23 พ.ค. เวลา 06:36 • อาหาร

แนะนำเมนูอร๊อย อร่อย โดนใจทุกวัย ทำง่ายไม่ยุ่งยาก

1. เกี๊ยวผักโขมอบชีส
วัตถุดิบ
ผักโขมลวกสุก 200 กรัม
แผ่นเกี๊ยว
กระเทียม 5-6 กลีบ
ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
เนย 30 กรัม
ครีมสด 1/2 ถ้วย
มอสซาเรลลาชีส 50 กรัม
เชสด้าชีส 100 กรัม
วิธีทำ
-ตั้งหม้อใส่เนยและกระเทียมสับลงไปเจียวให้มีกลิ่นหอม แล้วตามด้วยผักโขมลวก
-ใส่ผงปรุงรสแล้วใส่ครีมสดตามลงไป ผัดให้เข้ากัน
-ตามด้วยเชดด้าชีส ผัดต่อให้ชีสละลาย
-เมื่อชีสละลายดีแล้วตักผักโขมมาวางบนแผ่นเกี๊ยว แล้วตามด้วยมอสซาเรลลาชีส จากนั้นให้ใช้นิ้วแตะน้ำแล้วทาขอบแผ่นเกี๊ยวให้รอบ
-จากนั้นประกบแผ่นเกี๊ยวเข้าด้วยกันให้เป็นรูปสามเหลี่ยม ปิดให้สนิททุกด้านตัวไส้จะได้ไม่หลุด
-เสร็จแล้วพักไว้รอนำไปทอด
-นำเกี๊ยวลงทอดในไฟกลางๆ ไม่ต้องร้อนมาก ไม่งั้นเกี๊ยวจะไหม้เกรียม ให้ทอดตอนที่น้ำมันร้อนแต่ใช้ไฟกลางๆ คงที่ รอให้แผ่นเกี๊ยวฟูกรอบมีสีเหลืองทองน่าทานก็ตักขึ้นมาพักไว้ได้เลย
2.ข้าวโพดทอด
ส่วนผสม
ข้าวโพดดิบ
แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วย
แป้งข้าวโพด 1/4 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนชา
พริกไทย 1/4 ช้อนชา
น้ำสะอาด 400 ml.
น้ำมันสำหรับทอด
ขั้นตอนการทำ
-มาผสมแป้งกันค่ะ เตรียมชามผสม ใส่แป้งทอดกรอบ
-ตามด้วยแป้งข้าวโพด
-เกลือนิดหน่อย เพิ่มรสชาติ
-แต่งกลิ่นด้วยพริกไทยสักนิด
-คนส่วนผสมของแห้งทั้งหมดให้เข้ากัน
-เติมน้ำลงไปคนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน
-ใส่ข้าวโพดดิบ
-คนให้เข้ากันอีกครั้ง จะได้เนื้อประมาณนี้ค่ะ
-ตั้งกระทะ พอน้ำมันร้อน หยอดเนื้อแป้งของเราลงไปได้เลย
-รอจนแป้งลอย แล้วพลิกกลับด้าน
-รอจนสีสวย ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันพักไว้
3.แกงเห็ด
ส่วนผสม
เห็ดนางรม/เห็ดฟาง/เห็ดหูหนู
บวบงู
ฟักทอง
ชะอม
ใบแมงลัก
กระเทียม
หอมแดง
ตะไคร้
พริกกะเหรี่ยง
น้ำย่านาง
น้ำปลา
น้ำปลาร้า
1.เริ่มจากหั่นผักทุกอย่างเตรียมไว้
2.โขลกเครื่องแกง – มีหอมแดง กระเทียม พริกกะเหรี่ยง โขลกแค่หยาบ ๆ
3.ตั้งหม้อใส่น้ำย่านาง ตามด้วยเครื่องแกงที่โขลก
4.ตามด้วยตะไคร้ พอเริ่มส่งกลิ่นหอม ๆ ใส่ผักที่สุกยาก หรือช้า ลงก่อน คือ ฟักทอง บวบงู เห็ดต่าง ๆ และชะอม
5.ปรุงรสด้วย น้ำปลา และน้ำปลาร้า
6.ชิมรสตามชอบ เมื่อถูกใจแล้ว ใส่ใบแมงลักลงไป เป็นอันเสร็จ
4.บัวลอย ดอกไม้
อุปกรณ์พิเศษ
• ไม้คลึงแป้ง
• พิมพ์กดลายดอกไม้ • ฟิล์มถนอมอาหาร
วัตถุดิบ
แป้งบัวลอย
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
เผือก 1 ถ้วย
กะทิ (อุ่นร้อน) 3 ช้อนโต๊ะ
สีผสมอาหาร
น้ำกะทิ
น้ำกะทิ 3 ถ้วย
หัวกะทิ 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. บดเผือกให้ละเอียด นวดเผือกกับแป้งข้าวเหนียวจนเนื้อเนียน ถ้าแป้งแห้งไปสามารถเติมน้ํากะทิได้ หรือถ้าแป้งแฉะไปก็สามารถเติมแป้งข้าวเหนียวได้
2.แบ่งแป้งออกเป็นก้อน ๆ ตามจํานวนสีที่ต้องการผสม ค่อย ๆ หยดสีผสมอาหารลงในแป้งแต่ละก้อน และนวดให้สีเท่ากันทั้งก้อน(พักแป้งที่เหลือไว้ในชาม คลุมด้วยฟิล์มถนอมอาหารเพื่อไม่ให้แป้งแห้ง)
3.ปั้นแป้งที่ผสมสีเสร็จแล้วเป็นทรงกลม ค่อยๆใช้ไม้คลึงคลึงแป้งเป็นแผ่นหนาประมาณ 1/2 เซนติเมตร นําพิมพ์กดลงบนแป้ง แล้วใช้ตะเกียบดันแป้งออกมาจากพิมพ์ ทําซ้ำจนครบทุกสี (พักแป้งที่กดเสร็จแล้วไว้ในถาด คลุมด้วยฟิล์มถนอมอาหารเพ่ือไม่ให้แป้งแห้ง)
4. ต้มน้ำในหม้อจนเดือด แล้วนําแป้งที่กดเสร็จแล้วลงไปต้มจนแป้งสุก สังเกตว่าแป้ง จะลอยตัวขึ้นมา ตักแป้งออกมาแช่ในน้ำเย็น พอคลายร้อนแล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
5. ต้มน้ำกะทิ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือ และกลิ่น ใบเตยด้วยไฟปานกลาง (หมั่นคนตลอดเวลาเพื่อไม่ให้กะทิ แตกมัน) ปรุงรสชาติเพิ่มได้ เน้นหวานมัน เค็มเล็กน้อย คนจนน้ำตาลละลายแล้วจึงใส่บัวลอยที่ต้มสุกแล้วลงไป ต้มต่อให้เดือดอีกครั้ง จากนั้นลดไฟลง เติมหัวกะทิ ต้มต่อให้ร้อนพอขึ้นไอ ยกลงจากเตา เสิร์ฟร้อนๆ
5.เกี๊ยวกุ้งต้มยำ สูตรน้ำข้น
ส่วนผสม
กุ้งขาว ตัวโตๆ
แผ่นเกี๊ยว
น้ำพริกเผา
นมข้นจืด
น้ำปลา
มะนาว
พริกขี้หนู
เครื่องต้มยำ – ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด
ผักชีไทย
ผักชีฝรั่ง หรือ ผักชีใบเลื่อย
เห็ดฟาง
มาเริ่มจากการ นำเกี๊ยวห่อกุ้งกันค่ะ
1.แผ่แผ่นเกี๊ยว วางกุ้งลงตรงกลาง
2.พับแผ่นแป้งเข้ามา ปิดตัวกุ้งจนมิด แล้วกำให้แผ่นแป้งแนบติดตัวกุ้ง
3.วางเรียงพักไว้
4.ต้มเกี๊ยวกุ้ง จนสุก แล้วสะเด็ดน้ำ พักไว้
5.ทำน้ำซุปต้มยำกันค่ะ ตั้งหม้อต้มน้ำจนเดือด ใส่เครื่องต้มยำลงไป (ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด) ต้มจนส่งกลิ่นหอม ใส่เห็ดฟาง หั่นครึ่ง หรือ หั่น 4 แล้วแต่ชอบ ลงไป ต้มจนเห็ดสุก
6.เตรียมชามเสิร์ฟ มาปรุงรสกันในนี้ได้เลยค่ะ ใส่น้ำพริกเผา นมข้นจืด น้ำปลา มะนาว และพริกขี้หนู บุบพอแตก แล้วคนผสมให้เครื่องปรุงทุกอย่างเข้ากันดี
7.เติมน้ำซุปต้มยำร้อน ๆ และเห็ดลงไปตามชอบ ชิมให้ได้รสแซ่บดังใจหมาย
8.ค่อย ๆ วางเกี๊ยวกุ้งลงไปสุดท้าย จะใส่กี่ตัวดีน้า
9.โรยผักสีเขียว ๆ สักหน่อย พร้อมเสิร์ฟ แล้วค่ะ
6.หมูมะนาว
ส่วนผสม
สันคอหมู สไลด์ 300 กรัม
ส่วนผสมน้ำจิ้ม
กระเทียม 1/4 ถ้วย
พริกจินดาเขียว แดง 1/3 ถ้วย
รากผักชี 3 ราก
มะนาว 1/4 ถ้วย
น้ำปลา 1/4 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
เครื่องเคียง – กะหล่ำซอย หรือ ก้านคะน้า หรือ ผักสลัด ตามชอบ
เริ่มจากทำน้ำจิ้มรสจัดจ้าน รอกันเลยค่ะ
1.โขลกพริก กระเทียม และรากผักชี ให้ละเอียด ปรุงรสด้วย น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบ ให้แซ่บซี้ด โดนใจ
2.หั่นกะหล่ำปลีซอย เส้นเล็ก ๆ บาง ๆ นำไปแช่น้ำเย็น ๆ สักพัก เพิ่มความกรอบ เอาขึ้นสะเด็ดน้ำ รองจานสักหน่อย ค่อยวางชิ้นหมูลงไป
3.เพื่อความแซ่บ ก็ราดน้ำจิ้มแบบฉ่ำ ๆ ลงไปเลยแล้วแต่งด้วย กระเทียมฝาน และใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ แล้วค่า หรือใครไม่อยากราด ก็แยกน้ำจิ้มใส่ถ้วยต่างหากได้เลยค่ะ
7.ขนมจีนแกงใต้ แบบประยุกต์
เมนูนายหัวไม่ไร้น้ำยาแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ แกงใต้ เส้นสปาเกตตี และผักดองเจลลี่
วัตถุดิบแกงใต้
(สําหรับ 2 ที่)
พริกแกงเผ็ดใต้ 2 ช้อนชา
กะปิ 1/2 ช้อนชา
สต๊อกปลา 3/4 ถ้วยตวง
ปลาซาร์ดีนกระป๋องในน้ํามันมะกอก 1/2 ชิ้น
นมข้นจืด (สําหรับตกแต่ง)
วัตถุดิบเส้น
เส้นสปาเกตตี 50 กรัม
ปลาซาร์ดีนกระป๋องในน้ํามันมะกอก 2 ชิ้น
เกลือ
พริกป่น
น้ํามันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูด 2 – 3 ใบ
วิธีทำ
1.มาเริ่มทําน้ําแกงรสเผ็ดร้อน กันก่อนเลย
2.โขลกพริกแกงใต้ กะปิ และปลาซาร์ดีน ให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
ตั้งหม้อใส่น้ําสต๊อกปลา เมื่อน้ําเดือด ใส่ส่วนผสมที่โขลกเตรียมไว้ คนให้เข้ากัน สักครู่ แล้วปิดไฟ
3. ปั่นนมข้นจืดให้ขึ้นฟองฟู พักไว้ เราจะนําไปตกแต่งบนแกงก่อนเสิร์ฟ
ต่อด้วยเส้นสปาเกตตีหอมกลิ่นใบมะกรูด
1.ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันมะกอกตามด้วยใบมะกรูด ทอดจนกรอบ ปิดไฟ ตักทั้งน้ำมัน และใบมะกรูดกรอบออกมาพักไว้ในถ้วย
2.ตั้งน้ำให้เดือด ใส่เกลือเล็กน้อย ใส่เส้นสปาเกตตีต้มต่อไปอีกประมาณ 6-7นาที หรือจนเส้นนิ่มสะเด็ดน้ำ แล้วนําไปคลุกกับน้ำมันใบมะกรูด
3.อุ่นชิ้นปลาซาร์ดีนในกระทะ
4. ตักเส้นสปาเกตตี ปลาซาร์ดีน และน้ำแกงเผ็ด เคียงด้วยผักสดและผักดองเจลลี่ โรยพริกป่นและแต่งหน้าด้วยนมข้นจืดอีกเล็กน้อยก่อนเสิร์ฟ
วัตถุดิบผักดองเจลลี่
น้ําตาลทรายขาว 1/3 ถ้วยตวง
เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ
แอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์วินีการ์ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
ผงวุ้น 3/4 ช้อนโต๊ะ
ผักสด เช่น แครอท แตงกวา พริก หัวไชเท้า
ผักดองเจลลี่ เครื่องเคียงแบบประยุกต์
1.ตั้งน้ำให้ร้อน ใส่น้ำตาลทราย เกลือ แอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์วินีการ์ และผงวุ้นลงไปต้มต่อจนเดือด ปิดไฟ แล้วทิ้งไว้ให้เย็นจนวุ้นเซตตัว
2.ใช้ส้อมขูดวุ้น ตักใส่ภาชนะ หั่นผักเป็นเต๋าเล็กๆแล้วใส่ไปบนวุ้น ใช้รับประทาน เป็นเครื่องเคียงแทนผักดอง ให้รสชาติแปลกใหม่ไปอีกแบบ
8.ผัดสามเหม็น
เหม็น 1 “สะตอ” ของดีทางใต้ ช่วยขับลม กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้
เหม็น 2 “ชะอม” ผักกลิ่นฉุนที่เราคุ้นเคย กินคู่กับน้ำพริกกะปิ อุดมด้วยใยอาหาร ช่วยในเรื่องการขับถ่าย มีวิตามิน A ช่วยบำรุงสายตา อีกทั้งยังมีแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
เหม็น 3 “กระเทียมดอง” อันนี้ของดี ช่วยลดความดัน คอเลสเตอรอล และน้ำตาลในเลือด
****ส่วนผสม****
สะตอ / ชะอม /กระเทียมดอง
กุ้ง หั่นชิ้นเล็กๆ
หมูสับ
วุ้นเส้น
กระเทียม
พริกเหลือง
น้ำมัน สำหรับผัด
น้ำปลา
น้ำมันหอย
น้ำตาลทราย
1.สับกระเทียมกับพริกเหลืองพอหยาบ จะตำ จะปั่น ได้หมด ตามสะดวกเลย
2 . ตั้งกระทะใส่น้ำเล็กน้อย นำเนื้อหมูและกุ้งลงผัดพอสุก
3. ใส่วุ้นเส้น และผักสามฉุนของเราลงไป ชะอม สะตอ กระเทียมดอง ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้าส่วนผสมเข้ากัน
4.ชิมรสตามชอบ พร้อมเสิร์ฟทันที
9.อุด้งแกงกะหรี่
****ส่วนผสม*****
ก้อนแกงกะหรี่ญี่ปุ่น 1 กล่องใหญ่
เนื้อหมูหั่นเต๋า 5 ขีด
มันฝรั่ง 3 หัว
แครอต 2 หัว
หอมหัวใหญ่ 2 – 3 หัว
แอ๊ปเปิ้ล 1/2 ลูก
กล้วย 1/2 ลูก
เกลือ
พริกป่นละเอียด
เส้นอุด้งสำเร็จรูป
ไข่ออนเซ็น
น้ำเปล่า
ต้นหอมสำหรับโรยหน้า
1 . หั่นมันฝรั่ง แครอต และหอมหัวใหญ่เป็นชิ้นใหญ่ ๆ ขนาดประมาณครึ่งนิ้ว
2 . ตั้งหม้อบนเตา นําหอมหัวใหญ่ลงไปผัดจนสีเริ่มใส จากนั้นใส่แครอตและมันฝรั่งตามลงไป ผัดไปเรื่อย ๆ ให้พอสุก
3 . เมื่อผักทั้งหมดเริ่มสุกแล้ว ใส่เนื้อหมู ลงหม้อได้เลย จากนั้นก็ผัดให้ทุกอย่างสุกแล้วใส่น้ำตามลงไปเล็กน้อย ตั้งไฟอ่อนไว้
4 . หั่นแอ็ปเปิ้ลและกล้วยเป็นชิ้นเล็ก ๆ นําเข้าเครื่องปั่น ตักมันฝรั่งจากหม้อต้มใส่ลงไปเล็กน้อย
ปั่นจนเนื้อละเอียดเนียน
5 . ใส่ส่วนผสมที่ปั่นแล้วลงไปในหม้อ เติมน้ำแล้วคนให้เข้ากัน
6 . ละลายแกงกะหรี่ก้อนกับน้ำร้อนในถ้วย แล้วเทลงไปในหม้อ
7 . คนให้เข้ากันดี เคี่ยวต่ออีกสักพัก ปรุงรสด้วยเกลือ และพริกป่นละเอียดเล็กน้อย
8 . จัดเส้นอุด้งใส่ชาม ราดแกงกะหรี่ที่ปรุงเสร็จดีแล้วลงไป โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย เสิร์ฟพร้อมไข่ออนเซ็นเป็นอันเสร็จ
#food #recipe #delicious #menu #thaifood #อาหารไทย #อาหาร #อาหารอร่อย #อาหารน่าทาน #อาหารน่ากิน #กินอาหาร #สูตรอาหาร #เมนูแนะนำ #เมนูน่ากิน #อาหารทำง่าย #อาหารที่กินบ่อย #ของกิน #สูตรเมนูทำง่าย #glod289 #tasty #เมนูโปรด #easycooking #homemade #ชวนชิมอาหาร #jav289
โฆษณา