16 ส.ค. เวลา 05:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

EP.24: สรุปภาวะตลาดและมุมมองการลงทุน โดย บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) – สิงหาคม 2567

Monthly Investment Insights for AIA Unit Linked by AIAIMT – AUGUST 2024
สรุปภาวะตลาดและมุมมองการลงทุน สำหรับ AIA Unit Linked โดย บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) – สิงหาคม 2567
📌 ภาพรวมตลาดในเดือนที่ผ่านมา – ปรับเกณฑ์กองทุน ThaiESG โฉมใหม่ หนุนตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดโลก
ตลาดหุ้นไทยกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.53% ปิดตลาด ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม ที่ระดับ 1,320.86 จุด โดยได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการส่งเสริมการลงทุนอย่างการปรับปรุงเกณฑ์ของกองทุน Thai ESG ใหม่ เพื่อให้ดึงดูดการลงทุนมากขึ้น โดยเพิ่มวงเงินในการลงทุนเพื่อให้ลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น และลดระยะเวลาการถือกองทุนลง
ประกอบกับได้รับปัจจัยบวกตามทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากธนาคารกลางหลักหลายแห่งเริ่มทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ตลาดคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อย 3 ครั้ง ภายในปี 2567 นี้ หลังจากเงินเฟ้อชะลอตัวลงและอัตราการว่างงานทยอยปรับเพิ่มขึ้น
ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงปรับตัวลดลงตามการเคลื่อนไหวของตลาดโลกเป็นหลัก โดยอัตราเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนที่กลับมาปรับลง(ธปท.) อาจจำเป็นต้องปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงตามธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปี 2567 นี้
📌 ตลาดตราสารหนี้ :
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับลดลงตามทิศทางตลาดโลกเป็นหลัก โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีปรับลดลง 0.09% ปิดที่ระดับ 2.59% ด้านหุ้นกู้ภาคเอกชน ส่วนต่างอัตราผลตอบแทน (credit spread) อายุ 5 ปี อันดับความน่าเชื่อถือ A กลับมาปรับเพิ่มขึ้น 0.08% ปิดที่ระดับ 1.16% โดยเป็นผลจากการผิดนัดชำระของหุ้นกู้ EA ที่ทำให้กองทุนตราสารหนี้บางกองปิดตัวลงและจำเป็นต้องทยอยขายหุ้นกู้ที่ถือทั้งหมดในกองทุนออกมา ทำให้ปัจจุบันภาวะตลาดหุ้นกู้โดยรวมมีอุปทานมากกว่าอุปสงค์อยู่บ้าง
ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับลดลง 0.37% ปิดที่ระดับ 4.03% โดยธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณที่พร้อมจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในเดือนกันยายนนี้หากเงินเฟ้อและตลาดแรงงานยังคงอ่อนแรงลงต่อเนื่อง ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อย 3 ครั้งภายในปี2567นี้ และอีกอย่างน้อย 3 ครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2568
📌 ตลาดหุ้นไทย :
• SET Index ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2567 ปิดที่ระดับ 1,321 จุด ปรับขึ้นเล็กน้อย 1.50% จากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหนุนจากมาตรการ Uptick Rule ที่ตลาดฯ เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นมา ส่งผลทำให้แรงขายของนักลงทุนต่างชาติปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เหลือ 1.8 พันล้านบาท จาก 3.5 หมื่นล้านบาทในเดือนก่อนหน้า อีกทั้งยังมีแผนปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ใหม่
โดยขยายวงเงินเป็น 3 แสนบาท และลดเวลาถือครองเหลือเพียง 5 ปี รวมถึงส่งสัญญาณออกกองทุนวายุภักษ์กว่า 1 แสนล้านบาทในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี2567นี้ จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ
📌 มุมมองการลงทุน
มุมมองการลงทุนตราสารหนี้: ในระยะข้างหน้า คาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรฯ ยังคงเคลื่อนไหวผันผวน จากทั้งปัจจัยความเสี่ยงด้านการเมืองในประเทศ ปัจจัยด้านอุปทานของพันธบัตรฯ ที่จะเพิ่มขึ้นตามความต้องการกู้ยืมเงินของรัฐบาล และปัจจัยภายนอกที่ธนาคารกลางหลักหลายแห่งเริ่มเข้าสู่วัฏจักรกรดอกเบี้ยขาลง อย่างไรก็ดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย ณ ระดับปัจจุบันได้สะท้อนการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ธปท. อย่างน้อย 1 ครั้งในปี 2567นี้ และอีก 1 ครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 แล้ว
ทำให้โอกาสที่ผลตอบแทนพันธบัตรฯจะปรับลดลงต่อนั้นมีน้อยลง และหากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังคงเป็นไปได้ด้วยดีในช่วงครึ่งหลังของปี มีโอกาสสูงที่ ธปท. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.50% จนถึงสิ้นปี ซึ่งจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรฯ กลับมาปรับสูงขึ้นอีกครั้ง จึงแนะนำผู้ลงทุนที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้เพิ่ม ให้หาจังหวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรฯ ปรับตัวขึ้นไปในการเข้าซื้อ
มุมมองการลงทุนตราสารทุน :
มุมมองการลงทุนหุ้นในตลาดต่างประเทศ: ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวในทิศทางต่างกัน โดย DJIA +4.4%, S&P +1.1% แต่ Nasdaq -0.8% จากแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และย้ายลงทุนไปกลุ่มอื่นๆ แทน อย่างไรก็ตาม บลจ.เอไอเอเริ่มมีความกังวลต่อความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดหุ้นโลกที่เพิ่มสูงขึ้น จากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายการค้า ดอกเบี้ยสหรัฐฯ ซึ่งกระทบต่อตลาดหุ้นโลก
มุมมองการลงทุนหุ้นในตลาดไทย: คาด SET Index ผันผวนในระยะสั้น จากความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่คาดหวังมาตรการกระตุ้นตลาดทุนน่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และผลักดันตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นได้ โดยประเด็นบวกที่ต้องติดตามในเดือนกรกฎาคม 2567 ได้แก่ ความคืบหน้าของกองทุน Thai ESG ใหม่ และการจัดตั้งกองทุนขนาดใหญ่ คล้ายกองทุนวายุภักษ์ในอดีต
📌 คำแนะนำการลงทุน
ตราสารทุน : รักษาวินัยการลงทุน สะสมการลงทุนในตราสารทุนเพื่อเป้าหมายการลงทุนระยะยาว โดยทยอยปรับสัดส่วนการลงทุนเข้าสู่เป้าหมายระยะยาว
ตราสารหนี้ : ตลาดยังมีความผันผวนสูง ควรรักษาสภาพคล่องเพื่อหาจังหวะทยอยลงทุนในตราสารทุน ในขณะเดียวกัน ยังควรถือตราสารหนี้เพื่อจำกัดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน
แหล่งข้อมูล: “สรุปภาวะตลาดและมุมมองการลงทุนประจำเดือนกรกฎาคม 2567” โดย AIA Investments และ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2567
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป ผู้ใช้ต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ด้วยตนเอง
เริ่มวางแผนการเงินระยะยาว กับบริการผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลการลงทุน AIA InvestPro และ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย)
ผ่านกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน เอไอเอ ยูนิต ลิงค์ ที่เหมาะกับคุณได้แล้ววันนี้
ติดต่อตัวแทน เอไอเอ หรือดูรายละเอียดได้ที่ : https://www.aia.co.th/th/our-products/save-invest/unit-linked
คำเตือน:
• ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจรายละเอียด เงื่อนไข ความคุ้มครองและข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย รวมทั้งศึกษาทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
• ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์
• การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
• ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ติดตาม Community AIA Thailand ได้ที่ https://www.blockdit.com/aiathailand

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา