Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Letter From History
•
ติดตาม
16 ส.ค. เวลา 00:16 • ประวัติศาสตร์
จีน
ประเทศจีน ตอนที่ 2 ที่มาของมังกร
หากว่า.. ผู้ใดสนใจศึกษาประวัติศาสตร์จีนในยุคต่างๆ ก็อาจจะมีการตั้งคำถามว่า.. ก่อนหน้ายุคที่ “ จิ๋นซีฮ่องเต้ หรือฉินฉื่อหฺวังตี้ ” จะมีการรวมแผ่นดินนั้น แผ่นดินจีนมิได้เป็นหนึ่งเดียวกันหมด หากแต่มีการแบ่งแยกออกไปเป็นรัฐต่างๆ หลากหลายรัฐ เช่น ใน“ยุคชุนชิว” แตกออกไปมีมากกว่า 10 รัฐ ยุคถัดมาก็คือ “ยุคจั้นกั๋ว” ยุคนี้มีการแตกออกมาเป็น 7 รัฐด้วยกัน
ถ้าอยากจะทราบว่า.. ในช่วงเวลาของ “ยุคชุนชิว และจั้นกั๋ว” (เลียดก๊ก ตามสำเนียงฮกเกี้ยน) อะไรคือเส้นแบ่งระหว่าง 2 ยุคนี้ รวมถึงในยุคดังกล่าวนี้ หากเราได้เทียบเคียงกับประวัติศาสตร์ของซีกโลกตะวันตกแล้ว จะอยู่ในช่วงยุคใดกันแน่ ?? เพราะจะทำให้เราสามารถนึกเห็นภาพพัฒนาการเชิงเปรียบเทียบของประวัติศาสตร์และอารยธรรมในแต่ละภูมิภาคได้ชัดเจนมากขึ้น
ขงจื่อ ซุนวู ไซซี และซุนปิน ตามลำดับ (ซุนปินเป็นหลานของซุนวู)
นอกเหนือไปจากนี้.. บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ เช่น ขงจื่อก็ดี ซุนวูก็ดี ร่วมถึง ไซซี และซุนปิน อีกทั้งยังมีบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียง มีเรื่องเล่าขานเป็นตำนานอีกหลายๆ คน ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นได้อยู่ในช่วงเวลาใดของประวัติศาสตร์กันบ้าง และเราก็จะมาคุยกันถึงยุคทั้ง 2 ยุคนี้
สำหรับ “ยุคชุนชิว“ นั้น ก็เป็นยุคปลายสมัยราชวงศ์โจว ซึ่งคำว่า “ชุนชิว” นั้นเป็นการตั้งชื่อตามบันทึกประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกของรัฐหลู่ มีความหมายว่า “ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง” ก็คือ ชุนและชิว เป็นยุคที่เกินเวลายาวนานราว 300 กว่าปี อยู่ระหว่าง ประมาณ 770 ปีก่อนคริสต์ศักราช – 453 ปีก่อนคริสต์ศักราช
โดยที่หลังจากนั้นรัฐต่างๆ ได้ถูกผนวกเข้ามาโดยรัฐที่เข้มแข็งกว่าจนเหลือแค่ 7 รัฐ และกลายเป็นยุคที่เรียกกันว่า “ยุครณรัฐ หรือยุครัฐสัประยุทธ์” ถ้าเราเปรียบเทียบกับยุคสมัยหรือวัฒนธรรมชาติอื่นๆ แล้วจะสามารถเปรียบเทียบได้กับยุคประวัติศาสตร์ใดกันบ้าง
ไปดูที่ ”ยุคชุนชิว“ กันก่อนในช่วงปลายก็เปรียบเทียบได้กับ ”ยุคพุทธกาล“ นั่นเอง แต่ถ้าข้ามไปเปรียบเทียบกับประวัติศาสตร์ฝั่งยุโรปกันแล้ว ชุนชิวก็จะอยู่ใกล้กับ ”ยุคของอาณาจักรโรมัน“ กล่าวคือ ในยุคตั้งแต่มีการสถาปนากรุงโรม คือ 753 ปีก่อนคริสตกาล
รูปหล่อสำริดแสดงโรมุลุสและแรมุสซึ่งมีแม่หมาป่าเป็นผู้เลี้ยงดู
โดยโรมุลุสและแรมุส (สองพี่น้องฝาแฝดผู้ก่อตั้งกรุงโรม) เรื่อยมาจนกระทั่งถึงยุคต้นของโรมัน ซึ่งกลายสภาพเป็นสาธารณรัฐในปี 509 ก่อนคริสตกาลนั่นเอง สำหรับยุคถัดมา ก็คือ “ยุครณรัฐ หรือยุคจั้นกั๋ว “ จนเข้าไปสู่ช่วงการผนวกแผ่นดินของจิ๋นซีฮ่องเต้ ราว 221 ปีก่อนคริสตกาล
ฝั่งยุโรปคือ.. ช่วงยุคสาธารณรัฐโรมันก่อนที่ ”จูเลียสซีซาร์“ จะทำการรัฐประหาร ยึดอำนาจโรมแล้วสถาปนาตนเองเป็นเผด็จการ ก่อนที่จะถูกลอบสังหาร จนกระทั่ง ”จักรพรรดิเอากุสตุส“ (ผุ้ก่อตั้งจักรวรรดิโรม) ได้เข้ายึดอำนาจและยุติการเป็นสาธารณรัฐโรม ทรงสถาปนาโรมเป็นจักรวรรดิโรมันในปีที่ 27 ก่อนคริสตกาล
เหตุที่กล่าวถึง” ยุคชุนชิว“ เพราะถือได้ว่า.. เป็นต้นทางแห่งอารยธรรมที่มีบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ หลากหลายคนซึ่งคนไทยนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดี ผ่านบทเรียน บทกวี และบทภาพยนตร์ แต่ขอกล่าวถึงในเรื่องของภูมิศาสตร์กันก่อน เพื่อจะได้เห็นภาพว่า.. ยุคสมัยดังกล่าวนั้น มีลักษณะเป็นอย่างไรกันบ้าง
หากเรากางแผนที่จีนในปัจจุบันออกมาดูจะพบว่า.. ในยุคของ“ชุนชิวและจั้นกั๋ว“ ซึ่งเป็น 2 ยุคที่ต่อเนื่องกัน จีนมีพื้นที่โดยประมาณเพียงแค่ 1 ใน 3 ของจีนยุคปัจจุบัน เพราะว่า ยังเป็นจีนที่ไม่มีมณฑลใหญ่ เช่น ซินเซียง หนิงเซี่ยหุย ไม่มีทิเบต ไม่มีการผนวกมองโกเลียตอนใน และเสฉวนทั้งหมด ยังไม่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินจีน
มาดูกันที่ยุคชุนชิวกัน ยุคชุนชิวนั้นเป็นยุคที่จีนแตกเป็นแว่นแคว้น เป็นนครรัฐต่างๆ มีมากกว่าหลาย 10 รัฐ คือปลายรัชสมัยของราชวงศ์โจว ซึ่งราชวงศ์โจวนั้นเป็นราชวงศ์โบราณ เป็นราชวงศ์ที่ 3 ในแผ่นดินจีน มีนครหลวงที่ชื่อว่า “เมืองฉางอัน ”(Chang'an) กับ “เมืองลั่วหยาง” (Luoyang หรือ Loyang) และก็ล่มสลายลง
แผนที่แสดงที่ตั้งของนครรัฐต่าง ๆ ในยุคชุนชิว
ทำให้รัฐและนครรัฐต่างๆ แตกตัวออกมากลายเป็นอิสระและมีการต่อสู้รบกันไปมา หากไปดูแผนที่ของประวัติศาสตร์ในยุคดังกล่าวแล้วจะพบว่า.. มีการแตกออกไปเป็นรัฐต่างๆ มีมากกว่าหลาย 10 รัฐด้วยกัน และอาณาเขตพื้นที่ของรัฐต่างๆเหล่านั้น จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาสลับกันเรื่อยๆ จากรัฐนั่นไปเผด็จศึกรัฐนี้และได้ควบรวมพื้นที่รัฐนี้เข้าไว้แล้ว จากนั้นสถานะการณ์พลิกจากแพ้ก็กลายเป็นชนะ และจากชนะก็กลายมาเป็นแพ้ จากรัฐที่มีขนาดเล็กก็ขยายมาเป็นรัฐขนาดใหญ่ สลับกันไปกันมาตลอด
1
รัฐที่มีขนาดใหญ่มากในพื้นที่ตอนบนของจีนคือ “ที่ราบจงหยวน” ก็ได้แก่“ รัฐจิ้น”ซึ่งอยู่ในบริเวณมณฑลซันสี มณฑลเหอหนาน มณฑลเหอเป่ยในปัจจุบัน ถัดมาคือ “รัฐฉี“ อยู่ในมณฑลซานตงในปัจจุบันคือ ”คาบสมุทรซานตง“ ถือได้ว่าหันหน้าไปทางแปซิฟิก
ทางตอนเหนือขึ้นไป มี “รัฐเยียน” ปัจจุบันคือ “เป่ย์จิง ก็คือ “รัฐหลู่” รัฐนี้ถือเป็นแผ่นดินเกิดของนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ก็คือ ”ขงจื๊อ” อยู่บริเวณใกล้ชายฝั่งตะวันออกก็คือ ใกล้กับคาบสมุทรซานตงในปัจจุบัน
ส่วนรัฐใหญ่ทางตอนเหนือที่เข้าไปในตัวแผ่นดิน และถือว่าไม่ค่อยมีบทบาทมากนักสักเท่าไหร่ ใน ”ยุคชุนชิว” ก็คือ “รัฐฉิน” ถือได้ว่ามีความกันดาร ซึ่งถ้าเทียบกับแผนที่ในปัจจุบันคือ มณฑลกานซู่และมณฑลฉ่านซีของจีน
ภาพแผนที่ของยุคจั้นกั๋ว ภายหลังจากที่แว้นเล็กๆโดนกลืนกินจนเหลือ 7 แคว้นใหญ่
ด้วยเหตุที่ว่า เป็นรัฐที่ไม่ติดทะเล จึงค่อนข้างที่จะอัตคัด และไม่เป็นที่สนใจสักเท่าไหร่ ไปดูรัฐทางใต้กันบ้างก็ คือบริเวณลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง รัฐใหญ่บริเวณดังกล่าวที่ติดชายฝั่งได้แก่ “รัฐอู่”ก็อยู่ที่มณฑลเจียงซู หรือบริเวณเซี่ยงไฮ้ในปัจจุบัน ไล่เรื่อยมาจนกระทั่งเลื้อยลงใต้ไปที่มณฑลกวางตุ้ง
1
ถัดเข้ามาตอนในของภาคใต้ก็คือ “รัฐฉู่” บริเวณมณฑลหูเป่ย์ หูหนานบางส่วนของกว่างซี และต่อมา ก็คือรัฐเล็กๆที่มีชื่อว่า “รัฐเยว่” ก็อยู่บริเวณมณฑลกวางตุ้ง เหนือขึ้นมากว่าพื้นที่เวียดนามเล็กน้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังมีรัฐเล็กๆอีกมากมายนับไม่ถ้วนกันเลยทีเดียว
คำถามคือ ในช่วงเวลาดังกล่าว นานนับร้อยๆ ปีมีการบริหารจัดการกันอย่างไร นอกเหนือไปจากการทำสงคราม ต้องยอมรับว่า พัฒนาการในช่วงหลายร้อยปี ในช่วง ”ยุคชุนชิว“ นั้นจะมีการแบ่งศักดินาชนชั้นของผู้ปกครองแคว้น ตามขนาดใหญ่เล็กและความสำคัญของแคว้นนั้นๆ เป็นต้นว่า ”เจ้าผู้ครองแคว้น.. ก็คือเจ้าพระยาที่มีอำนาจมากที่สุด “
ภาพของ 5 ผู้พิชิต ในยุคชุนชิว ฉีหวนกง ,ซ่งเซียงกง ,จิ้นเหวินกง ,ฉินมู่กง ,ฉู่จวงหวาง ตามลำดับ
สำหรับในยุคดังกล่าว ที่เรียกกันว่า.. ”เจ้าพระยา” นั่นตรงกับภาษาจีนคำว่า “กง” สำหรับแคว้นใหญ่ ในขณะที่ผู้มีลำดับศักด์ต่ำลงมาก็คือ.. ”พระยา” สำหรับแคว้นเล็กๆ เรียกกันว่า “โหว่“ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นใน ”ยุคชุนชิว” มีการแบ่งออกเป็น 5 ช่วง เขาเรียกกันว่า “ 5 ผู้พิชิต ” ในช่วงเวลาดังกล่าวได้แก่ คนที่หนึ่ง “ฉีหวนกง“ ชื่อก็บอกแล้วว่ามาจากรัฐฉี คนที่สอง ”ส่ง-ซ่งเซียงกง” จากรัฐซ่ง คนที่สาม “จิ้นเหวินกง” จากแคว้นจิ้น คนที่สี่ “ฉินมู่กง” จากรัฐฉิน และสุดท้ายคนที่ห้า “ฉู่จวงหวาง” จากแคว้นฉู่ทางภาคใต้
1
เป็นที่น่าสังเกตุว่า.. การเรียกชื่อ “เจ้าผู้ครองแคว้นในยุคชุนชิว” นั้นจะลงท้ายด้วยบรรดาศักดิ์ “ เจ้าพระยาหรือว่ากง” และไม่ได้ใช้คำว่า “กษัตริย์หรือหวัง” แต่อย่างใดยกเว้นเพียงคนสุดท้ายคือ ”ฉู่จวงหวาง“ นั่นความหมายว่า.. ในช่วงเวลาดังกล่าว ยังไม่มีเจ้าผู้ครองแคว้นคนใดคิดแต่งตั้งตนเองเป็นกษัตริย์
แต่ต่อมาในภายหลัง.. ก็ได้เริ่มต้น คิดการใหญ่ คือ แต่งตั้งตัวเองให้มีสถานภาพเป็นกษัตริย์ด้วย ดังนั้นจะพบว่า ในยุคต่อมาคือ ”ยุคจั้นกั๋ว“ จึงเป็นยุคที่เจ้าผู้ครองนครเรียกตัวเองว่าเป็นกษัตริย์หรือหวังกันโดยทั่วไป และนี่คือภาพรวมของ ”ยุคชุนชิว และยุคจั้นกั๋ว“ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ต่อเนื่องกัน สำหรับบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ที่เรารู้จัก รวมถึงเรื่องราวของพวกเขา โปรดติดตามตอนหน้าครับ
ฝากกดถูกใจ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
Reference ตอนที่ 2 ที่มาของมังกร
https://shorturl.asia/6pkGK
https://shorturl.asia/FNGbo
https://shorturl.asia/L5Ejq
https://shorturl.asia/TbFAg
https://shorturl.asia/XLsDx
https://shorturl.asia/9LCRI
https://shorturl.asia/QFcPC
https://shorturl.asia/HUIT3
https://shorturl.asia/pVgqY
https://shorturl.asia/XnbYa
https://shorturl.asia/i9kzB
https://shorturl.asia/j42FZ
https://shorturl.asia/I0lmk
https://shorturl.asia/ND2Qw
https://shorturl.asia/yBR3k
ประวัติศาสตร์
เรื่องเล่า
ความรู้รอบตัว
11 บันทึก
13
1
10
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ประเทศจีน ดินแดงมังกร
11
13
1
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย