13 มิ.ย. เวลา 06:51 • ธุรกิจ

มารู้จัก 'Spaving' กับดักการตลาด สู่หายนะของสายช้อป

Blockdit Originals - บทความพิเศษ
1
เชื่อว่าทุกคนชอบของถูก และรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ เมื่อเห็นป้ายลดราคา หรือ กลยุทธการตลาดอย่าง ซื้อได้ยอดฟรีค่าส่ง ซื้อ 1 แถม 1 หรือซื้อยกเซทถูกกว่า ไม่นับรวมคูปองลดราคาที่ปล่อยออกมาในวันเลขเบิ้ลในแอพช้อปปิ้งชื่อดังต่างๆ
1
และนั่นจึงเป็นที่มาของพฤติกรรมการจับจ่ายซื้อของที่เรียกว่า "Spaving" ที่ผู้ซื้อรู้สึกชนะ เมื่อได้ซื้อของในราคาพิเศษ คุ้มค่าที่ได้ใช้สิทธิ์ลดราคาได้ถูกที่ ถูกเวลา แต่อาจนำมาซึ่งหายนะทางการเงินโดยไม่รู้ตัวได้ และกำลังเป็นปัญหาอย่างมากในประเทศบริโภคนิยมอย่างสหรัฐอเมริกา
คำว่า "Spaving" เป็นคำศัพท์ใหม่ที่เกิดจากการรวมคำว่า "Spending" ที่แปลว่าการจับจ่าย กับ "Saving" ที่แปลว่าประหยัดเงิน เข้าไว้ด้วยกัน กลายเป็น Spaving ซึ่งในที่นี้จะหมายถึง การยิ่งจ่ายมาก ยิงประหยัดมาก เพราะเข้าใจว่าการซื้อสินค้าตามโปรโมชั่นลดราคา จะทำให้เหลือเงินออมได้มากกว่า แถมยังเอาไปอวดได้ว่าซื้อได้ในราคาถูกกว่าคนอื่น จนทำให้เกิดพฤติกรรมเสพติดโปรโมชั่น ที่เห็นดีลลดราคาเมื่อไหร่ เป็นต้องซื้อของเมื่อนั้น
3
และนั่นคือการตกสู่หลุมพรางการตลาดที่มาในรูปของ Limited Edition, Flash Sale นาทีทอง ลดวันเดียวเท่านั้น ของจำนวนจำกัด ซื้อเพิ่มอีก xxx บาทได้ลดเพิ่มอีก xx% ซื้อวันนี้ส่งฟรี ที่ล้วนเป็นการกระตุ้นพฤติกรรม Impulse Purchase ของผู้บริโภค ให้เกิดอาการมือลั่น ตัดสินใจซื้อแบบหุนหันพลันแล่น เพราะของมันต้องมี การกดแย่งได้ในราคาพิเศษกลายเป็นเป้าหมายแห่งชัยชนะของนักช้อป
2
สิ่งที่น่าสนใจคือ นักช้อปสาย Spaving ทำให้ร้านค้าสามารถขายสินค้าได้มากกว่าเดิม สวนกระแสภาวะเงินเฟ้อ ข้าวของมีราคาแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่เมื่อก่อนเราเคยเชื่อว่าในภาวะเงินเฟ้อ คนจะยิ่งรัดเข็มขัด และใช้จ่ายลดลง
จากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคของชาวอเมริกันในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 พบว่าแม้ค่าเงินเฟ้อจะลดลงแล้ว แต่ราคาสินค้าก็ยังคงสูงขึ้นต่อเนื่องถึง 3.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ชาวอเมริกันก็ยังจับจ่ายซื้อของเพิ่มขึ้น ที่ทำให้ยอดหนี้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้นเกิน 1.12 ล้านล้านเหรียญตั้งแต่แค่ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
จากข้อมูลของ Numerator พบว่าผู้บริโภคอเมริกันตื่นตัวกับดีลโปรโมชั่น อย่างมาก และเกาะติดความเคลื่อนไหวของโปรโมชั่นร้านค้าอย่างใกล้ชิด ทำให้ร้านค้าปลีกต้องออกโปรโมชั่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อจูงใจลูกค้า และชดเชยกับกำไรที่ลดลง ซึ่งในช่วง มีนาคม 2023 - 2024 มีแคมเปญลดราคาแบบชั่วคราวเพิ่มขึ้นถึง 72% และโปรโมชั่นโดยรวมเพิ่มขึ้นกว่าเดิม 15% ซึ่งโปรฯยอดฮิตที่ตกนักช้อปได้เสมอคือ 1 แถม 1 และ จัดส่งฟรีตามยอดซื้อขั้นต่ำที่กำหนด
หากเป็นสินค้าที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ การรอเพื่อซื้อในช่วงที่มีโปรโมชั่นดีๆ ก็ช่วยให้ประหยัดเงินได้จริงๆ แต่เมื่อดูจากพฤติกรรมการซื้อของชาว Spave ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น จากความเห็นของ ชาร์ลส แชฟฟิน หนึ่งในผู้ก่อตั้งสถาบัน Financial Psychology Institute ออกมาชี้ว่า นักช้อปจำนวนไม่น้อย ยอมจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อได้โปรโมชั่นมาก
กว่าต้องการของชิ้นนั้นจริงๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ
1
สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจแห่งชาติได้เปิดเผยตัวเลขอัตราการออมเงินส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน เหลือเพียง 3.2% ซึ่งเป็นสัดส่วนลดลงอย่างมาก จากที่เคยที่สถิติสูงสุดที่ 32% ในเดือนเมษายน 2020 อันเป็นผลพวงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงหลัง Covid-19
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ชาวอเมริกันเคยมีเงินออมสูงถึง 2.1 ล้านล้านเหรียญในช่วงการระบาด Covid-19 แต่หลังจากสิ้นสุดวิกฤติโรคระบาดไปได้แค่ 2 ปี ตัวเลขเงินออมเหล่านี้ก็หายไปอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เคยวางแผนออมเงินสำรองเลี้ยงชีพไว้เพื่อความปลอดภัย วันนี้ชาวอเมริกันใช้เงินมากกว่าเดิม สะท้อนได้จากอัตราการออมเงินส่วนบุคคลที่ลดลงจนแทบไม่เหลือส่วนแบ่งเงินออมเลย
1
และการกระตุ้นยอดขายด้วยโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องของร้านค้าปลีก หรือ แพลทฟอร์มออนไลน์ ยิ่งกระตุ้นให้เกิดกระแสการช้อปปิ้งแบบ Spaving มากขึ้นไปอีก ที่อาจเป็นการดีดกลับของ Demand หลังช่วง Covid-19 ที่ชาวอเมริกันหลายครอบครัวเริ่มติดนิสัยตุนของในบ้านมากขึ้น จากการที่สินค้าเคยขาดแคลนในช่วง Lockdown และการสั่งซื้อของออนไลน์ การจ่ายด้วยบัตร หรือ ธุรกรรมดิจิทัล ทำให้การตัดสินใจซื้อของรวดเร็ว และรู้สึกผิดน้อยกว่าจ่ายด้วยเงินสดมาก
1
และนั่นกำลังจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต เมื่อพบว่าชาวอเมริกันมีหนี้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้นถึง 1.12 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ แถม 1 ใน 3 ของชาวอเมริกันมีหนี้บัตรเครดิตสูงกว่าเงินออมฉุกเฉินของตัวเอง และกลุ่ม Gen Z ที่เพิ่งเริ่มทำงานก็เริ่มใช้บัตรเครดิตกันจนเต็มวงเงิน และเป็นหนี้กันแล้ว ซึ่งอาจก่อผลเสียต่อการพิจารณาเงินกู้เพื่อซื้อบ้าน หรือ ลงทุนในอนาคตได้
2
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินในสหรัฐ จีงพยายามออกมาเตือนถึงอันตรายของพฤติกรรม Spaving อย่างไม่มีสติ ที่คิดว่าเป็นการเซฟเงิน แต่กลับจ่ายเงินมากกว่าเดิมเพื่อซื้อของที่เกินความจำเป็น พร้อมทั้งแนะนำวิธีดึงสติในการถอนตัวจากกับดัก Spaving ด้วยการ
- ยกเลิกระบบแจ้งเตือนโปรโมชั่น
- ทำรายการของที่จำเป็นต้องซื้อจริงๆ และซื้อของตามที่จดไว้ในลิสต์เท่านั้น
- อย่าใส่ของที่อยากได้ทิ้งค้างไว้ในตะกร้าช้อปปิ้งออนไลน์
- ยกเลิกการบันทึกเลขบัตรเครดิตในระบบชำระเงินออนไลน์
- ใช้สติ คิดทบทวนก่อนซื้อทุกครั้ง
3
นักการตลาดย้ำว่า การซื้อของในช่วงลดราคาไม่ใช่เรื่องผิด เหมือนกับการใช้บัตรเครดิตอย่างถูกวิธี ก็จะทำให้อำนาจเงินในกระเป๋าของเรามีมากขึ้นได้ ดังนั้น สิ่งที่ต้องมาคู่กับ Spaving ก็คือสติในการซื้อของ จะทำให้เราได้ทั้งของถูก และ มีเงินเหลือเก็บจริงๆ ว่าแล้วก็ขอตัวไปเก็บคูปองลดราคาแพล็บ เดี๋ยวหมด 😅💸💸
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา