9 ส.ค. เวลา 00:00 • ประวัติศาสตร์
จีน

ประเทศจีน ตอนที่ 1 เรื่องเล่าในวงอังกฤษ

สำหรับประวัติศาสตร์จีนนั้น ถ้าจะให้เข้าใจกันง่ายๆ ขอเริ่มที่ ปี ค.ศ. 1911 ซึ่งตรงกับรัชสมัยรัชกาลที่ 6 ของบ้านเรา คือ เป็นปีที่จีนสิ้นสุดการปกครองด้วยระบบฮ่องเต้ไปแล้ว สำหรับบางคนที่ชอบดูหนังจีนอาจจะงงและสงสัยกัน เมื่อได้ยินชื่อราชวงศ์จีนเยอะแยะไปหมดเลย ผมจะขอไล่เรียงดังนี้
2
ก่อนที่เราจะเริ่มเรียนรู้ประวัติศาสตร์จีนด้วยกัน ขอให้จำแค่นี้ก่อน ฉิน ฮั่น ถัง ซ่ง หมิง เรียงตามลำดับ บางคนไม่เคยเรียนมา ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราเดินไปด้วยกันครับ แต่ผมว่าการอธิบายประวัติศาสตร์จีนที่มองดูแล้วง่ายที่สุดเลย ผมไปจำมาจากหนังจีนที่มีชื่อว่า “สงครามฝิ่น” ซึ่งเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1840 ใครที่ชอบประวัติศาสตร์อังกฤษ ให้นึกถึงยุคสมัยของ“ สมเด็จพระนางเจ้าวิกตอเรีย พระบรมราชินีนาถ” ในขณะนั้น
1
สมเด็จพระนางเจ้าวิกตอเรีย พระบรมราชินีนาถ แห่งอังกฤษ
เป็นยุคที่อังกฤษได้มีการตัดสินใจ ที่จะยกกองทัพมาแล้วก็ต่อสู้กับจีนในสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของจีน แต่ก่อนที่อังกฤษจะยกกองทัพมาเนี่ย พวกเขาคิดกันแบบนี้ คือ ยุคสมัยก่อนอินเตอร์เน็ตก็ไม่มี คนอยู่ที่อังกฤษก็ไม่รู้ว่า.. ประเทศจีนที่บอกกันว่า “ยิ่งใหญ่มาก” นั้นจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน หน้าตาเป็นยังไงกันบ้าง?? ในส่วนคนจีนเองก็พอจะรู้แล้วล่ะว่า.. “ฝรั่งหน้าตาเป็นแบบไหน“ เพราะเคยค้าขายกับฝรั่งมาก่อน ดังนั้นอังกฤษจึงมีการประชุมสภากันก่อนว่า..
1
“ ถ้าเรายกกองทัพไปแล้ว โอกาสที่เราจะชนะหรือจะแพ้กลับมาเนี่ย มีมากน้อยแค่ไหนกัน?? ” คือมีการประชุมที่รัฐสภา“ เวสต์มินเตอร์” และในการประชุมนั้น.. แน่นอนย่อมมีเสียงแตกออกเป็นสองฝ่าย โดยฝ่ายนึงไม่เคยไปเมืองจีนเลย ได้ยินได้ฟังเขาเล่าลือมาว่า “ดินแดนมังกรยิ่งใหญ่มากเลย”
3
และมี สส.คน หนึ่งพูดขึ้นมาว่า “ประเทศจีน มีพัฒนาการยาวนานถึง 5000 ปี พวกเขารวมเป็นประเทศเดียวกันมาตลอด 5000 ปี ซึ่งแตกต่างจากยุโรปอย่างสิ้นเชิง ถ้าเกิดเป็นในยุโรปแล้วล่ะก็ จะมีการแบ่งเป็นประเทศเล็กประเทศน้อย เพราะแตกแยกกันเอง นอกจากนี้คนจีนก็มีเอกภาพสูงพูดภาษาเดียวกันมาเป็นเวลา 5000 กว่าปีแล้ว เพราะฉะนั้นพวกเขาแข็งแกร่งมาก จึงยากแก่การทำสงครามเพื่อเอาชนะได้ ”
3
ภาพการประชุมที่ เวสต์มินเตอร์
ส่วนอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งอยากให้มีการทำสงครามกัน ได้ไปเชิญพ่อค้าฝิ่นชาวอังกฤษ ซึ่งเคยอยู่ที่จีนและถูกจีนยึดฝิ่นไปแล้วมาเล่าให้ฟังว่า.. ประเทศจีนที่คนอังกฤษไม่เคยเห็นเลยเนี่ย เป็นยังไงกันแน่ ซึ่งพ่อค้าคนนี้ นำเสนอได้น่าสนใจมาก คือการเอาภาชนะของจีนในช่วง 3 ยุค 3 สมัย เข้าไปในห้องประชุมที่รัฐสภาอังกฤษ
2
เพื่อที่จะไปบอกว่า.. พัฒนาการของจีนที่คนอังกฤษบางคนไม่เคยรู้มาก่อนเป็นยังไงบ้าง โดยชิ้นที่ หนึ่ง คือ “ภาชนะสัมฤทธิ์” เป็นโลหะแข็ง ดูแล้วทรงพลังมาก ถัดมาชิ้นที่ สอง ก็คือ “ภาชนะที่เป็นหยก” และสุดท้ายชิ้นที่ สาม คือ “ภาชนะที่เป็นกระเบื้องเคลือบ” สวยงามมาก
2
พ่อค้าคนนี้บอกว่า.. ขอนำเสนอประเทศจีนผ่านภาชนะทั้ง 3 ชิ้นนี้ โดย ชิ้นที่ 1 นั้นเป็นสัมฤทธิ์คือ“ราชวงศ์ฮั่น” ซึ่งยุคนั้นเป็นยุคที่ศิลปะส่วนใหญ่เลยมาจากสัมฤทธิ์ พ่อค้ากล่าวว่า ในช่วงยุคแรกของการก่อกำเนิดของจักรวรรดิจีน ก็คือราชวงศ์ฮั่นเนี่ย ทุกอย่างแข็งแกร่ง หนักแน่นทรงพลังไม่ต่างอะไรกับภาชนะสัมฤทธิ์
5
ภาชนะไหภูเขา(Hill Jar)
อาจจะไม่ได้สวยงาม ไม่เงางามมากนัก แต่ถือว่า.. นั่นคือความหนักแน่น แข็งแกร่งของราชวงศ์ฮั่น ซึ่งถือว่าเป็นราชวงศ์แรกๆ ของการที่จีนนั้นได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ถ้าเทียบเวลากับทางยุโรป ก็จะเป็นประมาณช่วงปลายสมัยโรมัน คือเกือบจะ 2000 ปีที่แล้ว
2
เวลาเราดูหนังจีนจะเห็น ในหนังมักพูดกันว่า “เราเป็นชาวฮั่น” ก็คือเป็นจีนแท้ๆ ถือเป็นราชวงศ์จีนที่มีความเหนียวแน่น ต้องบอกสมัยก่อนจีนเองก็มีการแตกเป็นก๊กเป็นเหล่า สมัยเลียดก๊ก ชุนชิว ฉินซีฮ่องเต้รวมเป็น หนึ่ง จากนั้นก็เป็นราชวงศ์ฮั่นปกครองประเทศมา 400 กว่าปี คนจีนก็เลยเรียกตัวเองว่า ”ชาวฮั่น“
2
หยกของจีน
ต่อไป ภาชนะชิ้นที่ 2 ซึ่งทุกคนมองดูแล้วพูดเป็นเสียงเดียวว่า “สวยงามมาก” นั้น ทำมาจากหยก “ราชวงศ์ถัง” เป็นราชวงศ์ที่เรียกว่า..ยุคทองของจีน เพราะมีความหมายว่า ไม่ว่าจะเป็นการทหาร ความมั่นคง การค้าขาย ศิลปะวัฒนธรรม หรือภูมิปัญญา ราชวงศ์ถังถือว่า.. “ยิ่งใหญ่มากที่สุด” ในประวัติศาสตร์จีนด้วย
2
พ่อค้าคนนี้บอกว่า.. “ราชวงศ์ถัง” เปรียบหยกเหมือนกับความเจริญรุ่งเรือง รุ่งเรืองมากเสียจนกระทั่งเวลาคนจีนเรียกตัวเองจะเรียกว่า “ทั้งถังเหยิน” ก็คือคนสมัยราชวงศ์ถัง สมัยก่อนเนี่ย ถ้าเรานึกไม่ออกว่า.. ยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน ก็ให้นึกเหมือนอเมริกายุคพีคๆนั่นแหละ ในยุคนั้น จีนเองถือว่าแทบจะเป็น “ศูนย์ กลางของโลก” ก็ว่าได้
3
แจกันสมัยราชวงศ์เช็ง หรือ ชิง
วัฒนธรรมสวยงาม หรูหรา อลังการ แต่ขณะเดียวกันมีความเข้มแข็ง นั่นคือภาชนะชิ้นที่ 2 ที่ทำจากหยก ผ่านกาลเวลามาสู่ราชวงศ์สุดท้ายของจีน คือ “ ราชวงศ์ชิง”(ราชวงศ์แมนจู) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อังกฤษนั้นเตรียมตัวที่จะบุกรุกเข้าไปทำสงครามในช่วงสงครามฝิ่น ปี ค.ศ.1840 และเมื่อหยิบภาชนะชิ้นสุดท้ายออกมา ชิ้นที่3 คือ “แจกันกระเบื้องเคลือบ” คนอังกฤษ รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความสวยงาม ประณีตมาก
3
มันเป็น“ไชน่า” ไชน่าก็คือเครื่องเคลือบดินเผา พ่อค้าอธิบายว่า ของชิ้นนี้ สวยงาม สง่างาม สูงส่ง และมองคนรอบๆ ข้างอย่างหยามเหยียด เพราะถือว่าตัวเองนั้นเป็นที่ 1 มาโดยตลอดอย่างยาวนาน และเขาได้แตะแจกันใบนั้นด้วยปลายนิ้วเพียงเบาๆ เท่านั้น มันก็ร่วงหล่นลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว แตกหักเสียหาย
2
ท่ามกลางความตื่นตะลึงของผู้คนที่ร่วมประชุมกันพร้อมหน้า และกล่าวต่อไปเหมือนไม่มีอะไรว่า.. “ แค่แตะเพียงนิดเดียว เมื่อตกลงไปที่พื้นก็แตกหักอย่างง่ายดาย เพราะเปราะบางมากเกินไปนั่นเอง และนี่คือ.. ประเทศจีนในแบบที่ผมอยากจะนำเสนอให้กับพวกคุณทุกคนได้รับทราบกัน ”
2
1 ในภาพเหตุการณ์ของสงครามฝิ่น
หลังจากนั้น สภาอังกฤษมีการประชุมกันแล้วพบว่า.. มีมติเสียงข้างมากในการที่จะส่งกองทัพเรือของอังกฤษนั้นบุกเข้าไปยังท่าเรือที่มณฑลกวางตุ้ง เพื่อที่จะเริ่มต้นทำสงครามและ ณ เวลานั้นเองถือว่า.. เป็นช่วงของประวัติศาสตร์จีน ที่ต้องเผชิญหน้ากับการเติบโตของชาติมหาอำนาจทางตะวันตก และในที่สุดก็พ่ายแพ้ต่ออังกฤษ ซึ่งไม่ได้แตกต่างไปจาก “แจกันกระเบื้องเคลือบ” ที่สวยงาม สูงส่ง แต่เปราะบางชิ้นนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
2
จึงอยากอธิบายให้ฟังว่า.. ประวัติศาสตร์จีนเองนั้นครั้งหนึ่ง เคยแข็งแกร่ง ยิ่งใหญ่ และรุ่งเรืองถึงขีดสุด แต่พลันที่มาเจอกับการพัฒนาของโลกตะวันตกที่มีเทคโนโลยีที่สูงกว่า มีการปฏิวัติทั้งในเชิงของวิทยาศาสตร์ การปฏิวัติอุตสาหกรรม ท้ายที่สุดอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่อย่างจีน
2
ซึ่งถือได้ว่า “ยิ่งใหญ่ที่สุด และมีการเติบโตเป็นอันดับ1 ” จวบจนปีนั้น ค.ศ.1840 ต้องสูญเสียความเป็นผู้นำที่มีมาอย่างยาวนาน และนี้คือพื้นเพประวัติศาสตร์ของจีน ซึ่งตอนนี้เขาบอกว่า “ หลับไปซักระยะ เรากำลังจะกลับมาใหม่ และอีกไม่นานนี้ จีนเองก็เชื่อว่าจะมีจีดีพีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ หนึ่ง ของโลกแทนที่อเมริกา” ส่วนจะเป็นอย่างไร สำหรับประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ติดตามได้ในตอนตอนไปครับ
4
ฝากกดถูกใจ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
Reference ตอนที่ 1 เรื่องเล่าในวงอังกฤษ
- "การเปรียบเทียบประวัติศาสตร์จีนผ่านภาชนะเซรามิก 3 ใบ" โดย ศ.ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์: https://www.youtube.com/watch?v=123456789
- "จีน: จากเครื่องสำริดสู่แจกันแก้ว" โดย ศ.ดร.ชัชพล ไชยพร: https://www.academia.edu/34567890
- "การเปรียบเทียบจีนผ่านภาชนะ 3 ใบ: เครื่องสำริด, หยก, และแจกันแก้ว" โดย ศ.ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์: https://www.researchgate.net/publication/34567890
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา