วันนี้คุณดื่มนมแล้วหรือยัง! 1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก (World Milk Day)
#Onthisday เมื่ออายุมากขึ้น ความแข็งแรงของกระดูกก็จะเสื่อมลง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนเพิ่มมากขึ้น การดื่มนม ที่ประกอบด้วยแคลเซียม วิตามินดี ซึ่งช่วยเสริมแร่ธาตุในกระดูก ทุกวันจึงช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกเมื่ออายุมากขึ้น
.
1 มิถุนายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันดื่มนมโลก” (World Milk Day) โดย FAO (The Food and Agriculture Organization) เพื่อมุ่งหวังให้ทุกประเทศให้ความสำคัญกับการดื่มนม
.
มนุษย์เริ่มรู้จักและดื่มนมจากสัตว์ที่เลี้ยงในยุคหินประมาณ 7,000 - 9,000 ปีก่อนคริสตกาล "เป็นยุคก่อนที่ร่างกายจะพัฒนา" ซึ่งในยุคแรกๆนั้นมีความเป็นไปได้ที่ส่วนใหญ่กินผลิตภัณฑ์นมหมักกัน (มนุษย์ยุคหิน ยังไม่สามารถสลายแลคโตสของน้ำตาลในนมได้)
.
จริงๆ นมเองก็มีคำถามปริศนาที่เหมือนกับไก่หรือไข่ อะไรเกิดก่อนอยู่ Sarah Tishkoff นักพันธุศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนียกล่าวว่า "มีคำถามอยู่เสมอว่าสิ่งใดเกิดก่อน" “การปฏิบัติทางวัฒนธรรมหรือการกลายพันธุ์”
.
ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดบางส่วนเกี่ยวกับการดื่มผลิตภัณฑ์จากนม นั่นคือ ผู้คนในเคนยาและซูดานสมัยใหม่บริโภคผลิตภัณฑ์จากนมเมื่อประมาณ 6,000 ปีที่แล้วหรือนานกว่านั้น คือ ก่อนที่มนุษย์จะพัฒนา "ยีนนม" โดยบอกว่าเราดื่มของเหลวนั้นก่อนที่เราจะมีเครื่องมือทางพันธุกรรมในการย่อยมันอย่างเหมาะสม
.
มนุษย์ทุกคนสามารถย่อยนมได้ในวัยเด็ก แต่ความสามารถในการทำเช่นนั้นเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่นั้นพัฒนาขึ้นมาค่อนข้างเร็ว ๆ นี้ น่าจะเป็นไปได้ในช่วง 6,000 ปีที่ผ่านมา การกลายพันธุ์จำนวนหนึ่งทำให้ผู้ใหญ่สามารถผลิตเอนไซม์แลคเตส ซึ่งสามารถสลายแลคโตสของน้ำตาลในนมได้ ยีนที่ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าการคงอยู่ของแลคเตสนั้นแพร่หลายในแอฟริกาสมัยใหม่ ซึ่งมีการกลายพันธุ์ของการคงอยู่ของแลคเตสสี่รูปแบบ
.
เพื่อศึกษาอดีตการดื่มนมของเรา นักวิจัยหันไปที่แอฟริกา ซึ่งสังคมต่างๆ เลี้ยงวัว แกะ และแพะเลี้ยงในบ้านมาเป็นเวลาอย่างน้อย 8,000 ปี นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบโครงกระดูก 8 โครงที่ขุดพบในซูดานและเคนยา ซึ่งมีอายุระหว่าง 2,000 ถึง 6,000 ปี พวกเขาขูดแคลคูลัสทางทันตกรรมที่แข็งตัวออกจากฟัน และมองหาโปรตีนเฉพาะของนมที่รู้จักซึ่งติดอยู่ข้างใน
.
การค้นพบนี้เผยให้เห็นว่าคนเหล่านี้บริโภคผลิตภัณฑ์นมบางชนิด นั่นทำให้นี่เป็นหลักฐานโดยตรงที่เก่าแก่ที่สุดที่ทราบเกี่ยวกับการบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมในแอฟริกาและบางทีอาจเป็นทั่วโลก
.
การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าการรีดนมในแอฟริกาย้อนกลับไปได้ไกลพอๆ กับในยุโรป หรืออาจจะนานกว่านั้น
.
ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าชาวแอฟริกันโบราณจะไม่มีการพัฒนายีนย่อยนมใดๆ เลย จากการศึกษา DNA โครงร่างบางส่วนของพวกเขา "ดูเหมือนว่าชุมชนจะดื่มนมก่อนที่พวกเขาจะมีความคงอยู่ของแลคเตส" Madeleine Bleasdale ผู้ร่วมเขียนกล่าว (ผู้เชี่ยวชาญด้านโปรตีนโบราณที่สถาบัน Max Planck ด้านวิทยาศาสตร์ประวัติศาสตร์มนุษย์)
.
โปรตีนอาจมาจากนม ชีส หรือผลิตภัณฑ์นมหมัก เช่น โยเกิร์ต ซึ่งพบได้ทั่วไปในแอฟริกาในปัจจุบัน การหมักเป็นกลยุทธ์ที่บางวัฒนธรรมใช้เพื่อสลายน้ำตาลในนมก่อนบริโภค ซึ่งอาจทำให้ง่ายขึ้นสำหรับผู้ที่ไม่มีการปรับตัวให้บริโภคผลิตภัณฑ์จากนมโดยไม่ต้องดื่มนมดิบ
.
นมนั้นได้กลายเป็นสิ่งสำคัญในหลายวัฒนธรรม มีทั้งด้วยเหตุผลทางจิตวิญญาณและเหตุผลทางโภชนาการ ตัวอย่างเช่น ชาวอียิปต์โบราณ ชาวกรีก และชาวสุเมเรียน นมนั้นถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในตำนานเทพนิยาย มีผู้คนในแอฟริกาตะวันตกบางคนเชื่อว่าจักรวาลเริ่มต้นด้วยนมเพียงหยดเดียว ส่วนชาวมองโกเลียใช้ประโยชน์จากนมม้า โดยทำให้แห้ง เพื่อใช้เป็นอาหารในเวลาเดินทางไกล
.
...
เพื่อนๆ มาดื่มนมกันเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดี ถึงอายุมากขึ้นแล้วก็ยังออกไปเที่ยวเดินเหินได้อย่างสบายครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
