16 มิ.ย. เวลา 13:00 • ไลฟ์สไตล์

5 ความจริงอันเจ็บปวดของชีวิต

บางคนอาจคิดว่าตัวเองเข้าใจชีวิตดีแล้ว คิดทุกสิ่งออกและวางแผนทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ชีวิตมักจะมีหนทางที่จะโยนความทุกข์ยากในยามที่เราไม่คาดหวัง นั่นคือความจริงของชีวิตที่จะคอยย้ำเตือนเราว่า การเดินทางของชีวิตนั้นอยู่ไกลเกินกว่าที่เราจะคาดเดาได้
การเดินทางของชีวิตไม่ใช่การต้องหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดหรือการต้องบรรลุความสมบูรณ์แบบ แต่คือการเรียนรู้ท่ามกลางความท้าทายที่เกิดขึ้นไปพร้อมๆกับการยอมรับสิ่งสำคัญและปล่อยวางสิ่งไม่จำเป็นที่เข้ามาในชีวิตอย่างเปิดใจ
ชีวิตมักจะเต็มไปด้วยความท้าทายเสมอ ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับการยอมรับและวิธีที่เราเลือกกำหนดที่จะเผชิญกับมัน เราจึงต้องมีเครื่องมือนำทางในการเผชิญหน้ากับสิ่งที่เข้ามาท้าทายหรือขวางทางในชีวิต ด้วยการยอมรับ 5 ความจริงอันเจ็บปวดเหล่านี้เพื่อนำไปสู่การดำรงอยู่ของชีวิตที่สมบูรณ์ขึ้นและดีกว่าได้
1. ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาและอย่างต่อเนื่อง
: การเปิดรับต่อการเปลี่ยนแปลงถือเป็นสิ่งสำคัญในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์และโอกาสใหม่ๆได้
ทุกสิ่งอย่างรอบตัวมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ต่างเป็นสิ่งที่"อยู่เหนือการควบคุมของเรา"ที่อาจเปลี่ยนแปลงโดยที่เราไม่ได้ตั้งตัว ตั้งแต่ฤดูกาลจนถึงธรรมชาติของเทคโนโลยีที่พัฒนาหมุนเปลี่ยนตลอดเวลา จึงทำให้"การเปลี่ยนแปลง"เป็นสิ่งเดียวในชีวิตที่มี"ความคงที่" แต่เราหลายคนกลับต่อต้านโดยยึดติดกับสิ่งที่คุ้นเคยสบายใจที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย ยึดติดกับคนเดิมๆ สถานที่เดิมๆ สิ่งของเดิมๆ โดยลืมไปว่าทุกสิ่งในชีวิตต่างเป็นสิ่งชั่วคราว
เมื่อใดที่เราต่อต้านการเปลี่ยนแปลง เราจะเกิดความเครียดและความทุกข์โดยไม่จำเป็น ทำให้ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง แถมยังทำให้พลาดโอกาสใหม่ๆ ที่กำลังยื่นให้เรา ในทางกลับกัน เมื่อใดที่เรายอมรับการเปลี่ยนแปลง เราจะเปิดใจรับต่อการเติบโต ทำให้เราเรียนรู้ที่จะยืดหยุ่นเป็น ละทิ้งสิ่งหรือบุคคลที่ไม่เหมาะสมกับชีวิตเราออกไป และยินดีรับประสบการณ์ใหม่อย่างเข้าอกเข้าใจ
2. ความล้มเหลวคือก้าวจำเป็นที่นำไปสู่ความสำเร็จ
: ความล้มเหลวจะให้บทเรียนอันมีค่าและเปิดโอกาสใหม่ในการเติบโต การตีกรอบความล้มเหลวให้เป็นก้าวสำคัญสามารถช่วยรักษาแรงจูงใจและความเพียรพยายามได้
ในสังคมที่มักจะถือว่าความสำเร็จมีความสมบูรณ์แบบ จึงเป็นเรื่องง่ายที่เราจะมองว่าความล้มเหลวคือความพ่ายแพ้ เมื่อเราเห็นคนประสบความสำเร็จจึงอาจคิดว่าเขาเหล่านั้นโชคดีที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์หรือโชคลาภ ทำอะไรก็มักประสบความสำเร็จและทำได้ง่าย ความจริงก็คือ เบื้องหลังเรื่องราวทุกความสำเร็จนั้นมีร่องรอยของความล้มเหลวอยู่ทุกครั้งไป.. ซึ่งเราไม่รู้ได้เลย
ไม่มีใครบรรลุความสำเร็จโดยไม่มีการสะดุดระหว่างทาง ความล้มเหลวไม่ได้เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความสำเร็จ แต่ความล้มเหลวคือก้าวหนึ่งในกระบวนการที่จำเป็นที่นำเราไปสู่ความสำเร็จ ความล้มเหลวแต่ละครั้งจะให้บทเรียนและโอกาสในการเติบโต เราเรียนรู้สิ่งที่ใช้ไม่ได้ผลผ่านความผิดพลาดและให้ไว้เป็นความรู้และทักษะที่จะต้องปรับปรุงในครั้งต่อไป
การตีกรอบให้ความล้มเหลวว่าเป็นหนึ่งก้าวย่างสู่ความสำเร็จ จะช่วยให้เรารักษาแรงจูงใจและความเพียรพยายามได้ แทนที่จะตอกย้ำและโทษตัวเองด้วยความผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า ให้มองว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นประสบการณ์อันมีค่าที่กำลังพาเราเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น
3. ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
: การยอมรับและการเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้สามารถนำไปสู่การเติบโตและความยืดหยุ่นในชีวิตได้
เราเผชิญกับความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานตั้งแต่ลมหายใจแรก ความเสียใจจากความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว ความโศกเศร้าจากการสูญเสียคนที่เรารัก หรือการผิดหวังจากโอกาสที่เราพลาดไป ไม่มีใครรอดพ้นจากความยากลำบากของชีวิตได้ และเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าบางคนผ่านเรื่องราวลำบากไปได้ง่ายกว่าคนอื่น แต่ความจริงคือ เราต่างมีสมรภูมิการต่อสู้ดิ้นรนเป็นของตัวเองที่ต่างกันไป
การยอมรับว่าความเจ็บปวดเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์ชีวิต จะช่วยให้เกิดการปล่อยวางได้ แทนการหลีกเลี่ยงหรือผลักดันให้ความเจ็บปวดนั้นหายไปอยู่ตลอดเวลา เราเลือกเรียนรู้ที่จะยอมรับประสบการณ์แย่ๆเหล่านั้นในฐานะครู ทุกความเจ็บปวดมีศักยภาพมากพอที่จะสอนบทเรียนอันมีค่าเกี่ยวกับ "ตัวเรา คนอื่น และโลกรอบตัวเรา" การยอมรับและจัดการกับความเจ็บปวดของเรา จะช่วยพัฒนาความยืดหยุ่นและความสามารถในการฝ่าฟันอุปสรรคในอนาคตได้ง่ายขึ้น
4. การทำให้ทุกคนพอใจนั้นเป็นเรื่องที่"เป็นไปไม่ได้"
: การจำยอมทำเพื่อคนอื่นเป็นเพียงหนทางที่จะนำไปสู่การละเลยความต้องการและค่า(นิยม)ของตัวเอง
ความต้องการเป็นที่ชื่นชอบและเป็นที่ยอมรับ ถือเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ เราอาจจะทำทุกอย่างทุกวิถีทางอย่างเต็มที่เพื่อให้คนอื่นพอใจหรือมีความสุข เพื่อหวังให้ได้รับการยอมรับหรือเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง แต่ความจริงอันเจ็บปวดคือ ไม่ว่าเราจะทำดีมากน้อยแค่ไหน เราก็ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ทุกครั้งไป
เมื่อใดที่เราลำดับความสำคัญความสุขของคนอื่นมากกว่าความสุขของตัวเอง เราเสี่ยงที่จะสูญเสียการเห็นความต้องการของตัวเอง เราอาจตอบตกลงกับสิ่งที่เราไม่ต้องการทำ หรืออาจประนีประนอมค่านิยม(ค่าที่ให้)ของเราเพื่อให้เข้ากับคนอื่น พฤติกรรม"การยอม"ทำให้คนอื่นพอใจจะนำไปสู่ความขุ่นเคือง ความเหนื่อยหน่าย และการสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองในที่สุด
การรู้จัก(กำหนด)ขอบเขตชีวิตและการลำดับความสำคัญในการดูแลตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นดูแลสุขภาพร่างกายหรือการรักษาความรู้สึกที่ดีต่อตัวเอง - ไม่เป็นไรที่จะเราจะปฏิเสธบ้าง ยืนหยัดในความเชื่อของเราบ้าง และให้ความสำคัญกับความต้องการของตัวเองบ้าง แม้ว่าอาจจะรู้สึกอึดอัดในช่วงแรกๆ แต่ก็เป็นกระบวนการที่จำเป็นในการใช้ชีวิตที่แท้จริง
5. ชีวิตไม่ได้ยุติธรรมเสมอไป
: ให้จดจ่อไปที่สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้และปล่อยวางในสิ่งที่เหนือการควบคุมของเรา ค้นหาโอกาสและบทเรียนในทุกความท้าทาย และปลูกฝังความรู้สึกขอบคุณจะช่วยรักษาทัศนคติเชิงบวกในการใช้ชีวิตได้
เราอาจเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ชีวิตช่างไม่ยุติธรรม” นั่นไม่ได้ช่วยให้เรายอมรับความเป็นจริงของชีวิตได้ เมื่อเราเป็นคนที่กำลังเผชิญกับความอยุติธรรม เป็นเรื่องปกติที่บางครั้งเราสงสัยว่าทำไมเรื่องร้ายๆจึงเกิดขึ้นกับคนดีๆ หรือทำไมบางคนมีชีวิตดูเหมือนจะง่ายหรือดีกว่าคนอื่นๆ
ความจริงอันเจ็บปวดคือ ชีวิตไม่ได้ถูกต้องและสมเหตุสมผลเสมอไป เราไม่สามารถควบคุมทุกผลลัพธ์หรือรับประกันได้ว่าเราจะได้รับสิ่งที่เราต่างสมควรได้รับ การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น หรือการจมปลักอยู่กับความไม่ยุติธรรม ล้วนแต่นำไปสู่ความขมขื่นและความขุ่นเคืองเท่านั้น
เราต้องจดจ่อมองไปที่สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ เช่น ความคิด การกระทำ และการตอบโต้ในสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
เราสามารถเลือกเอาความหมายและจุดประสงค์ที่แฝงอยู่ในแต่ละสถานการณ์ที่กำลังเผชิญ เรียนรู้จากทุกประสบการณ์และปลูกฝังความรู้สึกขอบคุณต่อสิ่งดีๆ ในชีวิต ด้วยการยอมรับว่าชีวิตไม่ได้ยุติธรรมเสมอไป จะทำให้เราปลดปล่อยตัวเองจากภาระแห่งความคาดหวังและเรียนรู้ที่จะชื่นชมการเดินทางของชีวิตไม่ว่าจะซับซ้อนแค่ไหนก็ตาม
การเปิดรับความจริงอันเจ็บปวดของชีวิตไม่ใช่เรื่องของคนใจเสาะ แต่เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความกล้าหาญและความเต็มใจที่จะก้าวออกพื้นที่คุ้นเคยที่สะดวกสบายใจ รวมถึงการตระหนักรู้ในตัวเอง ที่จะเป็นเครื่องมือนำเราไปสู่ความยืดหยุ่นในการเอาชนะความยากลำบากของชีวิต
การยอมรับความจริงอันเจ็บปวดทำให้เรามีอิสระ - ได้เปิดตัวเองสู่การเติบโตและการเติมเต็มในชีวิต ทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ รักตัวเองได้อย่างเข้าใจและลึกซึ้ง เป็นผลให้เรา"มีความสามารถ"ในการรักคนอื่นได้และรักคนอื่นเป็นอย่างมีเหตุและผลมากขึ้น
1
นั่นคือ การใช้เวลาอันมีค่าของชีวิตได้คุ้มค่าที่สุดนั่นเอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา