11 ก.ค. เวลา 10:54 • ข่าว

เว่ย เฟิ่งเหอ ผู้สูญสิ้นความภักดี ตราบาปที่มอบให้กับคนขายชาติ

Blockdit Originals - บทความพิเศษ
ในช่วงปี 2023 ที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์แผ่นดินไหวระดับ 8.9 ริกเตอร์ภายในกระทรวงกลาโหมของจีน เมื่อมีการสั่งปลด เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกลาโหมถึง 2 คน ภายในปีเดียวกัน ได้แก่ เว่ย เฟิ่งเหอ และ หลี่ ช่างฝู โดยไม่ทราบเหตุผล และทั้ง 2 รัฐมนตรีก็ถูกสั่งเก็บตัวเงียบไม่ออกสื่อให้เห็นอีกเลย
1
พร้อมข่าวการกวาดล้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงกองทัพครั้งใหญ่ โดยเฉพาะ หน่วยกองทัพขีปนาวุธ ที่เคยอยู่ภายใต้การดูแลของอดีตรัฐมนตรีเว่ย เฟิงเหอ ด้วยข้อหาทุจริต คอร์รัปชั่นร้ายแรง จึงพอจะคาดเดาได้ถึงสาเหตุการเด็ดปีกนายพลระดับบิ๊ก ที่เคยเป็นคนสนิทคนหนึ่งของ สี่ จิ้นผิง ผู้นำสูงสุดของจีน แต่ทุกอย่างกลายเป็นอดีตไปแล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2024 ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ หรือ Politburo ก็มีมติถอดถอน 2 รัฐมนตรี เว่ย เฟิ่งเหอ และ หลี่ ช่างฝู ขับออกจากทุกตำแหน่งในพรรคคอมมิวนิสต์อย่างเป็นทางการด้วยข้อหาทุจริต รับสินบน ละเมิดวินัยที่เกี่ยวกับความซื่อสัตย์อย่างร้ายแรง ต่อจากนี้ก็จะส่งต่อให้คณะกรรมการด้านการทหารส่วนกลางตรวจสอบความผิดทางวินัย เพื่อดำเนินคดีต่อไป
1
อาจสรุปได้ว่า การขับอดีต 2 รัฐมนตรีกลาโหมออกจากพรรคด้วยข้อหาทุจริต เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการ
กวาดล้างคอร์รัปชั่นในแวดวงราชการของ สี จิ้นผิง ผู้นำจีนก็ว่าได้ แต่ทว่า ข้าราชการ นักการเมืองที่โดนคดีเกี่ยวกับการทุจริต รับสินบนต่างๆที่ผ่านมา มีเพียง เว่ย เฟิ่งเหอ เพียงคนเดียว ที่ถูกระบุความผิดด้วยคำว่า 忠诚失节 (จงเฉิง ชือเจี๋ย) หรือ สูญสิ้นความภักดี
นักประวัติศาสตร์การเมืองของจีนอธิบายที่มาของคำว่า 失节 (ชือเจี๋ย) มีในระบบการปกครองของจีนตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาล ที่หมายถึงความเสื่อมทรามทางศีลธรรมของขุนนางระดับสูงในราชสำนัก แต่ในการปกครองยุคสมัยพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปัจจุบัน ความผิดด้วยเหตุ "สูญสิ้นความภักดี" นี้เป็นการใช้คำที่เลี่ยงบาลีของการ
กระทำที่เข้าข่ายทรยศพรรค และ สมคบคิดกับศัตรู
1
ซึ่งข้อกล่าวหานี้ ถือว่ารุนแรงมาก และไม่ได้ใช้อย่างพร่ำเพรื่อ ในรอบหลายสิบปีถึงจะมีคนในรัฐบาลจีนสักคนที่โดนข้อหานี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นตราบาปที่จารึกในประวัติชีวิตของนักการเมืองจีนเลยทีเดียว
นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเหรินหมิน แห่งปักกิ่งได้อธิบายว่า หากจะพูดถึงคำว่า สูญสิ้นความภักดี ในประวัติศาสตร์การเมืองจีนหละก็ เขาจะนึกถึง 2 คนนี้ - กู่ ซุนจาง และ เซียง จงฟา
คนแรกเป็นหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับ ส่วนคนที่สองเป็นถึงเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ในช่วงสงครามกลางเมืองของจีน (1927 - 1949) ซึ่งทั้ง 2 คนทำผิดในข้อหาเดียวกันคือแปรพักตร์ และทรยศพรรคคอมมิวนิสต์ด้วยการขายข้อมูลลับภายในพรรคให้แก่พรรคก๊กมินตั๋ง ที่นำมาสู่การกวาดล้างขบวนการใต้ดินของพรรคคอมมิวนิสต์ในเซียงไฮ้ และ ทำให้ โจว เอินไหล อดีตนายกรัฐมนตรีจีนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
1
และชื่อของ กู่ ซุนจาง และ เซียง จงฟา ก็ถูกจดจำในฐานะคนขายชาติ เป็นความอัปยศของคนพรรคคอมมิวนิสต์ที่ไม่มีใครอยากเอ่ยชื่อถึง นี่คือตัวอย่างของความผิดในระดับที่เรียกว่า "สูญสิ้นความภักดี" ในความหมายของรัฐบาลจีน
5
ดังนั้นความผิดของ เว่ย เฟิ่งเหอ คงไม่ใช่แค่เพียงรับเงินสินบน ทุจริต คอร์รัปชั่นในวงราชการธรรมดา แต่ต้องมีอะไรมากกว่านั้น และมากถึงขนาดสั่นคลอนความมั่นคงภายในประเทศได้เลย
อัลเฟรด หวู่ ผู้ช่วยศาตราจารย์ภาควิชานโยบายสาธารณะของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ให้ความเห็นถึงคำว่า "สูญสิ้นความภักดี" บ่งชี้ถึงภัยคุกคามจากภายนอก ไม่ใช่แค่การทุจริตในประเทศ บุคคลที่โดนระบุโทษนี้ น่าจะมีพฤติกรรมการทรยศต่อพรรคด้วยการ "ชักศึกเข้าบ้าน" หรือทำให้จีนเสียเปรียบศัตรูภายนอกประเทศ กัดเซาะบ่อนทำลายปราการความมั่นคงด้านการทหารและการปกครอง
และเมื่อมาดูเส้นทางการขึ้นสู่ตำแหน่งระดับบิ๊กทหารของ เว่ย เฟิ่งเหอ ก็พบว่า เขาเป็นนายพลคนแรก ที่ สี จิ้นผิง แต่งตั้งเมื่อเข้ารับตำแหน่งผู้นำจีน ต่อจากนั้น เขาได้รับมอบหมายให้ดูแลกองทัพขีปนาวุธที่สี จิ้นผิง คาดหวังสูงว่าจะเป็นหน้า เป็นตา ของการขยายแสนยานุภาพด้านการทหารของจีนในระดับเดียวกับชาติมหาอำนาจสูงสุดของโลก ก่อนจะเลื่อนขั้นขึ้นเป็นรัฐมนตรีกลาโหมในสมัย สี่ จิ้นผิง เทอม 2 ในปี 2018
และจุดที่น่าสงสัยที่สุด น่าจะมาจากปัญหาภายในกองทัพขีปนาวุธ ที่มีข่าวปลดผู้บังคับบัญชาระดับสูงรวด 5 คน ในปี 2023 หลังจาก เว่ย เฟิ่งเหอ ถูกปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรี และหนึ่งในจำนวนนั้นมี โจว หยาหนิง และ หลี่ หยูเชา ที่เคยเป็นลูกน้องคนสนิทของเว่ย เฟิ่งเหอ ที่สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าหน่วยกองทัพขีปนาวุธด้วย
ตามมาด้วยข่าวลือว่ามีการขายความลับภายในกองทัพบขีปนาวุธ ผ่านทางลูกชายของหลี่ หยูเขา ที่กำลังศึกษาอยู่ในสหรัฐอเมริกา และการคอร์รัปชันภายในกองทัพขีปนาวุธระดับมโหฬาร ถึงขั้นไม่มีน้ำมันจะเติมจรวด จนต้องแอบกรอกน้ำเปล่าเข้าไปแทนนั่นเอง
แต่เนื่องด้วยเป็นข่าวฉาวที่เกิดขึ้นในค่ายทหาร ที่รัฐบาลจีนถือว่าเป็นความลับสุดยอด จึงยากที่จะรู้รายละเอียดในคดีทุจริตในกองทัพขีปนาวุธว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร
แต่ความโกรธเกรี้ยวระดับพสุธากัมปนาทของ สี จิ้นผิง คือของจริงแน่นอน เพราะทุกคนในพรรครู้ว่า
สี จิ้นผิง ตั้งความหวังไว้กับกองทัพขีปนาวุธมากมายขนาดไหน และยังฝากให้กับคนที่เคยไว้ใจมากอย่าง เว่ย เฟิ่งเหอ เป็นคนดูแลโครงการพัฒนากองทัพขีปนาวุธ แต่สุดท้ายไม่วายถูกบ่อนทำลายด้วยการคอร์รัปชั่นจากคนในกองทัพด้วยกันเอง
3
ลองจินตนาการดูว่าหากข่าวฉาวในกองทัพขีปนาวุธเป็นความจริง แล้วจีนจำเป็นต้องนำกองทัพขีปนาวุธออกรบเพื่อชี้ชะตาแพ้-ชนะในวันนี้ แต่ปรากฏว่า ขีปนาวุธไม่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ จะทำลายศักยภาพในการป้องกันประเทศขนาดไหน
แต่ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร วันนี้ เว่ย เฟิ่งเหอ ก็ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้สูญสิ้นความภักดีต่อรัฐบาลจีนไปเรียบร้อยแล้ว และจุดจบของผู้ทรยศมักมืดมนเสมอ
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา