เกลือสีชมพู ดียังไง ต่างจากเกลือทั่วไปแค่ไหน ?
นอกจากสีสันที่แตกต่างสวยงามแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่า แล้ว เกลือสีชมพู ดียังไง บอกเลยว่า มีแน่นอน ความแตกต่างอย่างแรก คือ เกลือสีชมพู ไม่ได้ทำจากการตกผลึกเกลือทะเลในนาเกลือ หรือต้มน้ำเกลือที่สูบจากใต้ดินแบบเกลือสินเธาว์ แต่เป็น "หินเกลือ" ที่ขุดจากเหมืองใต้ดินลึกหลายร้อยฟุต ในบริเวณที่ในอดีตเคยเป็นทะเลมาก่อน ซึ่งมีไม่กี่ที่ในโลก เช่น ที่แม่น้ำเมอร์เรย์ในประเทศออสเตรเลีย ที่มาราสในประเทศเปรู แต่บริเวณที่พบมากที่สุดในโลก คือที่ บริเวณเชิงเทือกเขาหิมาลัย ประเทศปากีสถาน โดยเหมืองคิวรา
ซึ่งจากแหล่งที่มาของเกลือสีชพู ทำให้เชื่อว่าเกลือชนิดนี้ มีความบริสุทธิ์กว่าเกลือแกงหรือเกลือทะเลทั่วไป เพราะไม่ได้ผ่านกรรมวิธีการสกัดหรือการกลั่น รวมทั้งไม่มีสารเติมแต่งอื่น ๆ เหมือนกับเกลือแกงที่เราใช้บริโภคทั่วไปที่ผ่านกรรมวิธีหลายขั้นตอน มีสารป้องกันการจับตัวเป็นก้อน ที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่เกลือสีชมพู เป็นเกลือธรรมชาติ แทบไม่ผ่านการแปรรูปหรือเติมแต่งใด ๆ และมีแหล่งผลิตเฉพาะ ที่ขุดขึ้นมาจากเหมืองเกลือผ่านการสกัดด้วยมือเท่านั้น จึงเชื่อว่าจะมีความปลอดภัยและดีต่อสุขภาพมากกว่า
นอกจากนั้น ความแตกต่างของเกลือสีชมพูและเกลือขาวทั่วไป คือ เกลือสีชมพูจะมีปริมาณโซเดียมน้อยกว่าในปริมาณ 1 กรัมเท่ากัน โดยเกลือทั่วไปมีโซเดียม 381 มิลลิกรัม ส่วนเกลือสีชมพู มีโซเดียมน้อยกว่า คือ 368 กรัม แต่รสชาติความเค็มที่ได้นั้น ก็อาจจะไม่แตกต่างกันมาก และจุดแตกต่างที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของเกลือสีชมพู กับเกลือทั่วไปก็คือ “ราคา”
เกลือชมพูมีประโยชน์ตามแร่ธาตุทั้ง 84 ชนิด ดังนี้
ช่วยรักษาสมดุลระดับของเหลวในร่างกาย ป้องกันภาวะขาดน้ำ
ช่วยปรับสมดุลค่าความเป็นกรดด่างในเซลล์ โดยเฉพาะเซลล์สมอง
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและชะลอวัย
ช่วยดูดซึมอนุภาคอาหารในลำไส้
ช่วยควบคุมความดันโลหิต
ช่วยให้กระดูกแข็งแรงและหลอดเลือดแข็งแรง
ช่วยในการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อ
ป้องกันการเกิดภาวะความดันต่ำ
ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อแบคทีเรีย
อย่างไรก็ตาม แร่ธาตุต่าง ๆ ที่พบเพิ่มเติมในเกลือสีชมพู ที่แตกต่างจากเกลือทั่วไปนั้น ก็มีสัดส่วนเพียง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ส่วนที่เหลืออีก 98% ก็คือโซเดียมคลอไรด์ หรือเกลือทั่วไป
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
