27 พ.ค. เวลา 14:59 • การศึกษา

เส้นทางของ dek68

ในบทความนี้ เราจะรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่ dek 68 หรือผู้ที่กำลังจะเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในปีการศึกษา 2568 ควรรู้ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น เชิญอ่านต่อได้เลยย ~
TCAS คืออะไร ?
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับระบบTCAS ก่อนดีกว่า
TCAS ย่อมาจาก Thai University Central Admission System คือ ระบบการคัดเลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยเปรียบเสมือนพื้นที่กลางที่มหาวิทยาลัยเข้าระบบมาเพื่อรับสมัครนักเรียน และนักเรียนก็สามารถเข้ามาหามหาวิทยาลัยที่ต้องการได้
แม้ว่า TCAS สามารถสมัครได้ทุกวุฒิทั้ง ม.6 สายอาชีพ เทียบเท่า และเทียบวุฒิ GED อย่างไรก็ตามต้องดูรายละเอียดคณะอีกครั้งว่ารับทุกวุฒิหรือไม่ ปัจจุบันรูปแบบ TCAS68 แทบจะไม่แตกต่างจาก TCAS67 เลย ทั้งเรื่องระบบการจัดการ และข้อสอบ รวมถึงการคัดเลือกต่าง ๆ สำหรับ TCAS68 แบ่งการรับออกเป็น 4 รอบ ดังนี้
รอบที่ 1 รอบ Portfolio (ใช้แฟ้มสะสมผลงาน)
รอบที่ 2 รอบ Quota (รอบโควตา)
รอบที่ 3 รอบ Admission (รอบแอดมิชชั่น)
รอบที่ 4 รอบ Direct Admission (รอบรับตรงอิสระ)
TCAS แต่ละรอบมีจุดเด่นและรายละเอียดการรับสมัครที่แตกต่างกัน จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลแต่ละรอบอย่างละเอียด
รอบที่ 1 รอบ Portfolio
เป็นการรับนักเรียน โดยเน้นคัดเลือกจากคุณสมบัติของผู้สมัคร และพิจารณาจากแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio), เกรดเฉลี่ย (GPAX) หรือคุณสมบัติอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับสาขานั้น ๆ แต่ละคณะ/มหาวิทยาลัย จะกำหนดลักษณะหรือรูปแบบของแฟ้มสะสมผลงานที่แตกต่างกัน เช่น จำนวนผลงาน, ประเภทของผลงาน, ระดับการแข่งขันของผลงาน ไปจนถึงการเขียนเรียงความ อย่างไรก็ตามใน TCAS68 อาจมีบางแห่งนำคะแนนสอบส่วนกลางมาใช้ด้วย
ใช้เกรดเฉลี่ยสะสมกี่เทอม ?
5 - 6 เทอม
องค์ประกอบ/คะแนนที่ใช้คัดเลือก
Portfolio, GPAX, GPA, คะแนนทดสอบทางภาษา, ความสามารถพิเศษ, สอบสัมภาษณ์, คะแนนสอบอื่น ๆ ที่คณะกำหนดใช้ ทั้งนี้ ควรติดตามรายละเอียดของคณะที่ตัวเองจะเข้าศึกษาต่อ
รอบ 2 โควตา
เน้นการรับสมัครนักเรียนที่มีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น กลุ่มนักเรียนในเขตพื้นที่ กลุ่มนักเรียนในโควตาโรงเรียน กลุ่มนักเรียนในภูมิภาค หรือกลุ่มนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ จะใช้คะแนนสอบส่วนกลางที่ ทปอ. เป็นผู้จัดสอบ เช่น TGAT/TPAT A-Level หรือ มหาวิทยาลัยจัดสอบวิชาเฉพาะของตนเอง รวมถึงอาจมีการใช้ GPAX และ GPA 6 เทอม ยังถือเป็นรอบที่มีเกณฑ์คัดเลือกที่หลากหลาย เพราะมหาวิทยาลัยเป็นผู้กำหนดเกณฑ์คัดเลือกเองเพื่อให้ได้นักเรียนที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด
ใช้เกรดเฉลี่ยสะสมกี่เทอม ?
5 - 6 เทอม
องค์ประกอบ/คะแนนที่ใช้คัดเลือก
GPAX, GPA, TGAT/TPAT, A-Level, วิชาเฉพาะของมหาวิทยาลัย, ความสามารถพิเศษ, สอบสัมภาษณ์, คะแนนทดสอบภาษาอังกฤษ
รอบที่ 3 Admission
เป็นรอบสำคัญ ที่มหาวิทยาลัยในระบบ TCAS ทั่วประเทศ รวมทั้ง กสพท จะเปิดรับสมัครพร้อมกันผ่านระบบกลาง ทปอ. ที่เว็บไซต์ myTCAS โดยกำหนดการรับจะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งจำนวนที่เปิดรับในรอบนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ หากในรอบ 1 และ 2 มหาวิทยาลัยนั้น ๆ ได้จำนวนนักเรียนไม่ครบ ก็มีโอกาสที่จะเปิดรับเพิ่มในรอบ 3 Admission
ปัจจุบันเกณฑ์รอบ Admission จะเป็นเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดเอง โดยจะเลือกใช้คะแนนจากข้อสอบกลาง TGAT/TPAT และ A-Level ตามสัดส่วนค่าน้ำหนักที่มหาวิทยาลัยต้องการ ดังนั้นสาขาเดียวกัน แต่ต่างมหาวิทยาลัยก็อาจจะใช้เกณฑ์ไม่เหมือนกันก็ได้
โดยในการรับสมัคร ผู้สมัครแต่ละรายสามารถเลือกได้สูงสุด 10 อันดับ (แบบเรียงอันดับ) โดยสามารถเลือก กสพท รวมกับคณะอื่นๆ ได้ด้วย ค่าใช้จ่ายคิดตามจำนวนอันดับที่สมัคร สูงสุด 10 อันดับ 900 บาท ปัจจุบันมีนโยบายจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้สมัคร TCAS67 ฟรี และยังคงเลือกได้สูงสุด 10 อันดับเช่นเดิม สามารถใช้สิทธิ์ได้ฟรีได้เพียงครั้งเดียวนั้น
รอบ Admission จะมีการประมวลผล 2 ครั้งเพื่อเพิ่มโอกาสสอบติด โดยหลังจากประกาศผลครั้งที่ 1 แล้ว
หากผู้สมัครไม่ผ่านการคัดเลือกหรือไม่พอใจกับอันดับที่ผ่านการคัดเลือก สามารถยื่นขอประมวลผลครั้งที่ 2 ได้ โดยใช้ข้อมูลการสมัครเดิม หากอันดับนั้น ๆ มีผู้สละสิทธิ์ ก็มีโอกาสได้รับการประมวลผลครั้งที่ 2 และสอบติดในอันดับที่สูงขึ้นได้ ซึ่งการประมวลผลครั้งที่ 2 นี้ จะไม่มีทางที่ได้ในอันดับที่แย่ลงกว่าเดิม
**การสละสิทธิ์ในรอบ 3 Admission จะต้องเป็นผู้ที่ยืนยันสิทธิ์รอบ 3 Admission และไม่เคยสละสิทธิ์มาก่อนเท่านั้น
ใช้เกรดกี่เทอม ?
6 เทอม
องค์ประกอบ/คะแนนที่ใช้คัดเลือก
GPAX/GPA, TGAT/TPAT, A-Level, วิชาเฉพาะของมหาวิทยาลัย
dek68 เริ่มไม่ถูก เตรียมตัวอย่างไรดี ?
1. ค้นหาตัวเองว่าอยากเรียนคณะ / มหาลัยวิทยาลัยอะไร
เคล็ดลับรู้จักตัวเองเบื้องต้น
• สังเกตความชอบและความถนัด
• ลองออกไปเปิดประสบการณ์ และหากิจกรรมใหม่ ๆ
• เข้าร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัยที่จัดขึ้น เช่น open house เพื่อพูดคุยกับรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์
• ทำแบบทดสอบต่าง ๆ ทางด้านจิตวิทยา เช่น mbti สามารถใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นได้
2. ศึกษาหลักสูตรของคณะที่อยากเข้า
• คีย์เวิร์ดลับ มคอ.2 + ชื่อคณะ + มหาวิทยาลัย
3. ศึกษาระบบ TCAS68 และวางแผนต่อ
• ควรศึกษาให้เข้าใจ เพราะแต่ละรอบนั้นมีรูปแบบที่ความแตกต่างกัน
4. เตรียมตัวอ่านหนังสือ
• เริ่มจากการทำ Test Blueprint เพื่อเป็นแนวทางการอ่าน
• ทบทวนเนื้อหาเก่า ๆ เพื่อปิดจุดอ่อน
ใครสามารถสอบ TCAS ได้บ้าง ?
  • นักเรียนที่กำลังศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
  • นักเรียนที่กำลังศึกษาระดับมหาวิทยาลัย (ไม่จำเป็นต้องลาออกก่อน)
  • จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าขึ้นไป
  • สอบ GED ผ่านแล้วอย่างน้อย 2 วิชา หรือกำลังศึกษา GRADE 12 ในต่างประเทศ
  • สอบ GED ผ่านแล้ว หรือเรียนจบจากต่างประเทศ
TCAS มีสอบอะไรบ้าง ?
มีการแบ่งสอบเป็น 3 ข้อสอบใหญ่ ๆ ดังนี้
ความถนัดทั่วไป : TGAT (Thai General Apititude Test) ซึ่งแบ่งการสอบเป็น 3 ส่วน
TGAT1 : การสื่อสารภาษาอังกฤษ 
TGAT2 : การคิดอย่างมีเหตุผล 
TGAT3 : สมรรถนะการทำงาน
ค่าสมัครสอบ TGAT 140 บาท
วัดความถนัดทางวิชาชีพ : TPAT (Thai Professional Aptitude Test) ซี่งแบ่งการสอบเป็น 5 ความถนัด
TPAT1 : ความถนัดแพทย์ (กสพท.)
TPAT2 : ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
TPAT3 : ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์
TPAT4 : ความถนัดทางสถาปัตยกรรม
TPAT5 : ความถนัดทางครุศาสตร์ – ศึกษาศาสตร์
ค่าสมัครสอบ TPAT1 ราคา 800 บาท และ TPAT2-5 ราคาวิชาละ 140 บาท
ข้อสอบวัดความรู้ประยุกต์ : A-Level (Applied Knowledge Level) แบ่งการสอบเป็น 9 วิชา
A-Level คณิตศาสตร์ประยุกต์ ข้อสอบแบ่งเป็น 2 แบบ (สามารถสอบได้ทั้ง 2 แบบ)
A-level Math1 : วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (คณิตพื้นฐาน และเพิ่มเติม)
A-Level Math2 : วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 (คณิตพื้นฐาน)
A-Level Sci : วิทยาศาสตร์ประยุกต์
A-Level Phy : ฟิสิกส์
A-Level Chem : เคมี
A-Level Bio : ชีววิทยา
A-Level Soc : สังคมศึกษา
A-Level Thai : ภาษาไทย
A-Level Eng : ภาษาอังกฤษ
A-Level ภาษาต่างประเทศอื่น ๆ (เลือกสอบได้ 1 ภาษา)
A-level Fre : ภาษาฝรั่งเศส
A-Level Ger : ภาษาเยอรมัน 
A-Level Jap : ภาษาญี่ปุ่น 
A-Level Kor : ภาษาเกาหลี
A-Level Chi : ภาษาจีน 
A-Level Bal : ภาษาบาลี
A-Level Spn : ภาษาสเปน
ค่าสมัครสอบ A-Level วิชาละ 100 บาท
คำนวณคะแนน TCAS ในรอบสามอย่างไร ?
การคำนวณคะแนน TCAS คือการคำนวณคะแนนในการเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งไม่ว่าจะเข้าคณะอะไร วิธีการคำนวณจะสามารถคิดได้เหมือนกัน ก่อนที่เราจะมาคิดคะแนนกันได้ แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องมีก่อนเลยนั่นก็คือข้อมูล ซึ่งแบ่งขั้นตอนในการเตรียมข้อมูลสำหรับการคิดคะแนนในรอบ 3 ออกเป็น 2 ขั้นตอนด้วยกัน
ขั้นตอนที่ 1 : ให้เช็กเกณฑ์คะแนนรอบ 3 ของแต่ละมหาวิทยาลัย คือ สัดส่วนคะแนน, GPAX (เกรดเฉลี่ยสะสม), คะแนนขั้นต่ำแต่ละวิชา ของคณะที่อยากเข้าว่าต้องใช้คะแนนอะไรบ้าง
ขั้นตอนที่ 2 : เตรียมคะแนนของตัวเองเพื่อที่จะนำมาคำนวณคะแนน
การคำนวณเกรด สามารถแปลงเกรดเป็น 100 โดยวิธีการนำเกรดเฉลี่ย 6 เทอมที่ได้คูณกับ 25 จากนั้นให้นำตัวเลขไป หารด้วย 100 และ คูณ กับค่าน้ำหนักที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดไว้
ตัวอย่าง
ถ้าได้เกรดเฉลี่ย 3.56
Step 1 : 3.56 * 25 = 89
Step 2 : (89/100) * ค่าน้ำหนัก
การคิดคะแนนรอบ 3 Admission เต็ม 100 คะแนน
ให้นำคะแนนที่ได้ หารด้วย คะแนนเต็มของวิชานั้น ๆ และนำไป คูณ กับค่าน้ำหนักที่เป็นเปอร์เซ็นต์ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้
ตัวอย่าง
TGAT ได้ 65 คะแนน แต่ใช้ 40% ดังนั้นคำนวณได้ (65/100) * 40 = 26
TPAT3 ได้ 50 คะแนน แต่ใช้ 30% ดังนั้นคำนวณได้ (50/100) * 30 = 15
A-Level คณิตประยุกต์ 1 ได้ 50 คะแนน แต่ใช้ 25% ดังนั้นคำนวณได้ (50/100) * 25 = 12.5
สำหรับใครที่สงสัยว่าสรุปแล้ว TGAT เต็ม 100 หรือ 300 กันแน่ ? จริง ๆ แล้วคะแนนทั้งหมดเต็ม 300 คะแนนนะ แต่ตอนที่ ทปอ. ประกาศคะแนน เขาจะมีการคิดคะแนนเต็ม 100 มาให้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นสามารถนำคะแนนส่วนนั้นมาหารด้วย 100 ได้เลย
แนะนำ application และ website สำหรับเตรียมตัว !
เมื่อเราทราบข้อมูลต่าง ๆ และได้ทำความรู้จักเกี่ยวกับระบบ tcas แล้ว ในย่อหน้านี้เราจะมาแนะนำแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ที่ใช้สำหรับการวางแผนและเตรียมตัวสอบกัน
โดยเว็บไซต์แรกที่ทุกคนต้องรู้จักเลย ก็คือ
https://www.mytcas.com/ : เป็นเว็บไซต์สำหรับการสมัครสอบในทุก ๆ รอบ โดยคาดการณ์ว่า dek68 จะสามารถลงทะเบียนได้ในเดือนกันยายน 2567
application
tcaster รวบรวมข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย มีรายละเอียดเกี่ยวกับคณะ และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ แนบไว้ มี timeline นัดถอยหลังกำหนดการ โดยรวมเป็นแอพที่ค่อนข้างใช้ง่ายเลยทีเดียว
 
เด็กดี tcas รวบรวมข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกับ tcaster แต่ในแอพนี้สามารถคำนวณคะแนนได้ ทำให้เราสามารถวางแผนในส่วนของคะแนนที่ต้องใช้ได้
website
https://monkeyeveryday.com/ เป็นเว็บไซต์คอร์สเรียนพิเศษทุกวิชา มีจำลองข้อสอบให้เราสามารถได้เข้าไปทำได้ฟรี สามารถคำนวณคะแนน และใช้ในการวางแผน เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเป็นเว็บที่มีความแม่นยำในเรื่องการคำนวณคะแนนสูงสุด-ต่ำสุด
จัดทำโดย แก๊งสี่สาวเด่กหกแปดฟังทางเน้
โฆษณา