22 มิ.ย. เวลา 14:10 • ปรัชญา
วัดพระธรรมกาย

🌟ทบทวนโอวาทในอดีต : การปฏิบัติธรรม 321🌟

การเห็นภาพทางใจนั้น จะแตกต่างจากการเห็นภาพด้วยมังสจักขุ หรือตาเนื้อ มันไม่ใช่ปุ๊บปั๊บเห็นเลย มันก็คือมโนภาพที่เรานึกถึง เหมือนเรานึกถึง ขันล้างหน้า แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ดอกบัว ดอกกุหลาบ ของที่เรารักอะไรอย่างนั้น อันไหนสิ่งไหนเราคุ้นเคยมาก เราก็นึกได้ชัด สิ่งไหนมันไม่คุ้นมันก็ไม่ค่อยชัด เพราะมันเป็นมโนภาพทางใจ ที่เรียกว่า “บริกรรมนิมิต” ซึ่งการนึกถึงดวงใส ๆ หรือพระแก้วใส ๆ ก็ใช้ทำนองนั้นแหละ คือนึกธรรมดา ๆ
อย่างเรานึกถึงพระมหาธรรมกายเจดีย์ เราก็นึกธรรมดา ซึ่งมันก็เป็นภาพทางใจ แต่มันก็ไม่ชัดเจนหรอก บางคนชัดเจนมาก บางคนชัดเจนน้อย ตรงนี้แหละ ถ้าหากเราทำความเข้าใจได้ แล้วก็ทำเป็น เดี๋ยวใจก็จะหยุดนิ่งขึ้นมา เพราะมีอารมณ์เดียว
ดังนั้นการนึกถึงดวงใส หรือพระแก้วใส ๆ ก็ในทำนองเดียวกัน คือ เราก็ต้องใจเย็น ๆ ค่อย ๆ นึก นึกเท่าที่เรานึกได้ นึกแล้วเรายังรู้สึกสบาย แล้วก็ผ่อนคลาย ระบบประสาทกล้ามเนื้อมันผ่อนคลาย ไม่เกร็ง ไม่ตึง อย่างนั้นถูกวิธี
แล้วก็ต้องทำใจเย็น ๆ อย่าไปรำคาญ ถ้าเรานึกไม่ชัด เห็นไม่ชัด อย่าไปรำคาญ แล้วก็อย่าไปฮึดฮัดว่า “ทำไมเรานึกอะไรก็นึกได้ชัด ทำไมมานึกอย่างนี้มันไม่ชัด นึกเท่าที่นึกได้นะ”
นึกได้แค่ไหนเราก็เอาแค่นั้น สมมติเรานึกถึงดวงกลม ๆ บางทีมันจะบูดบ้าง เบี้ยวบ้าง ช่างมัน ให้มีภาพอยู่ในท้องก็แล้วกัน องค์พระก็เหมือนกัน บางทีก็เห็นตั้งแต่เศียรบ้าง แขน ขา มือ อะไรก็ดูไป เพื่อต้องการให้ใจอยู่กับตัว
เพราะฉะนั้น..เราก็ต้องจับหลักให้ได้ว่า “วัตถุประสงค์ของการทำอย่างนี้ เพื่อต้องการให้ใจมาอยู่กับตัว” อยู่ในกลางท้อง ตรงบริเวณฐานที่ ๗ เพื่อให้หยุด ให้นิ่ง มาอยู่นาน ๆ จนกระทั่งมันหยุดมันนิ่ง ๆ นี่คือวัตถุประสงค์ของเรา จับหลักตรงนี้ให้ได้นะ
#หลวงพ่อธัมมชโย #ทบทวนโอวาท #วัดพระธรรมกาย #ธรรมกาย #ใจหยุด24น.
🌟รับธรรมะดี ๆ ที่เป็นประโยชน์และเป็นกำลังใจในการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าถึงความสุขภายในได้ที่นี่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา