22 ก.ย. เวลา 01:00 • การศึกษา

สรุปสารคดี Explained ตอน Cryptocurrency

เมื่อคนฝันถึง “เงินดิจิทัล” ที่ทำหน้าที่แทนเงินสด
แกะรอยไม่ได้ เพิ่มอิสระในการใช้
และทำงานร่วมกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้
โดยไม่มีรัฐบาลคอยจับตาดูการซื้อขาย
เป็นปัญหาของนักวิทยาการคอมพิวเตอร์มาหลายสิบปี
ปัญหานี้ถูกเรียกว่า “ปัญหานายพลไบแซนไทน์”
เพราะกองทัพไบแซนไทน์ จะแบ่งเป็นกลุ่มย่อย
โดยมีนายพลคอยควบคุมแต่ละกลุ่ม
การจะตัดสินใจว่าจะโจมตี หรือ ถอยทัพ
ต้องได้รับ “ฉันทามติ” หรือความเห็นตรงกัน
ซึ่งในความเป็นจริงนายพลไม่สามารถไว้ใจกันเองได้
เนื่องจากหากมีนายพลคนหนึ่งบอกจะโจมตี
แต่จริงๆ แล้วคิดจะถอยทัพ และทำให้คนอื่นต้องตาย
สิ่งนี้จึงเป็นเหตุผลที่เว็บไซต์ต่างๆ
ต้องตรวจสอบกับธนาคารของเรา
เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะจ่ายค่าสินค้าที่เราสั่งซื้อ
จนวันหนึ่ง “Satoshi Nakamoto”
ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร
ได้สร้างสกุลเงินดิจิทัล อย่าง Bitcoin
ที่ให้เราใช้เงินได้อย่างเสรี โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูล
ด้วยนวัตกรรม Blockchain บัญชีแยกประเภทธุรกรรม
คล้ายการดูแลรักษาข้อมูลของธนาคาร
เหมือนกับการที่นายพลไบแซนไทน์มีสำเนาคนละฉบับ
อัปเดตข้อมูลเป็นปัจจุบัน และถูกต้อง 100% ตลอดเวลา
ทำให้เรามีบัญชีแยกประเภท แบบไร้ผู้จัดการทรัพย์สิน
จึงเป็นระบบเงินที่ไม่มีใครคุม ไม่มีกฎหมาย ไม่มีข้อบังคับ
ที่สำคัญยังมาถูกจังหวะกับช่วงปี 2009
เกิดเหตุการณ์ล้มละลายครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐ
จากโครงสร้างการเงินแบบศูนย์รวมแบบเก่า
คนเลยมองสกุลเงินดิจิทัลเหมือนตลาดหุ้น
พยายามซื้อราคาต่ำ มาขายราคาสูง
เหมือนทองคำมีคุณค่าขึ้นมาจากความเชื่อมั่นของคน
Bitcoin เองก็เช่นกัน
ในเดือนมกราคม ปี 2018 มูลค่าเงินดิจิทัลร่วง
อาจเริ่มมีข่าวไม่ดี อย่างการซื้อขายที่น่าสงสัย
รวมถึงมีการหลอกลวงเกิดขึ้นมากมาย
อีกทั้งกลัวว่ารัฐบาลจะเข้ามากวาดล้างเมื่อไหร่ก็ได้
ระบบคอมพิวเตอร์ที่ทำงานหนักเพื่อรักษาบัญชี
ใช้พลังงานมากกว่าหลายๆ ประเทศซะอีก
จึงเป็นระบบที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก แถมยังช้าอีก
เมื่อเทียบกับ Visa ทำธุรกรรมได้ 24,000 ครั้ง/ วินาที
ในขณะที่บิตคอยน์ ทำได้ 7 ครั้ง/ วินาที
ตอนนี้ผู้คนได้แต่ฝากความหวังว่า Blockchain
จะปฏิวัติได้มากกว่าแค่เงิน
เพียงแค่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าคืออะไร?
เหมือนกับที่เราเดา Uber ในยุค 90 ไม่ออกนั่นเอง
รับชมได้ทาง: Netfilx
โฆษณา