บอลลูนโอลิมปิก Paris 2024
▪️ ผ่านไปกับพิธีเปิดโอลิมปิกที่หอแต๋วแตก แหวกแม่น้ำแซนกลางกรุงปารีส ทั้งนักแสดง Drag Queen ทั้ง LGBTQ ที่จัดเต็มทุกฉาก รวมทั้งคุณ Bacchus หรือ God of Grapes ตัวสีฟ้ากับกางเกงในตัวสั้นจู๋ ที่เลียบเคียงไปกับ The Last Supper จนถูกถอนสปอนเซอร์ และได้ร้อง "Can you hear the sponsor sang ? แทน "Can you hear the people sing? ที่คุ้นเคย
▪️
▪️เมื่อบวกกับวงร๊อคดังของเจ้าภาพ Gojira ที่เขย่ากรีดลีดส์กีต้าร์ กับฉากปฎิวัติฝรั่งเศส ที่มีผีหัวขาดของพระนางมารี อ็องตัวแน็ต ที่ตบจบด้วยพลุสีแดงพุ่งออกมาจากตัวตึก ไม่ต่างสีเลือดพุ่งกระฉูดสุดร้อนแรง
▪️Joan of Arc▪️
▪️นับว่าเจ้าภาพยังปราณี ที่ไม่เข็นเอากีโยติน ที่ตัดคอผู้คนไปกว่าสองหมื่น บ้างว่าไกลถึงสี่หมื่น ในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส มาเล่นด้วยงานนี้ เพราะถ้ามีฉากกีโยติน ก็ห้ามพลาดต้องนำฉาก "รอแบ็สปีแยร์" ที่ยิงตัวตายหนีความผิดแต่พลาดทะลุแก้ม กับ "ฌอร์น ด็องตง" คู่หูที่หัวกุดเพราะกิโยตินเช่นกัน
▪️ Napoleon Tomb▪️
▪️ Josephine Bonaparte Tomb▪️
▪️สุดท้ายก็ต้องเน้นภาพลักษณ์แห่งเสรีภาพ ความเสมอภาคและความเท่าเทียม ที่ดูมุมไหนๆก็ดูสวนทางกับกระทำในหลายมุมโลก ของเจ้าภาพโอลิมปิกหนนี้เสียจริงๆ▪️️และยังดีอีกนิดที่ไม่พา Napoleon ออกมาจาก The Dôme des Invalides ที่ฝังศพออกมาควบม้าเหล็กกลางแม่น้ำ เพราะแม้โปเลียนท่านจะเป็นยอดนักรบ ทำสงครามและชนะในสมรภูมิรบ ด้วยสถิติมามากกว่าใครในโลกมนุษย์นี้แล้ว
▪️ Trafalgar Square▪️
▪️แต่สุดท้ายก็เจออังกฤษของนายพล Nelson จมกองเรือฝรั่งเศส (+สเปน) เสียเกลี้ยงทะเลที่ Trafalgar ก่อนทัพบกของ Napoleon จะถูกปิดกล่องด้วยมือนายพล Wellington ที่ Waterloo แต่ยังแอบเห็นหมวกทรงนโปเลียน ถูกตบแต่งสวมใส่อยู่ในฉากจักรยาน BMX ผาดโผน
▪️Duke of Wellington▪️
▪️🔻Duke of Wellington ขณะเข้าชมร่างจำลอง Napoleon Bonaparte : Poster เจ้าฟ้ามหิดลฯ▪️
▪️ส่วนหนูตัวโตที่วิ่งผ่านตา เมื่อเด็กๆรับคบไฟจาก Zinedine Zidane แล้วเดินลงไปที่สุสานโบราณใต้กรุงปารีส นั่นก็เป็นอีกเรื่องแสนหดหู่ ชัดเจนมาจากยุคคละคลุ้งไปด้วยกาฬโรค ที่ล้มตายกันไปถึงครึ่งทวีป
▫️▪️▫️
▪️ส่วนคบเพลิงเปิดงาน ในรูปแบบของลูกบอลลูนพร้อมเตาไฟที่ลอยขึ้นเหนือ Tuileries Gardens มีประวัติจาก hot air balloon ของสองพี่น้อง Montgolfier (มงต์โกลฟิเอร์) ชาวฝรั่งเศสที่คิดค้น Montgolfière Hot Air Balloon ไว้เมื่อเกือบ 250 ปีก่อน
▫️▪️▫️
▪️เป็นการค้นพบแบบนักสังเกตุ ที่ราวตากผ้าที่หลังบ้านตัวเอง บวกความเป็นนักคิดและรักการทดลอง สองพี่น้องสร้างบอลลูนให้ลอยขึ้นได้จากไอความร้อน โดยเริ่มจากขนาดเล็กๆ และทดลองขึ้นบินได้ในระยะไม่ไกลนักแถวบ้านเกิด
▪️
▫️▪️▫️
▪️
▪️จนได้มีโอกาสสร้าง hot air balloon พร้อมลวดลายสีสันสไตล์หลุยส์ ที่มีดวงตราพระอาทิตย์ (The Sun King) และขึ้นบินให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ชมที่พระราชวังแวร์ซายส์
▪️
️▪️ก่อนจะขึ้นบินพร้อมมีผู้โดยสารจริงเป็นครั้งแรกของโลก ณ ตำแหน่งเดียวกับที่ hot air balloon ของโอลิมปิกหนนี้ ถูกจุดและปล่อยลอยขึ้น ตรง Tuileries Gardens คราวนี้
▪️
▪️การล่องลอยขึ้นสู่ผืนฟ้าของ Montgolfière hot air balloon สร้างแรงบันดาลใจในหลายทิศ และที่ชัดเจนมากที่สุดหนึ่งก็คือ อมตะนิยายแนววิทยาศาสตร์หลายเรื่องของ Jules Verne ทั้ง 80 Days Around the World
▫️▪️▫️
▪️รวมถึง The Mysterious Island และ Five Weeks in a Balloon ที่ล้วนมี hot air balloon ลอยเด่นอยู่ในท้องเรื่อง และที่สำคัญหลายสิ่งในจินตนาการวันนั้นของนิยาย ได้กลายเป็นจริงไปแล้วทั้งสิ้น รวมถึงการไปถึงดวงจันทร์ของมนุษย์
▫️▪️▫️
▪️สรุปพ้นจาก Hot Air Balloon กับ scene ที่มีพิพิธภัณฑ์อย่าง Louvre และ Musee d'Orsay อดีตสถานีรถไฟเก่า และเคยเป็นสถานที่จัด World Expo ที่เขมรยุคพระนโรดมพรหมบริรักษ์ สร้างความน่ารำคาญให้สยามไว้ในสมัย ร.5 และปูทางให้ตัวเองเดินเข้าสู่อาณานิคมฝรั่งเศส
▪️
▪️Musee d'Orsay▪️
▪️พ้นจากนั้น ผมไม่ประทับใจอะไรนักกับพิธีเปิดหนนี้เสียเลย ยิ่งเมื่อเทียบกับ Beijing Olympic หรือ London Olympic รวมถึงที่ชาวญี่ปุ่นจัด Tokyo Olympic ที่ต้องเลื่อนมากว่าปีและต้องจัดชนิดไร้คนดู แบบขาดทุนป่นปี้เพราะพิษโควิดถล่มโลก แต่ลูกหลานซามูไร ก็จัด Olympic ได้อย่างสวยงาม มีเกียรติ และยิ่งใหญ่ สมราคา Made in Japan ไว้อย่างน่าศรัทธา
▪️Musee d'Orsay▪️
📸 Photos taken by Tui Kajondej
ยกเว้นที่มีเครื่องหมาย ▫️▪️▫️ระบุไว้
⭕ มหาวิหารน็อทร์-ดาม
🌸 เขียนทุกเรื่องด้วยความสนุก เพื่อความสุขของผู้เขียน ไว้สะสมเรื่องเขียนตรงนี้ 🌸
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
