5 ก.ค. เวลา 13:00 • กีฬา

ย้อนรอยผลงานในอดีตของ 10 ตัวเต็งแชมป์ฟุตบอลยูโร EP.10 ทีมชาติโปรตุเกส

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2024 ในรอบก่อนรองชนะเลิศคืนนี้มีบิ๊กแมตช์ เป็นการรีแมตช์นัดชิงฟุตบอลยูโร 2016 ระหว่างทีมชาติโปรตุเกส พบกับ ทีมชาติฝรั่งเศสนะครับ ซึ่งทั้ง 2 เจอชาติเจอกันมา 3 ฟุตบอลยูโรติดแล้ว โดยในรอบ 16 ทีมที่ผ่านมา โปรตุเกส สามารถเอาชนะการดวลจุดโทษ สโลวีเนีย ไปด้วยสกอร์ 3-0 หลังจากที่เสมอกันในเวลาปกติและช่วงต่อเวลาพิเศษแบบไร้สกอร์ 0-0 โดย ดิโอโก้ คอสต้า นายด่านโปรตุเกสสามารถเซฟได้ถึง 3 จุดโทษในการดวลจุดโทษ ส่งผลให้ทีมฝอยทองผ่านเข้ารอบมาพบทีมตราไก่ในรอบก่อนรอง
ในซีรีส์ย้อนรอยผลงานในอดีตของ 10 ตัวเต็งแชมป์ฟุตบอลยูโรของพวกเรา ในตอนสุดท้ายนี้ เราจะพามาย้อนรอยมาดูผลงานของทีมฝอยทอง ทีมชาติโปรตุเกสครับ
สำหรับผลงานในฟุตบอลโลกของโปรตุเกส พวกเขาเคยเข้าถึงรอบรองฟุตบอลโลกมาได้ 2 ครั้ง โดยหยิบเหรียญทองแดง สามารถจบอันดับ 3 ได้ในปี 1966 ส่วนในศึกฟุตบอลยูโรพวกเขาเคยมาเข้าชิงได้ 2 ครั้ง และสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ 1 สมัย ในฟุตบอลยูโร 2016 โดยฟุตบอลยูโร 2024 ทัพฝอยทองเก็บได้ 6 แต้มในรอบแบ่งกลุ่ม ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม F โดยที่ในยูโร 2024 นี้ โปรตุเกสถูกจัดให้เป็นเต็ง 5 ของรายการ
ทีมชาติโปรตุเกสต้องเจอกับทีมชาติฝรั่งเศสในคืนวันนี้
วันนี้เราจะพามาดูผลงานการแข่งขันฟุตบอลยูโรทั้ง 16 ครั้งที่ผ่านมาของโปรตุเกสกันครับ
(หมายเหตุ สาเหตุที่ช่วงปี 1960 - 1976 ชาติใหญ่หลายชาติไม่ผ่านการคัดเลือก เนื่องจากฟุตบอลยูโร 1960 - 1976 รอบสุดท้าย จะแข่งขันกันเพียงแค่ 4 ทีม)
ยูโร 1960-1980 ไม่ผ่านการคัดเลือก
ยูโร 1984 เป็นการผ่านเข้ามาเล่นฟุตบอลยูโรรอบสุดท้ายครั้งแรกของทีมฝอยทอง โดยที่พวกเขาต้องมาอยู่ร่วมกลุ่มกับเยอรมันตะวันตก สเปน และโรมาเนีย ในแมตช์แรกพวกเขาเสมอกับโรมาเนียแบบไร้สกอร์ 0-0 ก่อนที่จะมาเสมอกับสเปน 1-1 ในแมตช์ถัดมา และเฉือนชนะโรมาเนียได้ 1-0 ในแมตช์สุดท้าย สรุปผลงานโปรตุเกสชนะ 1 แมตช์ เสมอ 2 แมตช์ ส่งผลให้ทีมฝอยทองผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม
โปรตุเกสต้องมาพบกับฝรั่งเศสในรอบรอง โดยเกมในเวลาปกติ 90 ทั้งคู่นาทีเสมอกันด้วยสกอร์ 1-1 ก่อนที่จะต้องต่อเวลาพิเศษ และเป็นฝรั่งเศสที่เฉือนชนะโปรตุเกสไป 3-2 ทีมชาติโปรตุเกสต้องยุติเส้นทางการเล่นฟุตบอลยูโรรอบสุดท้ายครั้งแรกที่รอบรองชนะเลิศ
ทีมชาติโปรตุเกส ชุดฟุตบอลยูโร 1984
ยูโร 1988-1992 ไม่ผ่านการคัดเลือก
ยูโร 1996 หลังจากหายหน้าหายตาไปจากฟุตบอลยูโร 2 ครั้งติดต่อกัน ในฟุตบอลยูโรครั้งนี้ทัพฝอยทองอยู่ร่วมกลุ่มกับทีมแชมป์เก่า เดนมาร์ก ตุรกี และโครเอเชีย ในแมตช์แรกพวกเขาเสมอกับเดนมาร์ก 1-1 ก่อนจะเฉือนชนะตุรกี 1-0 ในแมตช์ถัดมา และเอาชนะโครเอเชียไปขาดลอย 3-0 ในแมตช์สุดท้าย โปรตุเกสเก็บได้ 7 แต้ม สามารถผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ไปพบกับสาธารณรัฐเช็กในรอบก่อนรอง และเป็นเช็กที่เป็นฝ่ายเฉือนชนะไป 1-0 โปรตุเกสตกรอบก่อนรองชนะเลิศ
ยูโร 2000 โปรตุเกสชุดนี้ประกอบไปด้วยผู้เล่นชื่อดังที่คนคุ้นหูหลายราย หลุยส์ ฟิโก้, รุย คอสต้า, เปาโล่ ซูซ่า, วิคเตอร์ บาย่า, เปโดร เปาเลต้า, นูโน่ โกเมส แฟนบอลหลายคนได้บอกว่านี่คือโปรตุเกสยุค Golden Generation ทำให้โปรตุเกสกลายเป็นหนึ่งในทีมเต็งฟุตบอลยูโร 2000
โปรตุเกสต้องมาอยู่ Group Of Death โดยร่วมกลุ่มกับอังกฤษ โรมาเนีย และเยอรมนี ในแมตช์แรก พวกเขาโดนอังกฤษยิงนำไปก่อน 2-0 แต่สามารถพลิกกลับมาเอาชนะอังกฤษไปแบบสุดมันส์ 3-2 ก่อนที่จะเฉือนชนะโรมาเนีย 1-0 ในแมตช์ที่ 2 และเอาชนะเยอรมนีไปขาดลอย 3-0 ในแมตช์สุดท้าย จากการทำแฮตทริก ของเซร์คิโอ คอนไซเซา ซึ่งนี่เป็นแฮตทริกแรกและแฮตทริกเดียวของโปรตุเกสในฟุตบอลยูโร โปรตุเกสมีฟอร์มสมกับที่เป็นทีมเต็งสามารถเก็บได้ 9 แต้มเต็มใน Group Of Death ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม
ทีมชาติโปรตุเกสยุค Golden Generation
โปรตุเกสผ่านเข้ารอบก่อนรองมาพบกับตุรกี ก่อนที่พวกเขาจะเอาชนะไปได้ 2-0 จากการทำ 2 ประตูของนูโน่ โกเมส ทีมฝอยทองผ่านเข้ารอบรองมาพบกับ ฝรั่งเศส แชมป์ฟุตบอลโลก 1998 พวกเขาออกนำไปก่อน 1-0 จากนูโน่ โกเมส ก่อนที่ฝรั่งเศสจะมาไล่ตีเสมอ 1-1 ได้จากเธียร์รี่ อองรี เกมในเวลา 90 นาทีจบที่สกอร์ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ และเป็นซีเนดีน ซีดาน ที่ซัดจุดโทษเป็นประตู Golden Goal ทำให้ฝรั่งเศสเฉือนชนะโปรตุเกส 2-1 ฝรั่งเศสผ่านเข้าชิงแชมป์ โปรตุเกสยุคทองต้องยุติเส้นทางที่รอบรอง
แม้ว่าโปรตุเกสจะต้องยุติเส้นทางที่รอบรองแต่ฟอร์มการเล่นอันโดดเด่นในยูโร 2000 ของ หลุยส์ ฟิโก้ นักเตะหมายเลข 1 ของชาติ ก็ส่งผลให้ฟิโก้คว้าบัลลงดอร์ปี 2000 มาครอง โดยมีคะแนนโหวตเฉือนชนะซีเนอดีน ซีดานไปเพียง 16 คะแนน
หลุยส์ ฟิโก้ นักเตะเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์คนที่ 2 ของโปรตุเกส
ยูโร 2004 โปรตุเกสในฟุตบอลยูโรครั้งนี้มีนักเตะหลายรายมาจากชุดฟุตบอลยูโร 2000 เรียกได้ว่าโปรตุเกสยังอยู่ในยุค Golden Generation พร้อมด้วยคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวรุ่งกระแสแรง และเดโก้ คีย์แมนในการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ของปอร์โต้ ในฟุตบอลยูโรครั้งนี้พวกเขารับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ โดยโปรตุเกสต้องอยู่ร่วมกลุ่มกับ กรีซ รัสเซีย และสเปน ในแมตช์แรกพวกเขาพลิกล็อคแพ้กรีซไป 1-2 ก่อนที่จะมาเอาชนะรัสเซีย 2-0 ในแมตช์ถัดมา และมาเฉือนชนะสเปน 1-0 ในแมตช์สุดท้าย โปรตุเกสเก็บได้ 6 แต้ม เข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม
ทีมชาติโปรตุเกส ชุดลุยศึกฟุตบอลยูโร 2004
ในรอบก่อนรองโปรตุเกสต้องมาเจอกับอังกฤษ พวกเขาโดนอังกฤษออกนำไปก่อน 1-0 จากไมเคิล โอเว่น แต่โปรตุเกสมาไล่ตีเสมอได้ทันจากเอลเดอร์ ปอสติก้า เกมในเวลาเสมอกับ 1-1 ต้องเล่นต่อเวลาพิเศษ รุย คอสต้า ยิงให้โปรตุเกสนำไปก่อน 2-1 ก่อนที่แฟรงค์ แลมพาร์ดจะมาไล่ตีเสมอ 2-2 เกมในช่วงต่อเวลาจบที่สกอร์ 2-2 ต้องดวลจุดโทษ และเป็นทัพฝอยทองที่เป็นฝ่ายดวลจุดโทษชนะทัพสิงโตคำรามผ่านเข้ารอบต่อไป
โปรตุเกสต้องมาเจอกับเนเธอร์แลนด์ในรอบรองและพวกเขาก็เป็นฝ่ายเอาชนะเนเธอร์แลนด์ไปได้ 2-1 จากการทำประตูของคริสเตรียโน่ โรนัลโด้ และ มานิเช่ ทีมชาติโปรตุเกสผ่านเข้าชิงแชมป์ฟุตบอลยูโรได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยต้องพบกับทีมม้ามืดของรายการ กรีซ
โปรตุเกสผ่านเข้าชิงแชมป์ฟุตบอลยูโรได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
โปรตุเกสในยุค Golden Generation มีตัวผู้เล่นที่เหนือกว่ากรีซชัดเจน รวมถึงยังเป็นเจ้าภาพในฟุตบอลยูโรครั้งนี้ แน่นอนว่าการเข้าชิงแชมป์ยูโรครั้งนี้ พวกเขามีความหวังอย่างมากที่จะคว้าแชมป์ยูโรสมัยแรกมาครองให้ได้ในมาตุภูมิของตนเอง แต่ทว่าพวกเขาโดนกรีซย้ำแค้น โปรตุเกสแพ้กรีซคาบ้าน 0-1 จากลูกโหม่งของอังเกลอส ชาริสเตอัส ทัพฝอยทองต้องผิดหวังในการเข้าชิงฟุตบอลยูโรครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โปรตุเกสจบรายการด้วยการเป็นรองแชมป์
ชาริสเตอัส (เสื้อขาว เบอร์ 9) โหม่งประตูชัยให้ทีมชาติกรีซคว้าแขมป์ยูโร
ยูโร 2008 หลังจากที่ผิดหวังมาในนัดชิงยูโร 2004 ในยูโรครั้งนี้พวกเขาอยู่กลุ่มเดียวกับตุรกี สาธารณรัฐเช็ก และชาติเจ้าภาพ สวิตเซอร์แลนด์ ในแมตช์แรกพวกเอาชนะตุรกีไป 2-0 ก่อนที่จะมาเอาชนะสาธารณรัฐเช็กไป 3-1 ในแมตช์ถัดมา ก่อนจะแพ้สวิสในแมตช์สุดท้าย 0-2 แมเจะแพ้ในแมตช์สุดท้าย แต่โปรตุเกสเก็บได้ 6 แต้ม สามารถผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ไปพบกับเยอรมนี หนึ่งทีมเต็มของรายการ ซึ่งทีมฝอยทองต้านทานทีมอินทรีเหล็กไม่ได้ โปรตุเกสพ่ายเยอรมนีไป 2-3 โปรตุเกสต้องยุติเส้นทางที่รอบก่อนรองชนะเลิศ
ยูโร 2012 โปรตุเกสมาอยู่ใน Group Of Death ของยูโรครั้งนี้ พวกเขาอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกับเยอรมนี เดนมาร์ก และเนเธอร์แลนด์ ในแมตช์แรกพวกเขาโดนทีมอินทรีเหล็กย้ำแค้นจากยูโร 2008 เฉือนชนะด้วยสกอร์ 1-0 ก่อนที่จะมาเฉือนชนะเดนมาร์กได้ 3-2 ในแมตช์ถัดมา และมาเอาชนะเนเธอร์แลนด์ได้ 2-1 ในแมตช์สุดท้ายจากการเหมา 2 ประตูของ CR7 โปรตุเกสเก็บได้ 6 แต้ม ผ่านเข้ารอบก่อนรองด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม
ในรอบก่อนรองพวกเขาต้องมาเจอกับสาธารณรัฐเช็ก และเป็นโปรตุเกสที่เฉือนชนะไป 1-0 จาก โรนัลโด้ คนเดิม ผ่านเข้ารอบรองไปเจองานหนักทีมแชมป์เก่า สเปน เกมในเวลา 90 นาทีและช่วงต่อเวลาพิเศษทั้งคู่เสมอกัน 0-0 เกมยืดเยื้อมาถึงการดวลจุดโทษ ก่อนที่ทีมกระทิงดุจะเป็นฝ่ายดวลจุดโทษเอาขนะทีมฝอยทองไป ทำให้โปรตุเกสต้องหยุดเส้นทางที่รอบรองชนะเลิศ
ยูโร 2016 หลังจากที่ทำผลงานได้แย่จนตกรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 2014 ในยูโร 2016 ครั้งนี้โปรตุเกสอยู่กลุ่มเดียวกับไอซ์แลนด์ ออสเตรีย และฮังการี่ แน่นอกว่าด้วยตัวผู้เล่นก็ยังทำให้หลายคนมองว่าทัพฝอยทองน่าจะเป็นแชมป์กลุ่มได้ ในแมตช์แรกโปรตุเกสเสมอกับไอซ์แลนด์ 1-1 จากการทำประตูของนานี่ เสมอกับออสเตรียแบบไร้สกอร์ 0-0 ในแมตช์ถัดมา และในแมตช์สุดท้ายเสมอกับฮังการี่ 3-3 จากการทำ 2 ประตูของคริสเตรียโน่ โรนัลโด้ และ นานี่
โปรตุเกสเสมอรวดทั้ง 3 แมตช์ จบอันดับ 3 ของกลุ่ม แต่ในฟุตบอลยูโรครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลยูโรมีการเพิ่มทีมจาก 16 เป็น 24 ทีม ทำให้โปรตุเกสผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด
โปรตุเกสผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด
ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โปรตุเกสต้องมาเจอกับโครเอเชีย เกมในเวลา 90 นาทีเสมอกัน 0-0 ก่อนที่ริคาร์โด้ กวาเรสม่า จะมายิงประตูชัยให้โปรตุเกสเฉือนชนะโครเอเชีย 1-0 ผ่านเข้ารอบก่อนรอง ในรอบก่อนรอง โปรตุเกสต้องมาเจอกับโปแลนด์ โปแลนด์ออกนำไปก่อน 1-0 แต่โปรตุเกสมาตีเสมอ 1-1 ได้จากเรนาโต้ ซานเชส เกมในเวลา 90 นาทีและต่อเวลาพิเศษยังเสมอกันที่ 1-1 ต้องทำการดวลจุดโทษและเป็นโปรตุเกสที่เอาชนะการดวลจุดโทษไป โปรตุเกสต้องมาเจอกับเวลส์ทีมม้ามืดในรอบรอง และโปรตุเกนเอาชนะเวลส์ไป 2-0 จากการทำประตู โรนัลโด้ และนานี่
โปรตุเกสสามารถเข้าชิงแชมป์ฟุตบอลยูโรได้อีกครั้งนับตั้งแต่ปี 2004 แต่สถานะตอนนี้ไม่เหมือนตอนนั้นในปี 2004 พวกเขาเจอกรีซ แต่ในปี 2016 พวกเขาต้องเจอเจ้าภาพ ฝรั่งเศส แน่นอนว่าตัวผู้เล่นโปรตุเกสชุดนี้เป็นรองชุด Golden Generation ในปี 2004 อย่างชัดเจน และเป็นก็ยังเป็นรองฝรั่งเศสอีกด้วย ซ้ำร้ายเกมเริ่มมา 25 นาที คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นักเตะคนสำคัญของโปรตุเกสมีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว
เอแดร์ ฮีโร่ผู้ทำประตูชัยให้ทัพฝอยทองในรอบชิว
เกมในเวลาปกติ โอกาสการทำประตูฝรั่งเศสมากกว่าโปรตุเกสถึง 2 เท่าตัว แต่ยังเสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษ ก่อนที่โปรตุเกสจะมาได้ประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษจากเอแดร์ ช่วยให้โปรตุเกสเฉือนชนะไป 1-0 คว้าแชมป์ฟุตบอลยูโรมาครองได้เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์ โปรตุเกสคว้าแชมป์ยูโรมาครองได้โดยสามารถชนะในเวลาได้เพียงแมตช์เดียว และถ้าหากฟุตบอลยูโรยังมี 16 ทีมเหมือนเดิม ไม่ใช่ 24 ทีม พวกเขาก็จะตกรอบแบ่งกลุ่มไปแล้ว เรียกได้ว่านอกจากความเก่งแล้วมีโชคมาช่วยโปรตุเกสอีกด้วย
โปรตุเกสคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโรสมัยแรกในประวัติศาสตร์
แม้ว่าคริสเตรียโน่ โรนัลโด้จะได้ลงเล่นเพียง 25 นาทีในรอบชิงชนะเลิศ แต่การที่มีส่วนร่วมมากถึง 6 จาก 9 ประตูที่โปรตุเกสทำได้ (ยิง 3 แอสซิสต์ 3) ในฟุตบอลยูโรครั้งนี้ ก็ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้กัปตันทีมชาติโปรตุเกสคว้าบัลลงดอร์ปี 2016 ซึ่งเป็นบัลลงดอร์สมัยที่ 4 ของเจ้าตัวมาครองได้
ยูโร 2020 โปรตุเกสต้องมาป้องกันแชมป์ยูโร และเป็นอีกครั้งที่พวกเขามาอยู่ในกลุ่ม Group Of Death ของรายการ ทีมฝอยทองต้องอยู่ร่วมกลุ่มกับฮังการี่ เยอรมนี แชมป์ฟุตบอลโลก 2014 และ ฝรั่งเศส แชมป์ฟุตบอลโลก 2018 โดยในแมตช์แรกพวกเขาเอาชนะฮังการี่ไปขาดลอย 3-0 ก่อนที่จะมาแพ้ทีมไม้เบื่อไม้เมาอย่างเยอรมนีไป 2-4 ในแมตช์ถัดมาและมาเสมอกับฝรั่งเศส 2-2 ในแมตช์สุดท้าย
โปรตุเกสเก็บได้ 4 แต้มจบอันดับ 3 ของกลุ่ม แต่ได้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมด้วยการเป็นทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด ไปพบกับเบลเยี่ยม ที่ยังอยู่ในยุค Golden Generation และพึ่งจบที่ 3 ฟุตบอลโลก 2018 มาก่อนที่โปรตุเกสจะต้านทานเบลเยี่ยมยุคทองไม่ไหวแพ้ไป 0-1 ป้องกันแชมป์ฟุตบอลยูโรไม่สำเร็จ ทีมฝอยทองยุติเส้นทางที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ถึงจะมีนักเตะระดับโลกมากมาย รวมถึงมีนักเตะระดับบัลลงดอร์ถึง 3 คน แต่ในฟุตบอลยูโร 16 ครั้งที่ผ่านมา โปรตุเกสผ่านเข้ารอบมาเล่นรอบสุดท้ายได้เพียงแค่ 8 ครั้ง หรือเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น โดยใน 10 ตัวเต็งของเรา มีแค่เบลเยี่ยมและโครเอเชีย ที่ผ่านมาเข้าเล่นน้อยกว่าทัพฝอยทอง แต่โปรตุเกสสามารถเข้ารอบน็อคเอาท์ได้ทุกครั้ง เราต้องมาลุ้นครับว่าในเกมบิ๊กคืนนี้ ทีมฝอยทองจะฝ่าด่านอรหันต์ทีมตราไก่ได้หรือไม่
ดิโอโก้ คอสต้า ฮีโร่เซฟ 3 จุดโทษแมตช์พบสโลวีเนีย
จบกันไปแล้วนะครับสำหรับ ซีรีส์ย้อนรอยผลงานในอดีตของ 10 ตัวเต็งแชมป์ฟุตบอลยูโรของพวกเราแม้ว่า อิตาลี่ เดนมาร์ก โครเอเชีย เบลเยี้ยม จะต้องยุติเส้นทางไปแล้วในฟุตบอลยูโรครั้งนี้ เราจะต้องตามลุ้นตามเชียร์กันครับว่า 6 ชาติที่ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ ใครจะคว้าถ้วยยูโรครั้งนี้ไปครอบครอง ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านครับ
ขอบคุณรูปภาพ Photo Credit
Official Facebook Page UEFA Euro 2024
Official Facebook Page Selecoes de Portugal
Official Website UEFA.Com
โฆษณา