุขตะวันออกเรา พวกเราย่อมไม่ไปช่วยเหลือ แต่เกรงว่าบ้านสกุลหู้ทางตะวันตกย่อมต้องช่วยเหลืออยู่ คนอื่นก็พอทำเนา แต่มีนักรบหญิงเรียกว่าอีจ้างชิงหู้ซานเหนียงใช้ดาบคู่สุริยันจันทราฝีมือฉกาจนัก นางเป็นคู่หมั้นของจู้เปียวนายน้อยที่สามบ้านสกุลจู้ หากท่านจะเข้าโจมตีบ้านสกุลจู้ก็ไม่ต้องระวังทางตะวันออก คอยระวังแต่ทางตะวันตก
คฤหาสน์สกุลจู้มีทางเข้าออกสองประตู ด้านหน้าและหลังของเนินตู๋หลง จะตีเฉพาะด้านหน้าคงไม่สำเร็จผล ต้องเข้าตีพร้อมกันทั้งหน้าหลัง เส้นทางด้านหน้าซับซ้อนยากสังเกต เหมือนเขาวงกต เส้นทางกว้างแคบไม่เท่ากันตลอดเส้น ต้องสังเกตต้นหยางขาวตรงหัวเลี้ยวคือทางเป็น หากไม่มีต้นไม้นี้ล้วนเป็นทางตาย”
สือสิ้วว่า “ตอนนี้พวกเขาคงตัดต้นหยางขาวทิ้งหมดแล้ว จะสังเกตอะไร”
ตู้ซิงว่า “แม้ตัดต้นก็ยังเหลือตอ ก็เข้าตีตอนกลางวัน อย่าไปตอนกลางคืน”
ซ่งเจียงฟังจบแล้วกล่าวขอบคุณตู้ซิง พาทหารกลับค่าย หลินชงออกมารับ พอเข้าค่ายแล้วซ่งเจียงก็เล่าเรื่องที่หลี่อิ้งไม่ยอมออกมาพบและเรื่องที่ตู้ซิงกล่าวให้ฟัง
1
หลี่ขุยจึงพูดสอดขึ้นมาว่า “หวังดีจะเอาของกำนัลไปให้ หมอนี่กลับไม่ยอมพบพี่ท่าน เดี๋ยวข้าพาทหารสามร้อยคนไปพังบ้านนกเขานั่น จิกหัวมันมาคำนับพี่ท่านเอง”
ซ่งเจียงว่า “น้องเรา เจ้าไม่รู้อะไร เขาเป็นเศรษฐีชาวบ้านทั่วไป ย่อมกลัวอาญาทางการ จะรีบออกมาพบพวกเราได้อย่างไร”
หลี่ขุยหัวเราะแล้วว่า “หมอนั่นเหมือนเด็กน้อย กลัวผู้ใหญ่ไม่กล้าพบ”
1
ซ่งเจียงว่า “ตอนนี้พี่น้องเราถูกจับไปสองคนไม่รู้เป็นตายร้ายดี เหล่าพี่น้องจะออกแรงอีกหน เข้าตีบ้านสกุลจู้ได้หรือไม่”
“พี่ท่านสั่งมา พวกเราย่อมเชื่อฟัง ครั้งนี้จะให้ใครเข้าตีก่อน”
พายุหมุนดำหลี่ขุยว่า “พวกท่านต่างกลัวเด็กน้อย ให้ข้าไปก่อน”
ซ่งเจียงว่า “เจ้าเป็นกองหน้าใช้ไม่ได้ ครั้งนี้ไม่ใช้เจ้า”
หลี่ขุยถูกซ่งเจียงว่า จึงจำต้องก้มหน้าอดกลั้น
ซ่งเจียงกำหนดตัว หม่าหลิน เติ้งเฟย โอวเผิง เสือเตี้ยหวาง “ตามข้าไปเป็นกองหน้า”
กองที่สอง ไต้จง ฉินหมิง หยางสยง สือสิ้ว หลี่จวิ้น จางเหิง จางซุ่น ไป๋เสิ้ง เตรียมกองกำลังทางน้ำ
กองที่สาม หลินชง ฮวาหยง มู่หง หลี่ขุย
แบ่งกำลังกันเป็นสองสายประสานงานกัน นัดหมายกันเสร็จ รีบกินอาหารให้อิ่ม แล้วสวมเกราะออกเดินทาง
ซ่งเจียงนำทัพเป็นกองหน้าใช้ธงแดงนำหน้า พานายทัพทั้งสี่ ทหารม้าหนึ่งร้อยห้าสิบ ทหารราบหนึ่งพัน มาถึงหน้าเนินตู๋หลง เห็นคฤหาสน์สกุลจู้อยู่ตรงหน้า
独龙山前独龙冈,独龙冈上祝家庄。
绕冈一带长流水,周遭环匝皆垂杨。
墙内森森罗剑戟,门前密密排刀枪。
对敌尽皆雄壮士,当锋都是少年郎。
祝龙出阵真难敌,祝虎交锋莫可当。
更有祝彪多武艺,咤叱喑呜比霸王。
朝奉祝公谋略广,金银罗绮有千箱。
白旗一对门前立,上面明书字两行:
填平水泊擒晁盖,踏破梁山捉宋江。
เนินตู๋หลงอยู่หน้าเขาตู๋หลง
บ้านสกุลจู้ตั้งตรงเนินตู๋หลง
รอบเนินมีสายน้ำล้อมเป็นวง
รอบด้านลงปลูกหลิ่วล้อมเป็นแนว
หลังกำแพงข่ายปลายทวนแน่นขนัด
หน้าประตูขัดหอกดาบปักเป็นแถว
เตรียมรับศึกคึกคนองผองทแกล้ว
กองหน้าล้วนแล้วแต่หนุ่มฉกรรจ์
จู้หลงยามออกรบยากรับรุก
จู้หู่ยามบุกมาน่าประหวั่น
จู้เปียวยอดฝีมือน่าคร้ามครั่น
แอบเปรียบเทียบกันว่าเป็นป้าอ๋อง (霸王)
จู้เฉาเฟิ่งผู้เฒ่าเจ้าอุบาย
รวยมากมายแพรพรรณทั้งเงินทอง
ธงขาวคู่หน้าประตูดูผยอง
จารอักษรสองวรรคชักธงเคียง
填平水泊擒晁盖  ถมให้ราบบึงสุ่ยป๋อจับเฉาไก้
踏破梁山捉宋江  ไถให้เรียบเขาเหลียงซานจับซ่งเจียง
ซ่งเจียงยืนม้ามองอักษรบนผืนธงทั้งสองแล้วนึกฉุนเฉียว สาบานว่า “หากข้าไม่เหยียบบ้านสกุลจู้ให้ราบ ไม่ขอกลับเขาเหลียงซาน”
ตอนก่อนหน้า : สอดแนม
ตอนถัดไป : ปิ่นงามอีจ้างชิง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา