18 มิ.ย. เวลา 05:30 • สุขภาพ

สุขภาพจิตคนไทยย่ำแย่ใกล้เคียงช่วงต้มยำกุ้ง แล้วเราจะประคองตัวเองอย่างไร?

เศรษฐกิจแย่ ธุรกิจไปไม่รอด คนรวยเครียดแล้วแต่คนจนเครียดกว่า แล้วในสังคมที่มีแต่ความเครียดแบบนี้ เราควรจะประคองจิตใจของตัวเองกันอย่างไร?
ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา อีกหนึ่งหัวข้อที่เป็นประเด็นกันในโลกโซเชียลมีเดียก็คงจะหนีไม่พ้นสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ดูจะย่ำแย่และซึมลงไปเรื่อยๆ เมื่อภาพใหญ่ของเศรษฐกิจเมืองไทยต่างมีการถอนทุน เลิกจ้างงาน ทำให้ส่งผลกระทบต่อชนชั้นแรงงานที่กำลังรับความกดดันและเผชิญกับความท้าทายในชีวิตเป็นกลุ่มแรกๆ
5
ซึ่งแม้ว่าเราจะก้าวเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 แล้วก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนว่าภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังคงโตต่ำลงเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากเรื่องรายได้และปากท้องของชนชั้นแรงงานแล้ว ยังมีเรื่องของสุขภาพจิตที่กำลังเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และจากสถิติของประเทศไทยในปีงบประมาณ 2566 จากศูนย์เฝ้าระวังป้องกันการฆ่าตัวตาย พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากการอัตวินิบาตกรรมถึง 5,172 คน หรือคิดเป็นอัตรา 7.94 คนต่อประชากรแสนคน เฉลี่ยแล้ววันละประมาณ 14 คนทำอัตวินิบาตกรรมสำเร็จ หรือประมาณทุก 2 ชั่วโมงจะมีคนทำอัตวินิบาตกรรมสำเร็จ 1 คน
นอกจากนี้ ก็ยังมีคนที่กำลังพยายามทำสิ่งนี้แต่ไม่สำเร็จอีกจำนวนมาก ถึง 31,110 คน คิดเป็นอัตรา 47.74 คนต่อแสนประชากร เฉลี่ยวันละ 85 คนที่พยายามทำอัตวินิบาตกรรม หรือประมาณทุก 2 ชั่วโมงจะมีผู้พยายามทำอัตวินิบาตกรรมถึง 7 คน ซึ่งถ้าหากลองเข้าไปดูในเว็บไซต์แล้วจะพบกับเส้นกราฟที่เปรียบเทียบอัตราการทำอัตวินิบาตกรรมของแต่ละปี ซึ่งปี 2566 นี้ประเทศไทยมีจำนวนของผู้ที่ตัดสินใจทำอัตวินิบาตกรรมได้สำเร็จเกือบเทียบเท่ากับตอนวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 เลยทีเดียว
4
ซึ่งตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงปัญหาสุขภาพจิตที่รุนแรงของคนไทยในปัจจุบัน ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญและเร่งแก้ไขอย่างจริงจัง แต่เราค่อนข้างมั่นใจว่าในบทความนี้จะต้องมีผู้ที่เคยทำอัตวินิบาตกรรมจากปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ และความกดดันต่างๆ กำลังอ่านอยู่อย่างแน่นอน วันนี้เราจึงจะพาทุกๆ ท่านที่กำลังมีปัญหาชีวิต ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ละทิ้งความคิดหรือปัญหาตรงหน้า แล้วค่อยๆ มาคลายปมปัญหาเพื่อไปสู่การเยียวยาใจไปพร้อมๆ กัน
3
ชีวิตไม่ต้องเลิศก็ได้ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ “ใจ” สำคัญสุด!
1
ถ้าพูดถึงสิ่งที่คนส่วนใหญ่ที่พยายามพัฒนาชีวิตของตัวเองชื่นชอบกัน ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการทำงานให้บรรลุผลสำเร็จให้มากที่สุด แต่ในชีวิตความเป็นจริงแล้ว เราไม่สามารถประสบความสำเร็จหรือขับเคลื่อนเรื่องงานโดยละเลยเรื่องของใจตัวเองได้ โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจมีความกระท่อนกระแท่น ไม่แน่นอนแบบนี้ การเข็ญชีวิตให้ประสบความสำเร็จจึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้แรงมหาศาล
ซึ่งถ้าหากเรากำลังพบกับปัญหามืดแปดด้าน มีหลากหลายปัญหาที่กำลังพบเจออยู่ จนทำให้มองทุกปัญหาเป็นก้อนที่แสนยิ่งใหญ่ก้อนเดียว แต่ความจริงแล้วหากเรามองทุกปัญหาให้เป็นชิ้นส่วนจิ๊กซอว์หลายๆ ชิ้น พยายามซอยปัญหาแต่ละเรื่องให้เล็กลง เราก็จะพอเห็นทางออกนั้นได้
[  ]  หยุดมองหาความจิตตกให้ตัวเอง: ต้องยอมรับว่าเรารับข่าวสารในยุคนี้เป็นจำนวนที่มหาศาลเกินกว่าที่จะนับได้ในแต่ละวัน และข่าวสารที่น่าจิตตกก็กลายเป็นหนึ่งในสาเหตุของความตึงเครียดที่หลายๆ คนกำลังพบเจอ ซึ่งวิธีแรกที่คุณควรทำก็คือ การเลิกดูข่าวที่ไม่จำเป็นกับชีวิต หรือทำโซเชียลดีท็อกซ์เพื่อปรับสภาพจิตใจของตัวเองให้ออกห่างจากความวุ่นวาย
[  ]  การสร้างความหวัง: พยายามมองหาสิ่งดีๆ และโอกาสในชีวิต ตั้งเป้าหมายที่ท้าทายแต่บรรลุได้ รวมถึงมองให้เห็นคุณค่าและศักยภาพในตนเอง โดยอาจจะเริ่มต้นจากการบันทึกสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เช่น ได้รับคำชมจากเพื่อน ทำงานสำเร็จ, ตั้งเป้าหมายระยะสั้น เช่น ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 วัน เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ และอย่าลืมบอกตัวเองว่า "ฉันมีคุณค่า" "ฉันมีศักยภาพ" ทุกวัน
[  ]  แก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์: ขั้นตอนนี้จะเข้าสู่การระบุปัญหาอย่างชัดเจนว่าสิ่งใดที่เรากำลังเจออยู่บ้าง ลองพิจารณาทางเลือกและผลกระทบต่างๆ ที่มีอยู่แล้วเลือกวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมมากที่สุด
[  ]  การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี: เพราะความสัมพันธ์เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้น พยายามเปิดใจพูดคุยกับคนใกล้ชิด และขอความช่วยเหลือเมื่อต้องการ
[  ]  อย่าลืมการดูแลสุขภาพกายและจิต: ผ่านการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ฝึกสมาธิ ผ่อนคลายความเครียด อาจจะมองหากิจกรรมสร้างความสุขและให้ของขวัญเพื่อสร้างความพึงพอใจในตัวเอง
[  ]  การเข้ารับการบำบัดรักษา: ขั้นตอนสุดท้ายคือการพบนักจิตวิทยา จิตแพทย์ เข้ากลุ่มบำบัดเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญอย่างถูกวิธี เพราะสุดท้ายแล้วเมื่อมีปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น การเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาจะช่วยให้เราค้นพบทางออกได้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาสุขภาพจิตนั้นเป็นปัญหาที่บอบบางมากกว่าที่จะตัดสินใจว่าเกิดจากอะไร และผู้ที่ป่วยต้องทำอย่างไร แต่ท่ามกลางความตึงเครียดแบบนี้หากเรารู้และเข้าใจตัวเอง ก็นับว่าเราจะสามารถเยียวยาและช่วยเหลือสุขภาพจิตของตัวเองได้เลย และอย่าลืมที่จะมองเห็นคุณค่าในตัวเอง คุยกับคนรอบข้าง หรือเข้าบำบัดรักษา ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยเยียวยาสุขภาพจิตของคุณให้เจอกับทางออกที่ดีและกลับมามีความสุขอย่างยั่งยืน
เพราะท้ายที่สุดแล้ว การมีสุขภาพจิตที่ดี อาจจะเป็นลาภอันประเสริฐยิ่งกว่าร่างกายที่แข็งแรง
อ้างอิง
- รายงานสถานการณ์การฆ่าตัวตายในประเทศไทย ปีงบประมาณ 2566 : ศูนย์เฝ้าระวังป้องกันการฆ่าตัวตาย, โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ - https://bit.ly/3VqpdFE 
- ‘เศรษฐกิจไทย’ เคราะห์ซ้ำกรรมซัด วิกฤตหนี้ ดอกแพง แบงก์หนืดกู้ : มติชนออนไลน์ - https://bit.ly/3VuBQiK 
- Snyder's Hope Theory : Mind Tools - https://bit.ly/4b7X38j 
- Creative Problem-Solving Process – A Quick History : The Bigbang Partnership - https://bit.ly/45pKnZ9
#trend
#สุขภาพจิต
#เศรษฐกิจ
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
โฆษณา