4 ก.ย. เวลา 17:28 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🟢[สรุป] OPPDAY, Q2/2024 : SABINA📊
1
✴️บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน)
📈รายได้ครึ่งปีแรก 2024 เติบโต 4.70% (เคยตั้งเป้าหมายเติบโตทั้งปี 5 – 10%)
📈อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ครึ่งปีแรก 49.30% (เคยตั้งเป้าหมายทั้งปี 51%) ในครึ่งปีหลังจะมีการออกสินค้าใหม่ เป็นสินค้าระดับบนที่น่าจะช่วยผลักดัน GPM ให้สูงขึ้นได้
📈อัตรากำไรสุทธิ (NPM) ครึ่งปีแรก 13.30% (เคยตั้งเป้าหมายทั้งปี 14%)
📌สิ้นปี 2024 จะมีพนักงานลดลงประมาณ 400 คน และบริษัทจะไม่รับคนเพิ่มอีก จึงสามารถประหยัดเงินไปได้ประมาณ 4.5 ล้านบาทต่อเดือน เมื่อนับมากระทบยอดกับกฎหมายค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท (บริษัทคิดว่ามาแน่เร็วๆนี้) ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 2.4 ล้านบาท การลดพนักงานไม่กระทบกับการเติบโตในอนาคต เพราะแทนที่ด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยมากขึ้น
📌ปี 2009 ‘SABINA’ มียอดขาย 1,000 ล้านบาท และมีพนักงานเกือบ 6,000 คน
📌ตอนนี้ ‘SABINA’ มียอดขายมากกว่า 3,000 ล้านบาท และมีพนักงาน 3,000 กว่าคน
📌การเติบโตของยอดขายเฉพาะแบรนด์ซาบีน่า 10 ปีย้อนหลัง (ตัดช่วง COVID ออกไป) เฉลี่ย 5.80% ต่อปี และยอดขายจากช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นทุกปี (ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 34% ของรายได้รวม)
📌Campaign ใหม่ ‘Forever Young’ (แอน ทองประสม) กับแนวคิด “วันเปลี่ยน แต่ทรง (ยัง) สวย” เจาะกลุ่มเป้าหมายค่อนข้างผู้ใหญ่ อายุ 40 ปีขึ้นไป เริ่มเตรียมงานมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 และปล่อยออกมาในไตรมาสที่ 3 กระแสตอบรับยังคงเป็นไปตามที่บริษัทคาดหวังไว้ การตลาดในช่วงนี้จะช่วยพยุงยอดขายของบริษัทไม่ให้ลดลง ไปจนถึงสิ้นปีนี้เป็นอย่างน้อย
📌อันที่จริงบริษัทฟูมฟักและทดลองสินค้าใน Campaign นี้มาประมาณ 2-3 ปีแล้ว โดยตั้งใจปูพื้นฐานให้ลูกค้าอยู่กับสินค้าของเราไปนานๆ มันแตกต่างจากการตลาดแบบสินค้า Collection ที่มาแล้วก็ไป เราตั้งใจทำคล้ายๆกับ ‘Doom Doom’ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งสำหรับไตรมาสที่ 3 ในปีนี้หากยอดขายไม่มาตามนัด อย่างที่เราทุ่มอัดงบโฆษณาลงไปนั้น ค่าใช้จ่าย (SG&A) ต้องโตแน่นอน หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
📌สินค้ารับจ้างผลิต (OEM) มีปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้สินค้าที่ผลิตเสร็จแล้วเพื่อส่งไปยุโรป ไม่สามารถส่งออกได้ทันในไตรมาสที่ 2 ทำให้ตัวเลขในครึ่งปีแรกไม่สวย ดูเหมือนขายได้น้อยลง แต่จริงๆแล้วมาส่งออกได้ในเดือน ก.ค. เป็นปัจจัยที่บริษัทควบคุมไม่ได้ ในอนาคตบริษัทจะคัดเลือกลูกค้า OEM มากขึ้น และคิดว่า “ตลาด Mass” ไม่ใช่ตลาดที่ควรจะลงไปสู้อีกแล้ว
1
📌ตลาดชุดชั้นในภายในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 28,000 ล้านบาท (25.80% ของตลาดรวมเสื้อผ้าสตรี) ‘SABINA’ ครองส่วนแบ่งตลาด 13.40% เป็นอันดับที่ 2
📌‘SABINA’ มีเป้าหมายผลักดันตนเองให้เป็นแบรนด์ระดับภูมิภาค ภายใน 5 ปี มีที่ยืนในต่างประเทศโดยเริ่มต้นจากประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อน ปีที่แล้วเพิ่งซื้อกิจการบริษัทตัวแทนในฟิลิปปินส์ ซึ่งต้องใช้เวลา 1-2 ปีในการปรับโครงสร้างทั้งหมดให้สอดคล้องกับเราก่อน เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ปีถัดไปน่าจะได้เห็นการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป เฉพาะในฟิลิปปินส์มียอดขายจากช่องทางออนไลน์ประมาณ 8% บริษัทเชื่อว่ายังมีโอกาสสำหรับการเติบโตในช่องทางออนไลน์อีกเยอะ
📌แนวโน้มสัดส่วนยอดขายที่ไม่ใช่หน้าร้าน (NSR) น่าจะอยู่ที่ประมาณ 35% ของยอดขายรวม บริษัทไม่ได้หวังพึ่งพาเฉพาะช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ต้องการให้เติบโตในทุกช่องทาง ช่องทาง ‘Tiktok’ หมวดสินค้า Fashion นั้น ‘SABINA’ รั้งอันดับที่ 2 ยังมีโปรเจคใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ และโอกาสเติบโตที่น่าสนใจในอนาคต
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊
โฆษณา