26 มิ.ย. เวลา 13:31 • กีฬา

ย้อนรอยผลงานในอดีตของ 10 ตัวเต็งแชมป์ฟุตบอลยูโร EP.9 ทีมชาติเดนมาร์ก

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2024 เมื่อคืนที่ผ่าน ทีมชาติเดนมาร์ก เสมอกับ ทีมชาติเซอร์เบีย ไปแบบไร้สกอร์ 0-0 ทำให้เดนมาร์กแข่ง 3 นัด เสมอรวดทั้ง 3 นัด มี 3 แต้มเท่ากับสโลวีเนีย นอกจากนี้ทั้งประตูได้เสียและ Head to Head ของทั้ง 2 ชาติก็เท่ากัน ทำให้ต้องมาวัดที่คะแนนแฟร์เพลย์ ซึ่งเดนมาร์กเป็นฝ่าบที่โดนใบเหลืองน้อยกว่า ทำให้เดนมาร์กจบทค่อันดับ 2 ของกลุ่ม ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปเจองานหนัก พบกับเจ้าภาพทีมอินเหล็ก เยอรมนี ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง
ในซีรีส์ย้อนรอยผลงานในอดีตของ 10 ตัวเต็งแชมป์ฟุตบอลยูโร ในตอนที่ 9 นี้ เราจะพามาย้อนรอยมาดูผลงานของทัพเดนิช ไดนาไมต์ ทีมชาติเดนมาร์กครับ
ถ้าพูดถึงผลงานในฟุตบอลโลก เดนมาร์กอาจจะไม่ได้เป็นที่จดจำสักเท่าไหร่ เพราะผลงานที่ดีสุดของทีมโคนมคือรอบก่อนรองชนะเลิศ แต่ถ้าพูดถึงผลงานในฟุตบอลยูโร แทบไม่มีแฟนบอลคนไหน ไม่รู้จักเทพนิยายเดนส์ในฟุตบอลยูโร 1992 ทีมชาติเดนมาร์กเคยคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโรได้ 1 สมัย ในปี 1992 ด้วยการเป็นชาติที่เข้ามาแข่งแทนยูโกสลาเวีย โดยฟุตบอลยูโร 2024 พวกเขาอยู่ในกลุ่ม เดียวกับสโลวีเนีย อังกฤษ และเซอร์เบีย ซึ่งทีมโคนม เดนมาร์กถูกจัดให้เป็นเต็ง 9 ของรายการ
เดนมาร์ก เสมอกับ เซอร์เบีย 0-0
วันนี้เราจะพามาดูผลงานการแข่งขันฟุตบอลยูโรทั้ง 16 ครั้งที่ผ่านมาของเดนมาร์กกันนะครับ
(หมายเหตุ สาเหตุที่ช่วงปี 1960 - 1976 ชาติใหญ่หลายชาติไม่ผ่านการคัดเลือก เนื่องจากฟุตบอลยูโร 1960 - 1976 รอบสุดท้าย จะแข่งขันกันเพียงแค่ 4 ทีม)
ยูโร 1960 ไม่ผ่านการคัดเลือก
ยูโร 1964 เดนมาร์กผ่านเข้ามาเล่นฟุตบอลยูโรรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรก โดยในรอบรองชนะเลิศพวกเขาแพ้แชมป์เก่า สหภาพโซเวียตไปอย่างขาดลอย 0-3 ทำให้พวกเขาต้องมาชิงที่ 3 กับฮังการี่ โดยทั้งคู่เสมอกันในเวลาปกติ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษและเป็นฮังการี่ที่เอาชนะเดนมาร์กไป 3-1 ทีมโคนมจบการเล่นยูโรครั้งแรกด้วยอันดับที่ 4
ยูโร 1968-1980 ไม่ผ่านการคัดเลือก
ยูโร 1984 ทีมโคนมผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลยูโรได้อีกครั้ง หลังจากห่างหายไปถึง 20 ปี เดนมาร์กอยู่กลุ่มเดียวกับทีมเจ้าภาพ ฝรั่งเศส ยูโกสลาเวีย และเบลเยี่ยม ในแมตช์แรกพวกเขาแพ้ฝรั่งเศสไป 0-1 ก่อนในแมตช์ที่ 2 จะกลับมาไล่ถล่มยูโกสลาเวียไปขาดลอย 5-0 และในแมตช์สุดท้ายเฉือนชนะเบลเยี่ยมไป 3-2 สรุปผลงานรอบแบ่งกลุ่มพวกเขาชนะ 2 แมตช์ แพ้ 1 แมตช์ ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่ม
ในรอบรองพวกเขาต้องมาเจอกับสเปน โดยเดนมาร์กเสมอกับสเปนในเวลา 1-1 ก่อนที่ทีมโคนมจะเป็นฝ่ายแพ้การดวลจุดโทษให้ทีมกระทิงดุ เดนมาร์กต้องจบรายการที่รอบรอง
ทีมชาติเดนมาร์กชุดฟุตบอลยูโร 1984
ยูโร 1988 เดนมาร์กอยู่ในกลุ่มเดียวกับสเปน เยอรมันตะวันตก และอิตาลี่ ในแมตช์แรกพวกเขาแพ้สเปนไปด้วยสกอร์ 2-3 ก่อนที่ในแมตช์ถัดมาจะแพ้เยอรมันตะวันตกไปด้วยสกอร์ 0-2 และแพ้อิตาลี่ในนัดสุดท้ายด้วยสกอร์ 0-2 พวกเขาตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นบ๊วยกลุ่มและไม่มีแต้มกลับบ้านเลย
ยูโร 1992 ในรอบคัดเลือกเดนมาร์กจบอันดับที่ 2 ในรอบคัดเลือกกลุ่ม 4 แต่ทว่าชาติที่เป็นอันดับ 1 ของรอบคัดเลือกกลุ่ม 4 คือ ยูโกสลาเวียมีปัญหาทางการเมืองและเกิดสงครามในประเทศ ทำให้ UN และ UEFA ได้ทำการแบนยูโกสลาเวียในทุกชนิดกีฬา เดนมาร์กจึงได้สิทธิเข้ามาเล่นแทน ซึ่งหลังจากที่ทำผลงานได้น่าผิดหวังในยูโร 1988 ประกอบกับไมเคิล เลาดรู๊ป สตาร์หมายเลข 1 ของทีมไม่ยอมมาร่วมทัวร์นาเมนต์นี้ด้วย และทีมโคนมมีเวลาเตรียมตัวเพียง 2 สัปดาห์ ถ้าพูดตามตรงสถานะพวกเขาไม่ใช่ทีมเต็งของรายการเลย
ในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาอยู่กลุ่มเดียวกับทีมเจ้าภาพ สวีเดน อังกฤษ และ ฝรั่งเศส ในแมตช์แรกพวกเขาเสมอกับอังกฤษแบบไร้สกอร์ 0-0 ก่อนที่จะมาแพ้สวีเดน 0-1 ในแมตช์ถัดมา ซึ่งหลังจากแข่งไป 2 นัด ทีมโคนมเก็บได้เพียงแต้มเดียว แล้วยังต้องมาเจอฝรั่งเศสในแมตช์สุดท้าย หลายคนคิดว่าพวกเขาน่าจะไม่รอดรอบแบ่งกลุ่ม แต่ทีมเดนิช ไดนาไมต์ พลิกล็อคเฉือนชนะฝรั่งเศสไปได้ 2-1 จากการทำประตูของเฮนริค ลาร์เซ่น และ ลาร์ส เอลส์ทรุป สรุปผล เดนมาร์ก ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 เข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม
ในรอบรองพวกเขาต้องมาเจอเนเธอร์แลนด์ แชมป์เก่ายูโร 1988 ที่นำทัพมาโดย 3 ทหารเสือดัตช์เหมือนเดิม เกมในเวลา 90 นาที ทั้ง 2 ชาติเสมอกัน 2-2 โดยที่เดนมาร์กได้ 2 ประตูจากเฮนริค ลาร์เซ่น คนเดิม และช่วงต่อเวลาพิเศษยังทำสกอร์กันเพิ่มไม่ได้ เกมยืดยื้อมาถึงการดวลจุดโทษและเป็นทีมโคนมที่ชนะการดวลจุดโทษทีมอัศวินสีส้มไป 5-4 จากการที่ ปีเตอร์ ชไมเคิล สามารถเซฟจุดโทษ มาร์โก ฟาน บาสเท่น เอาไว้ได้ เดนมาร์กผ่านเข้าชิงแชมป์กับเยอรมนี
ปีเตอร์ ชไมเคิล นักเตะยอดเยี่ยมฟุตบอลยูโร 1992
แน่นอนว่าเยอรมนีเป็นต่อเดนมาร์กในทุกประตู โดยทีมอินทรีเหล็กพึ่งคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1990 มาหมาดๆ นอกจากนี้พวกเขายังเคยคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโรมาแล้วอีก 2 สมัย(ในตอนนั้น) ในขณะที่เดนมาร์กพึ่งเข้าชิงได้เป็นครั้งแรก แต่ทีมเดนิช ไดนาไมต์ สามารถเข้าไปสร้างเทพนิยายเดนส์ได้สำเร็จ เดนมาร์กพลิกล็อคเอาชนะเยอรมนีไป 2-0 จากการทำประตูของจอห์น เยนเซ่น และ คิม วิลฟอร์ต เดนมาร์กคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโรสมัยแรกไปครอบครอบได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ทีมชาติเดนมาร์กคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโรสมัยแรกมาครอบครองได้สำเร็จ
คิม วิลฟอร์ต(คนชูถัวย) ผู้ทำประตูย้ำชัยให้ทีมเดนิช ไดนาไมต์
ยูโร 1996 เดนมาร์กในฐานะแชมป์เก่าเดินทางมาป้องกันแชมป์ที่อังกฤษ โดยพวกเขาต้องอยู่กลุ่มเดียวกับโปรตุเกส โครเอเชีย และตุรกี ในแมตช์แรกพวกเขาเสมอกับโปรตุเกส 1-1 ก่อนจะที่มาแพ้โครเอเชียไปขาดลอยถึง 0-3 ในแมตช์ถัดมา และมาเอาชนะตุรกีขาดลอย 3-0 ในแมตช์สุดท้าย แต่ยังไม่เพียงพอ พวกเขาเก็บได้ 4 แต้ม ตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม
ยูโร 2000 ทีมโคนมอยู่กลุ่มเดียวกับฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ทีมเจ้าภาพ และสาธารณรัฐเช็ก ในแมตช์แรกพวกเขาแพ้ฝรั่งเศสทีมแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 ไปขาดลอย 0-3 ก่อนจะมาแพ้เจ้าภาพเนเธอร์แลนด์ด้วยสกอร์เดิม 0-3 และมาแพ้เช็กในแมตช์สุดท้ายด้วยสกอร์ 0-2 เดนมาร์กตกรอบกลับบ้านด้วยการเป็นบ๊วยกลุ่ม ไม่มีแต้ม และไม่สามารถทำประตูได้เลย นี่อาจเรียกว่าเป็นฟุตบอลยูโรที่แย่ที่สุดของทีมโคนมก็ว่าได้
ยูโร 2004 เดนมาร์กอยู่กลุ่มเดียวกับอิตาลี่ บัลแกเรีย และสวีเดน ในแมตช์แรกพวกเขาเสมอกับอิตาลี่แบบไร้สกอร์ ก่อนที่จะมาเอาชนะบัลแกเรีย 2-0 ในแมตช์ถัดมา และมาเสมอสวีเดน 2-2 ในแมตช์สุดท้าย ผลสรุปคือเดนมาร์ก สวีเดน อิตาลี่ เก็บได้ 5 แต้มเท่ากัน ต้องวัดกันที่ประตูได้เสีย ทำให้เดนมาร์กเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม ในรอบก่อนรองพวกเขาต้องมาเจอกับสาธารณรัฐเช็ก และเป็นเช็กที่เอาชนะเดนมาร์กไปขาดลอย 3-0 เดนมาร์กจบฟุตบอลยูโร 2004 ที่รอบ 8 ทีม
ยูโร 2008 ไม่ผ่านการคัดเลือก
ยูโร 2012 หลังจากที่ตกรอบคัดเลือกในฟุตบอลยูโร 2008 มาในครั้งนี้ทีมโคนมต้องมาอยู่ในกลุ่ม Group Of Death ของรายการพวกเขาอยู่ร่วมกลุ่มกับ เนเธอร์แลนด์ โปรตุเกส และเยอรมนี ในแมตช์แรกพวกเขาสร้างเซอร์ไพร์สเอาเฉือนชนะเนเธอร์แลนด์ไป 1-0 ก่อนที่จะมาแพ้โปรตุเกส 2-3 ในแมตช์ถัดมา และมาแพ้เยอรมนีในแมตช์สุดท้าย สรุปทีมโคนมเก็บได้ 3 แต้ม ตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม
ยูโร 2016 ไม่ผ่านการคัดเลือก
ยูโร 2020 ทีมโคนมอยู่กลุ่มเดียวกับฟินแลนด์ เบลเยี่ยม และรัสเซีย ในแมตช์แรกกับฟินแลนด์ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น คริสเตียน อีริคเซ่น สตาร์หมายเลข 1 ของทีม เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น ต้องมีการหยุดเกมและทำการ CPR หลังจากนั้นมาแข่งกันต่อก่อนที่เดนมาร์กจะแพ้ฟินแลนด์ไป 0-1 และเดนมาร์กมาแพ้เบลเยี่ยม 1-2 ในแมตช์ถัดมา แมตช์สุดท้ายกับรัสเซียพวกเขาต้องชนะสถานเดียว และเดนมาร์กกํทำได้สำเร็จไล่ถล่มรัสเซียไป 4-1 ทีมโคนมมี 3 แต้มเท่ากับ ฟินแลนด์ และรัสเซีย แต่ด้วยประตูได้เสีย ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม
เดนมาร์กเอาชนะรัสเซียขาดลอย 4-1 ทำให้ผ่านเข้ารอบ
เดนมาร์กต้องมาเจอกับเวลส์ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และเป็นทีมโคนมที่ชนะทีมมังกรแดงไปอย่างขาดลอยถึง 4-0 ผ่านเข้ารอบก่อนรองไปพบกับสาธารณรัฐเช็ก และเดนมาร์กได้เฉือนเอาชนะเช็กด้วยสกอร์ 2-1 เดนมาร์กผ่านเข้ารอบรองไปพบกับอังกฤษ ซึ่งครั้งนี้เป็นการผ่านเข้ารอบรองได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยูโร 1992 แฟนบอลหลายคนลุ้นที่จะให้เทพนิยายเดนส์เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จ เดนมาร์กโดนแฮร์รี่ เคน ทำประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทำให้อังกฤษเฉือนชนะเดนมาร์กไป 2-1 ทีมเดนิช ไดนาไมต์ จบเส้นทางฟุตบอลยูโร 2020 ที่รอบรองชนะเลิศ
เดนมาร์กผ่านเข้ารอบรองฟุตบอลยูโรเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี
แน่นอนว่าการพบกับเยอรมนีในรอบต่อไปนั้นเป็นงานที่หนักมากสำหรับทีมเดนิช ไดนาไมต์ เพราะเยอรมนี ทีมเจ้าภาพเก็บได้ถึง 7 แต้ม และทำได้ถึง 8 ประตูในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเลยสำหรับทัพโคนม เพราะการสร้างเทพนิยายเดนส์ในยูโร 1992 เดนมาร์กก็สามารถเอาชนะเยอรมนีได้ในรอบชิง ชนะเลิศ เราต้องมาลุ้นกันครับว่าเดนมาร์กจะผ่านด่านโหดจากเยอรมนีในรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้หรือไม่
คริสเตียน อีริคเซ่น Man Of The Match เกมพบเซอร์เบีย
ขอบคุณรูปภาพ Photo Credit
Official Facebook Page UEFA Euro 2024
Official Facebook Page herrelandsholdet
Official Website UEFA.Com
โฆษณา