10 ก.ค. เวลา 02:30 • การศึกษา

⭐บางส่วนจากมันสมองของ “ลินซ์”

หากต้องกล่าวถึงใครสักคน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือนักลงทุนวีไอ (VI : Value Investor) ผู้ยิ่งใหญ่อันดับต้นๆในประวัติศาสตร์แห่งโลกการลงทุน "ปีเตอร์ ลินซ์" (Peter Lynch) คือหนึ่งในบุคคลที่ผู้เขียนนึกถึงเสมอ นักลงทุนชาวไทยมือเก๋าซึ่งโลดแล่นอยู่ในวงการตลาดหุ้นมายาวนานคงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก
แต่สำหรับ "นักลงทุนหุ้นมือใหม่" อาจไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเกียรติศัพท์ของ “ลินซ์” มาก่อน และคงมิใช่การกล่าวเกินความจริงไปนัก ถ้าหากจะเปรียบว่าเขาคือ "ครู" หรือแม้กระทั่ง "ศาสดา" ด้านการลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) ที่เหล่านักลงทุนวีไอทั่วโลกให้การยอมรับนับถือในความสามารถมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ และยากเกินกว่าที่ใครจะขึ้นมาทัดเทียม
🔥‘ปีเตอร์ ลินซ์’ เกิดเมื่อปี ค.ศ.1944 และสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะผู้จัดการกองทุน "ฟิเดลลิตี้ แมคเจลลัน" (Fidelity Magellan) ในสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางความรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมการเงินระหว่างปี ค.ศ.1977 - 1990 ก่อนที่เขาจะเกษียณอายุตนเองออกจากเส้นทางนักลงทุนไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพื่อใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตอยู่กับครอบครัวซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา และฝากฝังผลงานการบริหารจัดการกองทุนอันยอดเยี่ยมไว้เป็นอนุสรณ์เบื้องหลัง
📈ลินซ์ได้สร้างสถิติอัตราผลตอบแทนทบต้นโดยเฉลี่ยได้ถึง 29.20% ต่อปี เป็นระยะเวลานาน 13 ปีติดต่อกันตลอดช่วงเวลาที่เขากุมบังเหียนบริหารกองทุนฟิเดลลิตี้ และสถิตินี้ยังคงเป็นประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งแห่งโลกการลงทุนตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
ด้วยความสามารถปราดเปรื่องดังที่กล่าวมาของ ‘ปีเตอร์ ลินซ์’ คงจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยสำหรับ "นักลงทุนหุ้นมือใหม่" ที่จะได้สัมผัสกับตำนานแห่งนักลงทุนวีไอคนนี้ให้มากขึ้นอีกสักหน่อย
คงจะเป็นการดีไม่น้อยที่เหล่ามือใหม่จะได้เริ่มต้นศึกษากระบวนการลงทุนซึ่งสำคัญและเป็นเรื่องพื้นฐานที่สุด นั่นคือ “การปรับทัศนคติ (Mindset)” ก่อนจะก้าวกระโดดเข้าสู่สนามรบจริงอันแสนโหดร้าย ทัศนคตินั้นสำคัญเป็นอย่างมากต่อการเริ่มต้นกระบวนการศึกษาของทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตมนุษย์ สำคัญเสียยิ่งกว่าการเรียนรู้วิธีซื้อขายหุ้นเสียอีก
บทความนี้จะค่อยๆนำพาคุณผู้อ่านเข้าไปทำความรู้จักกับแนวคิดด้านการลงทุนในหุ้นของ‘ปีเตอร์ ลินซ์’ ที่ถูกทบทวน กลั่นกรอง และตกผลึกมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ ผ่านประสบกาณ์อันโชกโชนของเขา นำมาบอกเล่าต่อแบบกระชับรวบรัด ให้เข้าใจได้อย่างง่ายดายกันครับ
🟢 หากคุณเตรียมพร้อมที่จะเข้าลงทุนในบริษัทใดก็ตาม คุณต้องสามารถอธิบายภาพรวมทั้งหมดของโครงสร้างทางธุรกิจนั้นได้ด้วยภาษาง่ายๆ และรวดเร็วพอที่จะพูดให้เด็กฟังอย่างเข้าใจ ไม่เบื่อหน่ายไปเสียก่อน “ความเชี่ยวชาญนั้นไม่สามารถวัดผลได้จากความพยายามในการศึกษาและอธิบายเรื่องยากๆ แต่สามารถวัดผลได้จากการทำให้ความยากและซับซ้อนดังกล่าวนั้นหายไป เมื่อคุณจำเป็นต้องอธิบายถึงมัน”
🟢 การเดินเข้าไปยังร้านค้าและทดลองใช้สินค้าของบริษัทซึ่งคุณกำลังสนใจลงทุน คือสิ่งสำคัญที่สุดในการวิเคราะห์ธุรกิจ (Scuttlebutt) ยังมีอีกหลากหลายวิธีการซึ่งจะทำให้คุณได้ “ข้อมูลวงใน” มาไว้ในครอบครอง
เช่น การพูดคุยกับผู้บริหาร พนักงาน กลุ่มลูกค้า การลงพื้นที่ไปสังเกตการณ์ทั้งจากฝั่งบริษัทที่คุณสนใจและคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันกับพวกเขา การพยายามทำสิ่งเหล่านี้นั้นจะทำให้คุณได้รับรู้ข้อมูลบางอย่างที่อาจไม่ปรากฏอยู่ในสื่ออื่นๆ ซึ่งมันจะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการตัดสินใจลงทุนของคุณอย่างแน่นอน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
🟢 การศึกษาประวัติศาสตร์และปรัชญา มีประโยชน์สำหรับการลงทุนหุ้น แน่นอนว่าการจะเป็นนักลงทุนที่ดีได้นั้นคุณจำเป็นต้องมีความรอบรู้ในด้านอื่นบ้าง มิใช่เฉพาะเรื่องการเงินหรือการลงทุนเพียงด้านเดียวเท่านั้น
ประวัติศาสตร์และปรัชญาคือเรื่องราวของ “มนุษย์และสังคม” เชื่อมโยงทั้งทางด้านร่างกาย ความสัมพันธ์ และความรู้สึกนึกคิดภายในจิตใจ ซึ่งธุรกิจทั้งหลายทั้งปวงไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ที่ถือกำเนิดขึ้นแล้วและกำลังจะถือกำเนิดขึ้นต่อไปบนโลกใบนี้ ล้วนมีจุดเริ่มต้น กระบวนการ และเป้าหมายเพื่อตอบสนองเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมด
🟢 คณิตศาสตร์ที่จำเป็นต้องใช้เพื่อคำนวณตัวเลขต่างๆในตลาดหุ้นนั้นเป็นเพียงการคำนวณหาค่าพื้นฐานอย่างง่ายๆเท่านั้น หากคุณได้ทำการบ้านมาอย่างดี มีการวิเคราะห์เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพมาอย่างเพียงพอ การใช้คณิตศาสตร์ในตลาดหุ้น เช่น การคาดการณ์รายได้หรือกำไรของบริษัทจดทะเบียน และการประเมิลมูลค่าพื้นฐานที่เหมาะสมนั้น วิชาเลขระดับมัธยมปลายคงเพียงพอแล้วสำหรับการค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ เพื่อสร้างความถูกต้องและความมั่นใจในกระบวนการลงทุน
“การคำนวณอะไรที่ซับซ้อนยุ่งยากเกินไปกว่านี้ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของนักวิชาการ มันไม่ใช่เรื่องของนักลงทุน”
🟢 ข่าวสารมากมายตามสื่อต่างๆที่คุณได้ยินและได้เห็นในทุกวันนี้ ส่วนใหญ่แล้วมีแต่จะทำให้การลงทุนของคุณแย่ลง เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะมันเต็มไปด้วยความคิดเห็นที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แล้วจะมีประโยชน์อันใดเล่าที่คุณจะเสียเวลาไปกับข่าวสารเหล่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดมิใช่การพยายามปิดหูปิดตา แต่คือ “การฝึกฝนตนเองเพื่อแยะแยกให้ได้ว่าอะไรคือข้อคิดเห็นและอะไรคือข้อเท็จจริง”
🟢 เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะชอบทำอะไรที่ “เสี่ยงและสนุก” : จงมีสติอยู่เสมอ ไม่ว่าจะในฐานะนักลงทุน หรือฐานะมนุษย์คนหนึ่งในสังคมของคุณก็ตาม อย่าลืมนึกถึงผลลัพธ์ที่คล้ายเงาเดินตามติดแผ่นหลังคุณมาไม่ห่าง ไม่ว่าจะในทิศทางบวกหรือทางลบ
🟢 ในโลกธุรกิจ ถ้าคุณเก่ง คุณจะทำถูก 6 ใน 10 ครั้ง ไม่มีใครทำถูก 9 ใน 10 ครั้งแน่นอน และการแข่งขันมันไม่สนุกหรอก แต่สนุกที่สุดคือ “การกินรวบ (ผูกขาดทางธุรกิจ)” ปรากฎการณ์ “Winner Take All” คือจุดสูงสุดของระบบทุนนิยม มันพร้อมที่จะสร้างความมั่งคั่งอย่างมหาศาล และในทางกลับกัน มันก็สามารถทำลายชีวิตคุณได้ตลอดเวลา จงเตรียมตัวให้พร้อมไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนหรือนักธุรกิจก็ตาม
🟢 หุ้นไม่ใช่การเสี่ยงโชค มันมีธุรกิจอยู่เบื้องหลัง ผู้คนส่วนใหญ่มองการลงทุนในหุ้นอย่างฉาบฉวยเพียงแค่ ตัวอักษรย่อภาษาอังกฤษ ตัวเลขสีเขียว สีแดง หรือเส้นกราฟวิ่งไปมาขึ้นๆลงๆ หลักฐานทางประวัติศาสตร์การเงินนั้นถูกพิสูจน์มาเป็นศตวรรษแล้วว่า ผู้ที่มองอะไรแบบผิวเผินและฉาบฉวยเช่นนี้ ไม่เคยมีแม้แต่ที่ยืนหลงเหลืออยู่ในวงการเลยสักคนเดียว อย่าได้แม้แต่จะคิดถึงเรื่องความมั่งคั่งร่ำรวยเลย หากคุณเผลอไผลคิดเช่นนี้เพียงเสี้ยววินาทีเดียวนั้นไซร้ หายนะทางการลงทุนก็พร้อมจะกระแทกเข้าใส่ใบหน้าของคุณทันทีไม่ช้าก็เร็ว
“หุ้นคือส่วนหนึ่งของธุรกิจ คือส่วนความเป็นเจ้าของกิจการที่มีมนุษย์อยู่เบื้องหลัง” เพียงเริ่มต้นจากความคิดที่ว่า “ลงทุนหุ้นให้เหมือนทำธุรกิจ” เพียงเท่านี้คุณก็ชนะนักลงทุนกว่า 80% ในตลาดแล้ว
🟢 การขาดทุนหุ้นไม่ใช่เรื่องน่าอาย ที่น่าอายคือการถือหุ้นแย่ๆไว้ แล้วยังไปซื้อเพิ่มในตอนที่พื้นฐานกำลังแย่ลงไปอีก จงศึกษาพื้นฐานทางธุรกิจทั้งในเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ ทั้งลักษณะการประกอบธุรกิจ ภาวะเศรษฐกิจ ผู้บริหาร และงบการเงินอย่างลึกซึ้ง การทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้จะช่วยให้คุณตอบคำถามในใจได้อย่างเด็ดขาดว่าพื้นฐานของหุ้นที่คุณครอบครองอยู่นั้นดีขึ้นหรือกำลังแย่ลง
🟢 การมีหุ้นก็เหมือนกับการมีลูก อย่ามีมากเกินไปจนดูแลไม่ไหว ถ้าหากคุณยังไม่พบหุ้นที่น่าสนใจมากเพียงพอ จงเก็บเงินสดเอาไว้ก่อน จนกว่าจะหาสิ่งที่ดีที่สุดเจอ การลงทุนอะไรก็ตาม มิใช่เพียงสักแต่ว่าได้ครอบครองมันไว้ แต่ต้องคุ้มค่าพอที่จะครอบครองด้วย จงคำนึงถึงความรู้ ความเข้าใจที่คุณมี ความเสี่ยง ผลตอบแทน และค่าเสียโอกาสเสมอ
🟢 คนที่ขยันสืบเสาะหาหุ้นที่ดีตลอดเวลาคือผู้ชนะในตลาดหุ้น คนที่ขยัน ทุ่มเทพยายาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม หากแม้ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งผู้ชนะ แต่ก็จะสามารถยืนอยู่ในจุดที่ตนเองต้องการอย่างมีคุณค่าได้เสมอ
🟢 การนั่งวิเคราะห์ถกเถียงเรื่องการลงทุนนั้นไม่มีประโยชน์ “ดีที่สุดคือ การลงมือทำ” นั่นหมายถึงมันไม่มีประโยชน์ที่คุณจะนั่งคิดตลอดเวลาว่าคุณควรทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ แล้วสุดท้ายชีวิตคุณก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยทั้งในด้านดีและด้านแย่
🟢 หากคุณประสบความสำเร็จในการลงทุนแล้ว เมื่อเดินทางมาถึงจุดหนึ่ง คุณจะมีทางเลือกอยู่สองทาง หนึ่งคือ เป็นทาสของเงินโดยการหมกมุ่นกับการทำให้เงินงอกเงยมากขึ้นเรื่อยๆ หรือสองคือ ปล่อยให้เงินที่คุณหามาได้นั้นรับใช้คุณ นี่อาจเป็นข้อที่คุณอยากมีโอกาสได้นั่งขบคิดถึงมันอย่างจริงจังดูสักครั้งในชีวิต ฟังดูเหมือนง่าย แต่อำนาจเงินนั้นช่างมีแรงดึงดูดอย่างมหาศาล ใครเล่าจะล่วงรู้อนาคตว่าหากประสบความสำเร็จแล้ว คุณจะเป็นผู้มั่งคั่งประเภทใด
การได้ลองนั่งลงคิดอย่างช้าๆ แล้วออกแบบชีวิตคุณเสียแต่เนิ่นๆ คงไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือเสียเวลาอะไรมากมาย จงวางแผนเพื่อจะเป็นมนุษย์ในแบบที่คุณอยากเป็น และเฝ้ารอให้วันนั้นมาถึง นี่อาจเป็นสายน้ำทิพย์ชโลมจิตใจคุณเพื่อการก้าวเดินอย่างมั่นคงในเส้นทางการเป็นนักลงทุนในตำนานอันแสนยาวไกล
📍ข้อคิดและบทเรียนดังกล่าวนี้ เป็นเพียงส่วนเสี้ยวหนึ่งที่ตกผลึกมาจากแนวคิดของ ‘ปีเตอร์ ลินซ์’ เท่านั้น ซึ่งต่อให้กาลเวลาผ่านล่วงเลยมานานเพียงใด จนถึงปัจจุบัน ข้อคิดเหล่านี้ยังคงมีคุณค่าและใช้ได้ผลจริงในตลาดหุ้น ทุกพื้นที่ ทุกยุคสมัย รวมถึงการลงทุนด้านอื่นๆในทุกรูปแบบเป็นอย่างดีเสมอมา ซึ่งถูกพิสูจน์ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์มาแล้วอย่างยาวนานโดยนักลงทุนวีไอรุ่นหลังที่ประสบความสำเร็จกับการเดินตามรอยเท้าของ ‘ลินซ์’
และที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันคือ การปรับเปลี่ยนแนวทางบางอย่างให้ย้อนกลับมาเป็น "เอกลักษณ์และรอยเท้าของตนเอง"
ยังมีแนวคิดอีกจำนวนมหาศาลในด้านการลงทุนหุ้นที่มือใหม่อย่างเราจำเป็นต้องเรียนรู้ ค่อยๆพยายามอย่างมุ่งมั่น ศึกษาทบทวน วิเคราะห์วางแผน และลงมือทำอย่างมีวินัยไปพร้อมๆกันนะครับ
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊
ขอขอบคุณ บางส่วนจากมันสมองของ “ลินซ์”
โฆษณา