30 ก.ค. เวลา 15:49 • ประวัติศาสตร์

ข้าวหมก-paella

+++อาหารประจำชาติของชาวสเปนซึ่งเป็นการถ่ายทอดที่วัฒนธรรมของมาจากมุสลิม แล้วมุสลิมมาเกี่ยวกับสเปนได้ยังไง
.
.
+++เรื่องมันมีอยู่ว่า 
เมื่อสมัยโน้นนนน คาบสมุทรไอบีเรียปกครองโดยชาว"วีสิกอธ" (Visigothic) ช่วงศตวรรษที่5-8 เป็นเวลากว่า250ปี (ชาววิสิกอธเนี่ยเป็นชนชาติเยอรมันที่อยู่แถบๆตอนใต้ของฝรั่งเศสแล้วค่อยขยายอาณาจักรลงมาที่คาบสมุทรไอบีเรียในยุคที่จักรวรรดิไบแซนไทน์ (Byzantine Empire) ล่มสลายแล้ว)
Theodoric I กษัตริย์ธีออโดริคแห่งวีสิกอธ ผู้ที่ J.R.R Tolkien นำไปสร้างเป็นตัวละครกษัตริย์เธโอเดนแห่งโรฮาน
.
+++ในขณะเดียวกันในโลกมุสลิมมีราชวงศ์อุมัยยะฮ์ ปกครองอาณาจักรตั้งแต่เปอร์เซียยันโมร็อกโค ในชื่อ"รัฐเคาะลีฟะฮ์อุมัยยะฮ์" (Umayyad Caliphate) มีเมืองหลวงอยู่ที่ดามัสกัส (Damascus)
มัสยิดอุมัยยะฮ์แห่งดามัสกัส
.
+++เรื่องราวการเข้ายึดของราชวงศ์อุมัยยะฮ์ เริ่มต้นเมื่อ 
ในปี ค.ศ 711 จูเลียน เคานต์แห่งเซอร์ตา (Julian, Count of Ceuta) ชาววิสิกอธได้เดินทางไปยังเมือง"ก็อยเราะวาน"(Kairouan) *เป็นอ่านแบบภาษาเปอเซียคือคาราวาน แปลว่ากองทหาร* (ตูนิเซีย) เพื่อขอความช่วยเหลือจาก มูซา บิน นุซัยร์ (Musa ibn Nusayr) ผู้ปกครองและแม่ทัพแอฟริกาเหนือ ของราชวงศ์อุมัยยะฮ์แห่งนครดามัสกัส  เพราะมีความแตกแยกทางสังคมและการกดขี่ข่มเหงจากจากระบบศักดินาของกษัตริย์วิสิกอธ"โรเดอริค" (Roderic)
มัสยิดใหญ่แห่งอัลก็อยเราะวาน ตูนิเซีย
.
+++มูซาจึงตอบรับคำช่วยเหลือของจูเลียนโดยส่งกองทหารจำนวน 7,000-9,000 นาย ข้ามทะเลไปยังคาบสมุทรไอบีเรีย โดยให้ "ฏอริก บิน ซิยาด" (Tariq bin Ziyad) ชาวเบอร์เบอร์(ชนเผ่าหนึ่งในแอฟริกาเหนือ) เป็นแม่ทัพ
ฏอริกได้ยกพลขึ้นบกที่ชายหาดซึ่งมีหน้าผาสูง ซึ่งต่อมาได้ตั้งชื่อตามชื่อของเขาว่า "ญะบัล อัฏ-ฏอริก" (Jabel At-Tariq) แปลว่า ภูเขาของฏอริก ซึ่งปัจจุบันก็คือ "ยิบรอลตา" นั่นเอง
.
+++กองทัพของฏอริกได้ต่อสู้กับกองทัพวิสิกอธที่บัญชาการโดยกษัตริย์โรเดอริค ซึ่งมีทหารจำนวน 20,000-35,000 นาย ที่แม่น้ำกัวดาเลต (ปัจจุบันอยู่บริเวณเมืองคาดิซ Cádiz) แม้กองทัพของฏอริกจะมีจำนวนน้อยกว่าแต่ก็สามารถชนะกองทัพวิสิกอธอย่างเด็ดขาด กษัตริย์โรเดอริค กษัตริย์องค์สุดท้ายของวิสิกอธ สิ้นพระชนม์ในสมรภูมิ (Battle of Guadalete)
กษัตริย์โรเดอริค ในสมรภูมิกัวดาเลต
.
+++ทำให้พวกวิสิกอธต้องถอยร่นขึ้นไปทางเหนือในแคว้นอัสตูเรียส(Asturias)ไปชายฝั่งเหนือสุดเลยทีเดียวและสามารถรัฐเคาะลีฟะฮ์อุมัยยะฮ์ก่อตั้งอาณาจักรเล็กๆได้ นับตั้งแต่นั้นสเปนจึงถูกปกครองโดยมุสลิมเป็นต้นมา
รัฐเคาะลีฟะฮ์อุมัยยะฮ์ เกือบบุกเข้าสู่ฝรั่งเศสได้แต่ถูกสกัดโดย"ชาร์ล มาร์แตล" (Charles Martel) กษัตริย์จอมโหดชาวแฟรงค์แห่งตระกูลคาโรลิงเจียน (House of Carolingians) ที่สมรภูมิเมืองตูร์ (Battle of Tours)
ชาร์ล มาร์แตล ในสมรภูมิเมืองตูร์
.
+++รัฐเคาะลีฟะฮ์อุมัยยะฮ์จึงโดนหยุดไว้แค่ที่สเปน
แต่อย่างไรก็ตาม"อัล-อันดาลูส" (ชื่อที่มุสลิมจึงเรียกดินแดนแห่งนี้Al-Andalus) ก็ไม่ได้เจริญรุ่งเรืองมากนักด้วยความขัดแย้งภายใน,การปกครองและสงครามกลางเมือง
จนกระทั่งเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองสุดขีด 
.
+++ในปีค.ศ.750 โลกมุสลิมได้เปลี่ยนการปกครองใหม่ ราชวงศ์อุมัยยะฮ์ ที่มีเมืองหลวงอยู่ที่นครดามัสกัส ได้ถูกเปลี่ยนมือไปอยู่กับ"รัฐเคาะลีฟะฮ์อับบาซียะฮ์" (The Abbasid Caliphate) ซึ่งมีเมืองหลวงอันยิ่งใหญ่และเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อเส้นทางสายไหม นั่นคือนครแบกแดด (Baghdad)
นครแบกแดดในยุคเฟื่องฟู เสียดายที่พลาดท่าให้กับทัพมองโกลในเวลาต่อมา
.
+++การเปลี่ยนอำนาจมีผลให้ราชวงศ์อุมัยยะฮ์ถูกสังหาร แต่มีชายคนหนึ่งสามารถหนีรอดไปได้ (ราวกับนิยาย) เขาผู้นั้นคือ"เจ้าชายอับดุลเราะห์มาน บิน มุอาวิยะฮ์ บิน ฮิชัม" (Abd al-Rahman ibn Mu'awiya ibn Hisham) อับดุรเราะห์มานสามารถหลบหนีออกจากดามัสกัสได้โดยความช่วยเหลือของชนเผ่าเร่ร่อน "เบดูอิน" เขาได้เดินทางไปยังปาเลสไตน์ ข้ามทะเลทรายอียิปต์ และเข้าไปยังอัล-อันดาลูส
1
============================================================
ลองดู (พร้อมส่ง) หอยแมลงภู่(กก) บรรจุ1กก/แพ็ก ในราคา ฿120 ที่ Shopee https://s.shopee.co.th/50F62NjURs
============================================================
+++เขาจึงถูกขนานนามว่า "อัดดาคิล" (Al-Dakhil หมายถึงผู้ที่เข้ามา) และความช่วยเหลือจากพวกเบอร์เบอร์ (Berber) เขาได้โค่นล้ม ยูซุฟ อัล-ฟิฮ์ริ (Yusuf al-Fihri) ผู้ปกครองของอัล-อันดาลูสลง และสถาปนาการปกครองใหม่ขึ้นให้เป็นปึกแผ่น ยุคแห่งความวุ่นวายของอันดาลูสจึงจบลง
.
+++อับดุรเราะห์มานได้ก่อสร้างเมืองหลวงของอันดาลูสขึ้นมาใหม่ นั่นคือ "คอร์โดบา" (Córdoba) และสถาปนา"ราชวงศ์อุมัยยะฮ์แห่งกุรฏุบะฮ์"(Umayyad Emirate of Córdoba) ขึ้น ในปี ค.ศ.756 โดยเรียกตำแหน่งผู้ปกครองว่า "อะมีร์" (Emir แปลว่า เจ้าชาย) เขาได้แสดงให้เห็นถึงการปกครองที่มีความสามารถและประสิทธิภาพ เขายังได้จัดระบบกฎหมายและระบบยุติธรรมขึ้นใหม่ รูปแบบการจัดการที่ดินซึ่งไม่เหมือนในยุโรปซึ่งใช้การล่าที่ดินแต่ใช้การเช่าและปันส่วนแบ่งผลผลิต(Feudalism) รวมถึงอุปถัมป์การศึกษาและวิชาความรู้อีกด้วย
เจ้าชายอับดุลเราะห์มานที่1ในนครกุรฏุบะฮ์ (คอโดบา)
.
+++"คอร์โดบา" ถูกเปลี่ยนเป็นเมืองที่มีความยิ่งใหญ่ วิจิตรตระการตา ล้ำสมัย อะมีร์ อับดุรเราะห์มาน ได้สั่งให้สร้างมัสยิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป นั่นคือ "La Mezquita de Cordoba" (ในภาษาสเปนแปลว่า มัสยิดแห่งคอร์โดบา) นอกจากนี้เขายังได้สร้างสวนอันสวยงามที่มีทั้งดอกไม้และผลไม้นานาชนิด เช่น ต้นปาล์ม ส้ม มะกอก เลมอน รวมถึงอิทผลัมซึ่งนำมาจากซีเรีย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ของชาวอาหรับ อีกทั้งการชลประทาน คู คลอง ได้ถูกทดเข้ามาสู่บ้านเรือน ที่อาบน้ำสาธารณะกว่า 300 แห่ง
"La Mezquita de Cordoba" มัสยิดแห่งคอร์โดบา
.
+++ในขณะที่ผู้คนในส่วนอื่นของยุโรปยังอาศัยอยู่ในบ้านไม้ที่คับแคบ ชาวคอร์โดบามีบ้านหลังใหญ่ที่เปิดหน้าต่างโล่งรับแสงสว่าง มีสวนดอกไม้และน้ำพุ ตะเกียงไฟที่จุดเรียงรายตามตรอกซอกซอย รวมถึงตำรวจที่คอยเดินตรวจตรายามค่ำคืน
ค.ศ. 912 สมัยการปกครองของ อับดุรเราะห์มานที่ 3 เขาได้สร้างความสัมพันธ์กับรัฐมุสลิมอื่นๆ และได้ทำการเปลี่ยนชื่อตำแหน่งผู้นำของตนจาก อะมีร์ เป็น คอลีฟะฮ์ (กาหลิป)
===========================================================
ลองดู ABAS saffron 1 กรัม (1 gram) อบาส หญ้าฝรั่น แซฟฟรอน ของแท้ จากอิหร่าน Iranian (Super Negin) 100% ชา Wholesale ราคาส่ ในราคา ฿149 - ฿699 ที่ Shopee https://s.shopee.co.th/7AJacVG4mX
===========================================================
+++ถือได้ว่าคือเป็นยุคทองของอัล-อันดาลูส ภาษาอาหรับได้ถูกกำหนดให้เป็นภาษาราชการทั่วอาณาจักร สิ่งนี้เองที่ทำให้ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมได้รับการถ่ายทอดวิทยาการใหม่ๆ
ในคอร์โดบามีการสร้างโรงงานผลิตกระดาษขึ้น ซึ่งได้รับมาจากจีน การแปลและเรียบเรียงหนังสือและตำรากรีก โรมัน เปอร์เซีย ฯลฯ มีการก่อตั้งโรงเรียน มหาวิทยาลัยและห้องสมุดสาธารณะ ผลงานแขนงต่างๆ ประชาชนธรรมดาก็สามารถเข้ามาอ่านได้
"La Mezquita de Cordoba" มัสยิดแห่งคอร์โดบา
.
+++ด้านการแพทย์ แพทย์มุสลิมสามารถผ่าตัดได้แม้กระทั่งการผ่าต้อกระจก การคิดค้นสูตรยารักษาโรคต่างๆ โรงพยาบาลที่สามารถรับผู้ป่วยได้ถึง 8,000 คน ฯลฯ
ด้านวิทยาศาสตร์ มีการคิดค้นนาฬิกาลูกตุ้ม กระจกเงา แม้กระทั่งการทดลองเครื่องร่อนคนบังคับของ อับบาส บิน ฟิรนาส (Abbas ibn Firnas)
"La Mezquita de Cordoba" มัสยิดแห่งคอร์โดบา
+++ส่วนด้านดาราศาสตร์ ก็มีการคิดค้นอุปกรณ์ Astrolabe เพื่อคำนวณทิศทางของนครมักกะฮ์(เมกกะ) จากดวงดาว และยังได้ประดิษฐ์กล้องดูดาวและอื่นๆ
ด้านคณิตศาตร์ ได้ทำการพัฒนาระบบตัวเลขอารบิกขึ้น แทนการใช้เลขโรมันซึ่งมีความยุ่งยากกว่า รวมถึงสาขาต่างๆ เช่น เรขาคณิต ตรีโกณมิติ ระบบรากที่สอง ฯลฯ
.
============================================================
ลองดู RISO GALLO ARBORIO RICE 500 G. ริสโซ่กาโล ข้าวอาโบริโอ ขนาด 500 กรัม ในราคา ฿180 ที่ Shopee https://s.shopee.co.th/9f0vaigJAR
============================================================
.
+++ด้านศิลปะและสถาปัตยกรรม เช่นการสร้างมัสยิด โดม ซุ้มโค้ง ศิลปะการตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสก การแกะสลักลวดลายอาราเบสค์ และการเขียนอักษรประดิษฐ์ ตัวอย่างสถาปัตยกรรมยุคนี้เช่น พระราชวังมะดีนะตุสซะฮ์รออ์ (Madina az-Zahra)"แวร์ซายแห่งยุคกลาง", อัลคาซาบา(Alcazaba),อัลคาซาแห่งเซวิลล์ (Alcázar of Seville) ฯลฯ
.
+++ยุคนี้จึงไม่ได้เป็นแค่ยุคทองของมุสลิมเท่านั้น ยังเป็นยุคทองของชาวยิวด้วย(Golden age of Jewish in Al-Andalus) เพราะถึงแม้อัล-อันดาลูสจะเป็นอาณาจักรมุสลิมก็ตาม แต่ก็ให้สิทธิเสรีภาพของชนทุกศาสนา มีการอนุญาตสร้างโบสถ์และสุเหร่ายิว ชาวยิวและชาวคริสต์ได้รับตำแหน่งสูงๆ
ก็อศร์ อัล-ญะอ์ฟะรียะฮ์ (Qasr al-Ja'fariyyah - Aljaferia Palace) (ซาราโกซา)
.
+++ในราชสำนักคอร์โดบาและเมืองต่างๆในอัล-อันดาลูส เช่น ซาราโกซา(Zaragoza),โทเลโด(Toledo),วาเลนเซีย(Valencia) ฯลฯ จึงเป็นเสมือนศูนย์การเรียนรู้ กษัตริย์ ขุนนาง หรือคนธรรมดาในยุโรปจึงส่งลูกส่งหลานมาร่ำเรียนในมหาวิทยาลัยและโรงเรียนสอนด้านวิชาการต่างๆที่นี่ ได้รับรู้ถึงกลิ่นอายของอารยธรรมมุสลิมและวิทยาการก้าวหน้าใหม่ๆ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับบ้านเมืองของตนเอง แค่ในคอร์โดบาแห่งเดียวก็มีประชากรประมาณ 450,000 คน ซึ่งมากกว่าเมืองใดๆ ในยุโรปยุคนั้น
อัลคาซาแห่งเซวิลล์ (Alcázar of Seville
.
+++เมื่อมีรุ่งเรืองก็ต้องมีตกต่ำ เมื่อฮิชามที่ 3 คอลีฟะฮ์แห่งคอร์โดบา(Hisham III al-Muʿtad bi-llāh) คนสุดท้ายสิ้นชีวิตลง ปิดฉากการปกครองของราชวงศ์อุมัยยะฮ์แห่งคอร์โดบา ยุคทองแห่งความรุ่งโรจน์และมั่นคงของอัล-อันดาลูสดำเนินมาเป็นเวลากว่า 1 ศตวรรษ ก็ถึงคราวสิ้นสุด ราวปีค.ศ 1031
“โบอับดิล" (Boabdil) ยอมแพ้แก่"เฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งอารากอน"(Fernando II de Aragón) และ"อิซาเบลลาที่ 1 แห่งคาสตีล"(Isabel I de Castilla)
.
+++แต่ก็ยังชาวมุสลิมปกครองอันดาลูส จนถึงสงครามกรานาดาในปี ค.ศ. 1492 ผู้ปกครองสุดท้ายของมุสลิมในกรานาดาคือมุฮัมมัดที่ 12 แห่งกรานาดา(Abu Abdallah Muhammad XII Emirate of Granada) หรือที่รู้จักกันในนาม "โบอับดิล" (Boabdil) ยอมแพ้แก่"เฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งอารากอน"(Fernando II de Aragón) และ"อิซาเบลลาที่ 1 แห่งคาสตีล"(Isabel I de Castilla)สิ้นสุดการปกครองของชาวมุสลิมแทนที่ด้วยชาวคริสเตียน มีการขับไล่ชาวยิวและชาวมุสลิมออกจากสเปน  (Reconquista)
(Reconquista)
+++และในปีเดียวกันนั้นเอง สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยาและพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอนได้อนุญาติให้คณะสำรวจของ"โคลัมบัส"ได้ออกเดินทางไปทางตะวันตก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคทองของคริสเตียนในสเปนและจุดเปลี่ยนแปลงของโลกกกกกกกกก
***อ่านต่อได้ที่สิ่งเล็กๆที่เปลี่ยนแปลงโลก
.
.
1
+++นอกเรื่องไปไกลจริงแล้ว ปาเอยา (paella) ซึ่งเป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดจากแคว้นบาเลนเซีย อาจจะมาจาก"ข้าวหมก" ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการปรุงอาหารแถบอินเดียจนถึงตะวันออกกลางถึงจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปก็ตามที่ ที่ได้ยินบ่อยๆคือบิรยานี (Biryani) ข้าวหมกของเอเชียใต้ที่ว่ากันว่าได้อิทธิพลมาจากพวกโมกุลอีกที
Biryani
.
+++Biryani มาจากภาษาเปอร์เซียว่า birian หมายถึง การผัดก่อนหุง ซึ่งการทำปาเอยาก็มีลักษณะเดียวกัน
กระทะปาเอยา
+++ซึ่งปาเอยาของสเปนมีการใส่พวกอาหารทะเลหรือผักและเนื้อสัตว์ในท้องถิ่นที่หาได้ ทั้งกระต่ายหรือแม้กระทั่งหอยทาก มีเครื่องเทศอะไรก็ใส่ๆไป ปรุงกินเป็นอาหารกลางวัน ส่วนที่มาของชื่อนั้นก็มาจากกระทะที่ปรุงปาเอยานั้นเอง เป็นกระทะที่ลักษณะเฉพาะเพื่อทำข้าวหมกนั้นเอง แต่!!!! ก็มีอีกทฤษฎีหนึ่งที่บอกว่ามาจากคำอาหรับ "baqaayya" บาคาย่า? ที่แปลว่าของเหลือ ซึ่งมาจากในวังของคอลีฟห์มีอาหารเหลือกินก็จะเก็บมาปรุงรวมให้ข้าราชบริพารกินอีกต่อหนึ่งงงงง
เรียกได้ว่าเป็นเมนูหลากวัฒนธรรมและอายุยาวนานเหลือเกิน
===========================================================
ลองดู BK Black Steel 38 cm (15 inch) Paella Pan กระทะปาเอยา 38 ซม (15 นิ้ว) CC003092-001 ในราคา ฿2,232 ที่ Shopee https://s.shopee.co.th/B9qH3QT7W
===========================================================

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา