7 ก.ย. เวลา 04:29 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🟢บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) : [NEO]🟢
...
✴️OPPDAY : MD&A Q2/2024
...
📌ผลการดำเนินงานงวดครึ่งปี (H1/2024)
🟢ยอดขาย : 4,966 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น YoY 8.60%)
🔘 กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน : 2,028 ล้านบาท รวมๆคงที่ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากการแข่งขันอันรุนแรงภายในตลาดน้ำยาปรับผ้านุ่ม และการเติบโตของยอดขาย ณ ต่างประเทศชะลอตัว (Fineline, Smart, Tomi)
...
🔘 กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล : 1,342 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว มีการเติบโตของยอดขายในทุกแบรนด์สินค้า เนื่องจากมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิม (BeNice, Eversense, Tros, Vivite)
...
🔘 กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้สำหรับเด็ก : 1,596 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว จากการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เช่น การออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับครอบครัวและผู้สูงวัย (D-nee, D-nee Deluxe)
🟢กำไรขั้นต้น : 2,304 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 23.20% YoY) : GPM 46.40%
...
🔘 สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของยอดขายผลิตภัณฑ์กลุ่มของใช้ส่วนบุคคลและเด็ก ซึ่งมี GPM สูงกว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน อีกทั้งต้นทุนขายก็ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่ายอดขาย จากการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์
🟢กำไรสุทธิ : 544 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 60.50% YoY) : NPM 10.80%
...
🔘 จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายและกำไรขั้นต้น
🟢สินทรัพย์รวม : 10,024 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2023 : 38%)
...
🔘 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินฝากประจำกับสถาบันการเงิน ส่วนใหญ่เป็นเงินที่ได้จากการ IPO เข้าตลาด และการลงทุนก่อสร้างขยายกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มของใช้ส่วนบุคคลและเด็ก
🟢หนี้สินรวม : 5,432 ล้านบาท (ลดลงจากสิ้นปี 2023 : 5%)
...
🔘 ส่วนใหญ่ลดลงจากการที่บริษัทชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นแก่สถาบันการเงิน ตามวัตถุประสงค์การใช้เงิน IPO
🟢ส่วนของผู้ถือหุ้น : 4,592 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2023 : 193%)
...
🔘 ส่วนใหญ่มาจาก “ส่วนเกินมูลค่าหุ้น” จากการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
🟪เป้าหมายการเติบโตและความเห็นเชิงธุรกิจจากผู้บริหาร NEO (H1/2024)
...
🔹 ยังคงเป้าหมายการเติบโตของยอดขายทั้งปี 2024 ที่ตัวเลขสองหลักเช่นเดิม (มากกว่า 10%) ซึ่งยอดขายในไตรมาสที่ 1-2 จะต่ำกว่าในไตรมาสที่ 3-4 อยู่แล้วเกือบทุกปี เป็นลักษณะปกติของธุรกิจ NEO ซึ่งยอดขายครึ่งปีจะคิดเป็นสัดส่วน 43-45% ของยอดขายทั้งปีโดยประมาณ
...
🔹 ในปีนี้ 2024 ตั้งเป้าหมายให้สินค้ากลุ่ม ‘Premium Mass’ มีสัดส่วน 5% ของยอดขายรวม
...
🔹 มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้า ‘Premium Mass’ ในอีก 3 ปีข้างหน้า (2026) ให้มีสัดส่วน 10% ของยอดขายรวม
...
🔹 ใน 1 ปี NEO ทำวิจัยไม่ต่ำกว่า 180-200 วัน กับผลิตภัณฑ์ทุกตัว เพื่อเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค สินค้าต้องถูกพัฒนาและปรับปรุงตลอดเวลา
...
🔹 การเติบโตของยอดขายรวม 3 ปีย้อนหลัง (2020-2023) CAGR 11.90% ต่อปี และมีเป้าหมายการเติบโตของยอดขายในอีก 5 ปีข้างหน้า (2024-2028) มากกว่า 10% เฉลี่ยต่อปี ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรม เจาะตลาดสินค้า Premium เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการรุกช่องทางขายออนไลน์ที่บริษัทยังเข้าไปขายน้อยมากในปัจจุบัน
...
🔹 การส่งออกสินค้าไปขายยังต่างประเทศก็คาดหวังให้มีสัดส่วน 15% จากยอดขายทั้งหมด (ปัจจุบันสัดส่วนประมาณ 12% ซึ่งมากกว่า 97% จากทั้งหมดมาจาก CLMV)
...
🔹 ปัจจุบัน NEO ส่งออกสินค้าไปขายยัง 20 ประเทศ มีเป้าหมายภายในปี 2026 จะเพิ่มเป็น 25 ประเทศ และมากกว่า 28 ประเทศภายในปี 2028
...
🔹 ล่าสุด NEO มีการไปออกบูทเจาะตลาดกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง มีลูกค้าใหม่สนใจ เช่น ปากีสถาน อัฟกานิสถาน กาตาร์ และบาห์เรน ซึ่งประเทศอัฟกานิสถานได้มีตัวแทนจำหน่ายเริ่มติดต่อเข้ามาแล้ว
...
🔹 ภาพรวมตลาดของใช้ในครัวเรือน ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ย้อนหลัง 3 ปี (2021-2023) เติบโตเฉลี่ย 3% ต่อปี และมีบทวิจัยคาดการณ์ว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า (2024-2025) ตลาดจะเติบโตเฉลี่ย 9% ต่อปี ซึ่งเป็นการเติบโตในทุกประเทศ
...
🔹 ยอดขายจากสินค้าในตลาด ‘Premium’ ครึ่งปีที่ผ่านมา มาจากผลิตภัณฑ์กลุ่ม ‘Silver Age’ (ผู้สูงวัยที่มีกำลังซื้อ) มากกว่า 50%
...
🔹 ครึ่งปี 2024 ที่ผ่านมา NEO ออกผลิตภัณฑ์ไปทั้งสิ้น 85 SKU และทั้งปีน่าจะควบคุมความผันผวนของราคาวัตถุดิบได้โดยทำให้ GPM อยู่ในช่วงไม่ต่ำกว่า 42-43% เราหลีกเลี่ยงไม่ทำสินค้าที่ไม่มีเทคโนโลยี ไม่มีนวัตกรรม หรือไม่มี ‘Know How’ ของเรามากเพียงพอ
...
🔹 ประเด็นเรื่องค่าเสื่อมราคาของโรงงานใหม่ ในส่วนของตัวอาคารจะเริ่มรับรู้ค่าเสื่อมในไตรมาสที่ 1/2025 ส่วนค่าเสื่อมของเครื่องจักรจะทยอยรับรู้ตามการติดตั้ง (อาคารตัดค่าเสื่อม 30 ปี / เครื่องจักรตัดค่าเสื่อม 12 ปี) โดยจากนี้ไปจะมีการรับรู้ค่าเสื่อมส่วนนี้ในงบการเงินประมาณ 25 ล้านบาทต่อไตรมาส (ปีละ 100 ล้านบาท) ขอยืนยันว่าค่าก่อสร้างโรงงานมีความเป็นมาตรฐาน ผลประกอบการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เราจะไม่ลงทุนมากเกินความจำเป็น ขอเน้นย้ำว่าเราจะใช้เงินลงทุนที่ได้มาจากนักลงทุนอย่างคุ้มค่าให้มากที่สุด
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊
โฆษณา