25 ก.ค. เวลา 16:07 • ความคิดเห็น
กาลเวลามันเดินหน้าตลอด เราผ่านเรื่องราวอะไรต่างมา เวลานั้นมันมีความสุขมั้ย แล้วเราก็ผ่านมาถึงปัจจุบัน ตื่นขึ้นมา ลืมตา ..เราก็ไปหาอะไรกิน ..เพิ่มเติมเข้าไป เราคงไม่ไปเอาอาหารที่เก็บมาหลายวัน เอามากินอีก
.อาหารที่เก็บไว้ หลายวันมันน่ากินมั้ยล่ะ กินแล้วมีความสุข หากเราไปเอาอาหารเก่าขึ้นมากิน ..อารมณ์อดีตที่มันผ่านมา .มันก็เหมือนอาหารเก่าๆ ที่มันเก็บไว้ เราไปนึกถึง ..อาหารเก่าๆนั้นมันก็ผุดขึ้นมา ..เรื่องนั้นเรื่องนี้ ..คิดเรื่องอาหารเก่ามันมีความสุขมั้ย ..เรายึดเรื่องเก่าๆ ที่ผ่านมา ..มันมีความสุขมั้ย ..
เรื่องอดีตที่ผ่านมา มันก็เหมือนอาหารที่เก็บไว้จนมันบูดเน่า ..ไปนึกถึงมัน ..ของเสียอารมณ์ อารมณ์บูเน่า หน้าตาบึ้งตึง ..มันมีความสุขมั้ย นึกขึ้นมา ก็เหมือนไปเรียกร้อง อารมณ์กรรม มาซ้ำมากระทืบจิตของตัวเอง ให้ไม่มีความสุข .ยิ่งนึก ..มันก็ยิ่งยุ อารมณ์ในตัวตนให้มันผุดขึ้นมา ฮาฆาตจองเวร ..ใครกันที่จะไม่มีความสุข จิตของใครกัน ที่จะถูกทำลาย ..ไม่มีความสุข
หากเราให้อภัยใครเค้าไม่ได้ เราให้อภัยเค้า เราก็เหมือนให้อภัยตัวเราเอง ปลดเปลื้องอารมณ์นั่นไป ทิ้งมันไป ..เอาเวลา..เหมือนเราตื่นขึ้นมา วันใหม่ ..เราก็เกิดใหม่ ..อีกวันหนึ่ง ..คือ ทำในสิ่งที่เรามีเรื่องที่ต้องดูแลตัวเรา รับผิดชอบตัวเอง ว่าเราจะทำอะไรให้มันดีขึ้น อารมณ์จิตใจเราดี
เราก็สติมีปัญญา ..เราก็เรียบเรียงเหตุผลขึ้นมา ..ไม่มีใครช่วยเราได้ ..ในเรื่องอารมณ์นึกคิด มันไม่เหมือนอาหารที่เรากิน ของมันใจตาดูได้ แต่เรื่องในกายอารมณ์นึกคิด ที่เหมือนจมปลักโคลน บางที่เค้าก็เรียกว่า ปลักควาย ..เราก็ต้องค่อยๆ ถอยมันออกมา ทิ่งมันไป ไปนึกคิดถึงมัน ก็เหมือนเราเอาอาหารเก่าๆ ของบูดของเน่าเอามากิน เรืองนี้เราก็ต้องช่วยตัวเอง
แล้วเราจะใช้วิธีไหนดี .ปู่ชีวก ท่านเคยบอกว่า ยาที่ดีที่สุด คือ ยาเม็ดสี่ขนานขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สามารถจะแก้ไขได้ พระองคุลมาร ท่านก็ใช้ยานี้ แก้ไขจิตของท่านได้สำเร็จ แต่เราว่า คนรุ่นใหม่ เค้าไม่ชิิบยาสี่ขนานนี้หรอก
เรื่องทำนองนี้ มีลูกน้องเราคนหนึ่ง ..มันชอบคืดนึกอย่างนี้ ทำนองนี้ เราว่า ที่มันเป็นอย่างนี้ คิดจมปลักควายอย่างนี้ มันเหมือนกินของบูดเน่าจมปลักควาย มันร้องห่มร้องไห้ ไปฟ้องอีกคน หาว่าเราว่ามันเป็นควาย ..เราก็ได้ว่า อ้อ..มันไม่มีสติปัญญา เหมือนควายเลยที่ชอบคลุกปลักควาย
.
โฆษณา