28 พ.ค. เวลา 10:26 • ท่องเที่ยว
อิสราเอล

Israel Part. I

เที่ยวตามรอยไบเบิล
ธันวา 2022
“จัดทริปกัน ... นามิเบีย อียิปต์ จอร์แดน”
เพื่อนไลน์มาหาในวันธรรมดาๆ วันหนึ่ง ไอ้เรามันก็ไม่เคยไปเที่ยวโซนนั้นเลยตกปากรับคำง่ายๆ แต่ให้ตายเถอะ พอนังกางแผนเที่ยวมา มันเริ่มไม่ง่ายละ จาก 3 ประเทศ เป็น 7 เลยเว้ยยย มันงอกมาจากไหนฟระ 🥶
“อิสราเอล > จอร์แดน > อียิปต์ > ซิมบับเว / แซมเบีย > นามิเบีย > แอฟริกาใต้ ตามนี้นะ พี่ตรูบอกว่า ไหนๆ ก็ไปโซนนี้แล้ว ก็ไปให้มันครบๆ เลยละกัน ไปตั้งเดือนหนึ่ง ได้อยู่”
เอาวะ แบกเป้เที่ยวโซนนี้ครั้งแรกในชีวิต เป็นไงเป็นกัน
A New Journey has begun 😁
เมษา 2024
1
นั่งเครื่องจากสุวรรณภูมิมา Ben Gurion Airport ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง ลงเครื่องเสร็จ แลกเงิน แล้วเที่ยวเลยจ้า ใครใคร่เช่ารถขับก็สามารถทำได้ หรือจะเรียก uber careem นั่ง public bus, train อันนี้แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ
การขับรถที่อิสราเอล เป็นพวงมาลัยซ้าย และต้องมีใบขับขี่สากลก่อนจึงจะเช่ารถได้
ใดๆ คือ Google Map วายป่วงมาก ทางนี้ต้องใช้วิธีเปิดแผนที่แล้วดูแบบ Manual เอา
ถึงแม้จะแบกเป้เที่ยว แต่ที่เที่ยวส่วนใหญ่ในอิสราเอลเป็นศาสนสถาน เที่ยวตามธรรมชาติน้อยมาก (แต่จัดว่าเด็ด) ดังนั้นใน Part 1 นี้ ขอ list ที่เที่ยวตาม Timeline จาก Bible เลยแล้วกัน
ม่ะ เริ่ม!
1) Red Sea (Eilat)
ไม่รู้ทำไมถึงเรียก Red Sea ดูยังไงก็ไม่รู้สึกว่ามันเป็นสีแดงแฮะ นี่มองทั้งกลางวัน-กลางคืนก็ไม่ Red อะ แต่เป็นน้ำใสๆ สะท้อนแสงระยิบระยับ สวยมากเวอร์
นี่ไปดู Red Sea ที่เมือง Eilat ก่อนข้ามไปจอร์แดน หาดแรกที่ไป อยู่แถวๆ Downtown (ถ้าใครไปไม่ถูก ให้ Search McDonald ค่ะ) แต่ตอนนั้นเป็นตอนกลางคืน ก็มองไม่เห็นอะไร เห็นแต่ beach ฝั่งอิสราเอล กับเมือง Aqaba ของจอร์แดนอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งใหญ่มาก และเปิดไฟสวยมาก ส่วนหาดที่สองที่ไป อยู่ห่างออกไปนอกเมือง ตามหาดคนตั้งเต็นท์นอนอยู่เป็นจุดๆ กลิ่นเหม็นเขียวคลุ้งลอยมาเป็นระยะ
“กลิ่นอะ ใช่ใช่ไหม” ชะนีไทยดมจนเวียนหัว
“เออ เขียวขนาดนี้ ชัวร์ครับเพื่อน”
ประวัติ Red Sea คงไม่ต้องพูดถึงเยอะ เหตุการณ์ที่ Moses แสดงปาฏิหาริย์ โดยการยกไม้เท้าแหวกน้ำทะเล พาคนอิสราเอลหนีจากฟาโรห์ Ramases II ของอิยิปต์ นี่ยังดังจนถึงทุกวันนี้
ค่าเข้า: ฟรี
Bible Timeline: Exodus เลยจ้า
2) Ancient Jericho, (West Bank)
อาจเรียกได้ว่าเป็นเมืองที่เก่าที่สุดเมืองหนึ่งของโลก ปัจจุบันอยู่ที่เขต West Bank
เมืองเก่าเยรีโคไม่ได้ใหญ่มาก เดินแค่ครึ่งชั่วโมงก็จบ Route แต่ละจุดจะมีป้ายบอกว่าขุดเจออะไรบ้างแล้วก็ถูกสร้างขึ้นในสมัยใด ด้านหน้ามีน้ำพุที่ Elisha ผู้เผยพระวจนะในพระคัมภีร์ โยนเกลือลงไปจนน้ำพุที่เน่าเสียกลับมาดื่มกินได้ปกติ (2 King 2)
ถ้าเดินลงไปด้านล่างของ Site จะเห็นชั้นหินวางเรียงกัน บ้างก็ว่าเป็นกำแพงเมือง บ้างก็ว่าไม่ใช่จ้า มันคือยุ้งฉางเก็บข้าวตะหาก นอกจากนี้แล้วก็ยังเห็นซากเมืองส่วนอื่นๆ อีก เป็นจุดๆ (บางจุดเหมือนกำลังขุดอยู่เลย)
At the Top of Jericho
- ค่าเข้า: 10 NIS
- เวลาเปิด: เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันศุกร์) ตั้งแต่ 8.30 – 15.00 น.
- Bible Timeline: เป็นเมืองสำคัญที่ปรากฏในไบเบิลภาคพันธสัญญาเดิม Joshua 6 และพันธสัญญาใหม่ 2 King 2
3) Acre ชื่อเดิม Akko (Acre)
Acre เป็นเมืองมรดกโลกที่เก่าแก่ที่สุด (มากกว่า 3,000 ปีก่อนคริสตกาล) มีป้อมปราการเลียบทะเลเมดิเตอเรเนียน เคยถูกใช้เป็นสนามรบในสมัยสงครามครูเสด ในเมืองเป็นอาคารสมัยโบราณ แบ่งเป็นโซนๆ มีทั้งมุสลิม ยิว ปัจจุบันบางส่วนก็แปลงร่างเป็น Bazaar (ตลาด) ที่มีของขายทุกอย่างตั้งแต่เสื้อผ้ายันของกิน ตามตรอก (Alley) จะเห็นแมวเยอะมาก แต่ละตัวหนุบหนับทั้งนั้น 5555
Acre Old Wall
แถวๆ นั้นมี Templar Tunnel ด้วย (อยู่ใต้ Citadel) แต่ว่ามีค่าเข้า 49 NIS ต่อคน + อ่านจากรีวิวมาว่าทางเดินสั้นมาก แค่ 450 m. เลยตัดใจไม่ไปดีฝ่า ดูจาก Google เอาก็ได้ (จริงๆ คือ Budget Trip ต้องประหยัดจ้า~)
ร้านอาหารแถวนี้เยอะและถูก แต่ส่วนใหญ่เป็นอาหารอาหรับเด้อ
- ค่าเข้าฟรี
- เวลาเปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00 – 17.00 น. (ยกเว้นวันศุกร์ 10.00 – 15.00 น.)
- Bible Timeline: มีกล่าวถึงนิดหน่อยใน Judge 1 และ Micah 1
4) Cave of Elijah (Haifa, Israel)
ประวัติเล่าว่าเป็นสถานที่ผู้เผยพระวจนะ Elijah เจอพระยาเวห์หลังจากที่ฆ่าผู้เผยพระวจนะเท็จแล้วหนีไปเป็นเวลา 40 วัน 40 คืน (อ้างอิง 1Kings 19)
ข้างในเป็นถ้ำเล็กๆ (เดินขึ้นเขาไปจิ๊ดนึง) แบ่ง Section ระหว่างหญิง-ชาย (เดินเข้าประตูปุ๊บ ผู้ชายเดินขวา ผู้หญิงเดินซ้าย) ทางนี้ไม่รู้เลยเดินวนๆ ทั้งเลยโดนคนที่สวดมนต์อยู่มองแรงอยู่เหมือนกัน
- ค่าเข้าฟรี
- เวลาเปิด-ปิด: วันอาทิตย์ – วันพฤหัส: 08.00 – 17.00 วันศุกร์ 08.00 – 13.00
- Bible Timeline: 1 King 19
5) ทะเลสาบกาลิลี (Sea of Galilee) (Tiberias, Israel)
เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่อยู่ทางเหนือของอิสราเอล เป็นทะเลสาบที่เกิดเหตุการณ์ในไบเบิลมากมาย เช่น
- เป็นที่ที่พระเยซูเรียกสาวกกลุ่มแรก (อ้างอิง Mathew 4: 18, Mark .1:16-20; Luke.5:1-11)
- พระเยซูทำให้พายุสงบตอนอยู่บนเรือ (อ้างอิง Mathew: 8:18,23-27, Mark 4:35-41, Luke 8:22-25)
- พระเยซูเดินบนผืนน้ำ (อ้างอิง Mathew 14: 25-33)
Sea of Galiee
Search จาก Google มีคน Pin ไว้ว่าเป็น Public Beach แต่พอไปตามจุดที่ Pin ไว้แล้วพบว่า มันไม่ใช่เลยแถมยังต้องเสียค่าเข้า 1,000 NIS ด้วย แต่อยากเห็นทะเลสาบใกล้ๆ (และไม่เสียตังค์) เลยเดินผ่านเข้าไปในโรงแรมหนึ่ง ไปหยุดที่ Deck ที่โรงแรมสร้างไว้
วิวที่เห็นมันสวยเกินว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ภาพที่เห็นเป็นน้ำทะเลสีฟ้าใส ฝั่งตรงข้ามเป็นภูเขาสูงทอดยาวไปตามลำน้ำ มีเรือลำเล็กลอยอยู่กลางทะเลสาบ อากาศเย็นๆ ตีหน้า มันฟินมาก บรรยากาศเหมาะกับการนั่งกินเบียร์ ดูวิว ชิลล์ๆ
เพื่อนบอกว่า ที่นี่มี Surf Board ให้เล่นด้วย ถ้ามีเวลามากกว่านี้ก็น่าลองอยู่
- ค่าเข้า: ฟรี
- Bible Timeline: เท่าที่เจอคือ Mathew, Mark, Luke พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ล้วนๆ เลยจ้ะ ไม่แน่ใจว่าพันธสัญญาเดิมมีด้วยหรือเปล่า ต้องค้นเพิ่ม
6) Church of the Annunciation/Basilica of Annunciation (Nazareth, Israel)
เป็นโบสถ์ใหญ่ในเมืองนาซาเรธ แคว้นกาลิลี เป็นที่ที่ทูตสวรรค์เกเบรียลมาปรากฏตัวต่อหน้าแมรี่เพื่อแจ้งข่าวประสูติของพระคริสตร์ (อ้างอิง Luke 1)
บางที่บอกว่าเป็น Catholic Church, บางที่บอกว่าเป็น Orthodox Church ส่วนตัวแยกไม่ออก (ถึงจะเป็นคริสเตียนก็เถอะ) รอบโบสถ์ประดับภาพเขียนแมรี่อุ้มพระเยซูจากที่ต่างๆ ทั่วโลก (รวมถึงไทย) มันเริ่ดตรงที่ภาพเขียนเป็นลายเส้นของแต่ละประเทศเลย (ส่วนตัวว่สขิงฟิบิปปินส์แกรนด์สุด)
Church of Annunciation
ข้างในโบสถ์มี 3 ชั้น แต่ละชั้น มีพื้นที่กว้าง และตกแต่งสวยมาก
- Ground floor เป็น Archeologist Site ซึ่งยังมีซากอาคารสมัยโบราณอยู่ สามารถเดินเข้าไปดูได้
- First Floor อธิบายไม่ถูก แต่เป็นลานวงกลมที่มีรูปปั้นแมรี่อยู่
- Second Floor เป็น Sanctuary สำหรับนมัสการ
ในรั้วเดียวกัน จะมี St. Joseph Church เป็นอาคารหลังเล็กๆ เดินไปทางซ้ายจากทางเข้า เชื่อกันว่าเป็นโบสถ์ที่สร้างทับบ้านและ Carpentry Workshop ของโยเซฟ บิดาของพระเยซู
ตัวอาคารแบ่งเป็น 2 ชั้น ถึงจะไม่อลังเท่า Church of Annunciation แต่ว่าขนลุกพอกัน ชั้นแรกเป็น Sanctuary สำหรับนมัสการ ส่วนชั้นใต้ดิน จะมีบ่อน้ำที่มีพื้นปูกระเบื้อง Mosaic ที่เคยใช้บัพติสมาในช่วงคริสตศักราชที่ 1
- ค่าเข้า: ฟรี
- เวลาเปิด - ปิด: 8.00 – 17.00 น.
- Bible Timeline: Luke 1
7) Caesarea National Park (Haifa)
ตอนแรกเห็นเป็น National Park ในความคิดคือ อุทยานแห่งชาติที่เป็นป่า มีต้นไม้เยอะๆ แต่ปรากฏว่ามันคือ Archeologist Site สมัยโรมันที่เริ่ดมาก
จากประวัติเล่าว่าถูกสร้างเป็น Port ตั้งแต่ 20 BCE ในสมัยกษัตริย์เฮโรด แล้วมีการเปลี่ยนชื่อตอนหลังเพื่อ Honor Caesar Augustus
Caesarea National Park
Caesarea National Park ใหญ่มาก แบ่งเป็นหลายโซน มีทั้งส่วนที่เป็น Herod’s Palace, Amphitheatre, พื้น Mosaic ใต้ทะเล และทางเดินเลียบทะเลเมดิเตอเรเนียน ซึ่งวันที่ไปเป็นวันที่อากาศดีมาก สีน้ำทะเลสวยมาก เหมือนภาพ AI นี่ยังคุยกับเพื่อนอยู่ว่าเป็นสีน้ำทะเลที่ถูกต้อง 555
- ค่าเข้า: 39 NIS ต่อคน (ทางนี้ Reserve มาก่อน แต่ว่าเป็นแค่การแจ้งความประสงค์ว่าจะเข้าสถานที่นี้นะจ๊ะ เจ้าหน้าที่แทบไม่ได้ตรวจเอกสารที่เอาให้ดูเลยซักนิด)
- เวลาเปิด-ปิด: วันเสาร์ – พฤหัส : 08.00 – 17.00 น. (วันศุกร์ 8.00 – 16.00 น.)
- Bible Timeline: ในไบเบิลมีพูดถึงเมือง Caesarea อยู่จิ๊ดนึงใน Act 10 ว่ามีทูตสวรรค์มาหานายทหาร ชื่อ โครเนลิอัส เพื่อบอกว่าให้ไปเชิญเปโตรมาเทศนาที่บ้าน
8) Mount of Temptation (Jericho, Westbank)
เป็นศาสนสถานที่สร้างบนภูเขา ตั้งอยู่ที่ Jericho ในเขต West Bank ทางขึ้นเขามี 2 ทาง ทางเดินที่มีหินเล็กหินน้อย และทางรถวิ่ง (ซึ่งมาเห็นทีหลัง หลังจากลงจากเขาแล้ว) ทางนี้ชอบเดิน trail อยู่แล้ว เลยสบายมาก ใช้เวลาเดินขึ้นเขาแป๊บเดียว ไม่เกิน 20 นาทีก็ถึงประตูทางเข้า
ข้างบนนี่ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี มันเหมือนเป็นถ้ำที่ถูกทำเป็รห้อง มีทั้งห้องพักของนักบวช (Priest) ห้องนมัสการ โบสถ์ ไม่น่าเชื่อว่าด้วยพื้นที่แค่นี้ สามารถสร้างศาสนสถานได้สวยขนาดนี้ ทางเดินเหมือนอยู่ในยุคกลาง (Medieval)
Mount of Temptation
วันที่ไปถึงโชคดีมาก Priest ที่นำเที่ยวพาไปรวมกับกรุ๊ปทัวร์จาก Ethiopia 6 คน แล้วนั่ง lecture เกี่ยวกับสถานที่อยู่สักพัก เรื่องของเรื่องคือ ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงตอนที่พระเยซูโดนมารซาตานทดลอง 3 ครั้ง แล้ว Priest ก็ชี้แต่ละจุดให้ดูว่าอยู่ตรงไหนบ้าง ทีนี้ เวลาเดินต้องเดินตามทางที่นักบวชพาไป เดินออกนอกลู่นอกทางไม่ได้เลย
จุดสุดท้ายที่นักบวชพาไปคือ Temptation Rock ซึ่งอยู่ในโบสถ์ (ในถ้ำ) เป็นหินที่พระเยซูนั่งระหว่างที่อดอาหาร 40 วัน ก่อนจะถูกมารซาตานทดลองครั้งแรก
ใกล้ๆ กันมี St. George Monastery เป็นวิหารติดภูเขาที่สวยมาก แต่ทางเข้าปิดจ้ะ อดไป
- ค่าเข้า: ฟรีจ้ะ (แต่ว่ามี donate ให้เขาหน่อย)
- เวลาเปิด-ปิด: วันเสาร์ – พฤหัส : 08.00 – 17.00 น. (วันศุกร์ 8.00 – 16.00 น.)
- Bible Timeline: ในไบเบิลมีพูดถึงเมือง Caesarea อยู่จิ๊ดนึงใน Act 10 ว่ามีทูตสวรรค์มาหานายทหาร ชื่อ โครเนลิอัส เพื่อบอกว่าให้ไปเชิญเปโตรมาเทศนาที่บ้าน
9) Church of Nativity (Bethlehem)
เป็นโบสถ์ที่สร้างทับที่ที่พระเยซูประสูติ ปัจจุบันเป็น Orthodox Church ตั้งอยู่ที่ West Bank ค่ะ ทางเข้าเป็นประตูเล็กๆ ต้องมุดเข้าไป แล้วจะเจอห้องโถงโล่งๆ กว้างๆ เดินไปเรื่อยๆ จะเจอแท่นบูชา มี Lamp หลายๆ อันห้อยลงมาจากหลังคา สวยจนบรรยายไม่ถูก ตรงปลายห้องโถงจะมีทางให้เดินลงไปที่ถ้ำเล็กๆ ข้างใต้ ซึ่งว่ากันว่าเป็นสถานที่ประสูติของพระเยซู ข้างในมีแท่นบูชา และเปลที่วางพระเยซูตอนประสูติ
ในถ้ำ ข้างใต้ church of Nativity
วันที่ไปเป็นวันเกิดพอดี นั่ง Public bus จาก Jerusalem (ตรง Damascas Gate) ไปลงที่เบธเลเฮม (ไม่เกินครึ่งชม.) แล้วให้ Taxi ที่จองไว้มารับ (Search หา local taxi ได้จาก google ค่ะ แต่ว่าอย่าให้ราคาเกิน 100 usd เด้อ)
ตอนช่วงที่ไปถึงมี Private Ceremony พอดี แล้วเค้าจะต้องปิดเป็นเวลา 1 ชั่วโมงเต็ม ทางนี้ถอดใจแล้ว ว่าจะไปที่อื่นก่อน แต่ว่าจู่ๆ Priest ก็โผล่หน้ามาจากถ้ำ แล้วบอกให้เข้าไป คือมัน Blessed มาก บอกไม่ถูก ทำพิธีไปร้องไห้ไป 55555555555555555555 พอตอนจบ Priest ทุกคนมาอวยพรวันเกิดให้ ทุกวันนี้พอพูดถึงเรื่องนี้ทีไร น้ำตาก็ยังรื้นอยู่เลย
โอย ไปต่อค่ะ ติดๆ กัน จะมี St.Catherine Church สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ St.Catherine ผู้ซึ่งเป็นมรณะสักขี (Matyre) องค์หนึ่ง ด้านบนเป็นโบสถ์สวยๆ ของคณะ Franciscan โบสถ์หนึ่ง แต่ว่าข้างใต้นี่ สุดยอด อยู่ๆ Priest ก็ให้เปิดประตูให้เดินเข้าไป แล้วจะเจอถ้ำเล็กๆ มีแท่นบูชาวางอยู่ มีทางเดินเชื่อมกับถ้ำด้านใต้ของ Church of Nativity ทั้งสวยทั้งขลังเลยค่ะ
st.Catherine' church
ว่ากันว่า St.Catherine เป็นเจ้าหญิง ที่อาศัยอยู่ในอเล็กซานเดรีย อียิปต์ เป็นคนที่บอกว่าเห็นนิมิตของ Virgin Mary และทารกพระเยซู เป็นคนที่ Convert คนในอียิปต์ให้เป็นคริสเตียน ถูกฆ่าตายโดยจักรพรรดิ Maxentious ของจักรวรรดิโรมัน เมื่ออายุ 18 ปี (ตอนนั้นโรมันปราบคริสเตียนอยู่)
- ค่าเข้าฟรี
- เวลาเปิด – ปิด: ทุกวันตั้งแต่ 7.00 – 18.00 น.
- Bible Timeline: (เฉพาะ Church of Nativity) Matthew 1, Luke 1,2
10) Milk Grotto (Bethlehem)
Milk Grotto เป็นศาสนสถานที่สร้างทับ “ถ้ำเล็กๆ” ที่โยเซฟ บิดาของพระเยซูกำลังพาครอบครัวหนีไปที่อียิปต์ แต่ระหว่างทาง น้ำนมของแมรี่ พระมารดาของพระเยซูก็ตกลงที่พื้น ทำให้ถ้ำกลายเป็นสีขาวเหมือนน้ำนม
ปัจจุบันเหมือนสำนักชีเลยแฮะ คือ มันมีทั้ง Sanctuary ให้นมัสการ (แต่เท่าที่เห็นมีแต่แม่ชีอะ แต่ๆๆๆ คนผู้ดูแลก็เป็นผู้ชาย เลยยังสับสนอยู่)
เชื่อกันว่า ถ้าใครมีลูกยากให้มาขอที่นี่ บางคนก็ว่า ถ้าใครเจ็บป่วยก็มาอธิษฐานที่นี่ได้เช่นกัน
entrance of Milk Grotto
ถึงแม้ว่า Milk Grotto จะอยู่ห่างจาก Church of Nativity ไป 5 นาทีก็จริง แต่ไม่แน่นำให้เดินค่ะ Zone นี้ยังอันตรายอยู่แฮะ แล้วก็ทางเดินเป็นเนินขึ้นๆ ลงๆ อย่าเดินเลย
- ค่าเข้าฟรี
- เวลาเปิด – ปิด: ทุกวันตั้งแต่ 7.00 – 18.00 น.
- Bible Timeline: Matthew 2 (ตอนที่กำลังจะหนีไปอียิปต์)
11) Bahai Garden (Haifa, Israel)
อันนี้ไม่เกี่ยวกับไบเบิล แต่ขอพ่วงค่ะ
เป็นศาสนสถานของศาสนาบาไฮ ซึ่งเป็นศาสนาที่เชื่อว่าศาสนาทั้งหลายของโลกนั้นมาจากแหล่งกำเนิดเดียวกันและโดยแก่นแท้แล้ว เป็นเสมือนแต่ละบทเรียนที่เชื่อมโยงต่อเนื่องกันของศาสนาเพียงศาสนาเดียวขององค์พระผู้เป็นเจ้า
Entrance อยู่ด้านบน พอมองลงไปด้านล่างจะเห็นวิวของเมือง Haifa แต่ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ ซึ่ง Security แจ้งว่าต้องมีไกด์จึงจะเข้าได้
Bahai Garden at the top of the hill
- ค่าเข้าฟรี (เฉพาะประตูด้านบนเขา)
- เวลาเปิด – ปิด: วันจันทร์ – วันพฤหัส: 09.00 – 17.00 น.
🚇 การเดินทางในอิสราเอล:
ไม่ยากค่ะ มีทั้ง Train, Public Bus (ดูตารางการเดินรถได้จาก App: Moovit แล้วก็จ่ายตังผ่าน App ได้เลยค่ะ ผูกบัตรเอา) นอกจากนี้ยังมี Uber กับ Careem แต่ว่ามันก็แพงอยู่อะ ทางนี้เดินได้ก็เดิน พยายามใช้เงินให้น้อยที่สุด (Budget Trip อะจ้ะ)
แต่ถ้าบางคนสายชิลล์ อยากขับรถก็เช่ารถจากสนามบินไปก็ได้ค่ะ มีหลายยี่ห้ออยู่ ค่าเช่ารถแพงอยู่ (2,660 บาท ต่อวัน) ค่าน้ำมัน 2 วัน โดนไป 1,000 บาท ค่ะ (อันนี้ใช้ Youtrip จ่ายหรือจะใช้เงินสดก็ได้ค่ะ) ค่าน้ำมันที่นี่เท่ากันทั้งประเทศ เข้าปั๊มไหนก็ได้ค่ะ
บางครั้ง Google Map ก็ใช้ไม่ได้เด้อ (แถวๆ Haifa กับทะเลนั่นนี่) ทำให้ปวดตับอยู่ นี่ต้องดู Map แบบ Manual ถึงรอด
🍲 อาหารในอิสราเอล:
ก็ไม่ลำบากเท่าไหร่ มีให้เลือกหลากหลาย (มีอาหารไทยด้วย แต่ๆๆๆ คนทำไม่ใช่คนไทยอะ) แต่ส่วนใหญ่ที่เจอก็ขนมปัง อาหารอาหรับ จริงๆ มีข้าวด้วย แต่ว่าเป็นแนวข้าวอาหรับ เนื้อๆ มันๆ หน่อย แต่ว่าอร่อยแฮะ แล้วก็มี store เล็กๆ ที่จ่ายบัตร youtrip ได้อยู่เยอะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะอดข้าวค่ะ
แต่น้ำกับกาแฟก็แพงอะ - -* นี่กดใส่ขวดจากโรงแรมไปแทบทุกวันเลย
🏕 ค่าโรงแรม:
แพงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง แพงทุกที่เลย นี่ขนาดจอง hostel 12 เตียงในห้อง 1 shower 1 toilet ยัง 3,800 บาทเลยอะ แต่ว่าก็ต้องยอมอะค่ะ = =
วันแรกที่ไปถึง room mate ชาวอิสราเอลเล่าว่า "เนี่ยๆ เมื่อวานเค้ายิงกันแถวๆ เนี้ย ห่างจากโรงแรม 100 เมตร เอง มีคนตายด้วย ไปไหนก็ระวังนะ" 🥶
ค่าวีซ่า: 935 บาทถ้วน (Updated Jan 2024)
ทำเรื่องเอง เดินเอกสารเอง นัดสัมภาษณ์เอง (ต้องนัดไปก่อนนะคะ) เจ้าหน้าที่ Screen หนักหน่วงอยู่ แต่ว่านี่จองตั๋วนานแล้วก่อนเกิดเหตุ แล้วตอบได้หมดว่าจะไปไหนบ้าง ก็เลยผ่าน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา