9 ก.ย. เวลา 15:41 • ธุรกิจ

การผลิตแบบ Zero Defect

คือแนวคิดในการจัดการคุณภาพที่มุ่งเน้นการกำจัดข้อบกพร่องและความผิดพลาดในกระบวนการผลิต โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ รูปภาพที่ได้แสดงถึงกระบวนการเชิงระบบในการบรรลุเป้าหมายนี้ผ่าน 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การยืนยันสถานะคุณภาพปัจจุบัน, การฟื้นฟูสภาพการควบคุม และการวิเคราะห์ปัจจัยที่ก่อให้เกิดข้อบกพร่อง
ขั้นตอนที่ 1: ยืนยันสถานะคุณภาพปัจจุบัน
ในขั้นแรกนี้ เน้นการประเมินสภาพคุณภาพที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยมีรายละเอียดดังนี้:
1. รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพ: ข้อมูลถูกเก็บเกี่ยวกับมาตรฐานต่างๆ เช่น มาตรฐานการดำเนินงาน, มาตรฐานการตรวจสอบ และมาตรฐานการบำรุงรักษา
2. การประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐาน: มีการตรวจสอบหรือการสำรวจเพื่อยืนยันว่าการดำเนินงานในปัจจุบันสอดคล้องกับมาตรฐานที่กำหนดไว้หรือไม่
3. ใช้แผนภูมิเพื่อวิเคราะห์: แผนภูมิจะช่วยในการระบุช่องว่างระหว่างสถานะปัจจุบันกับมาตรฐานที่ควรจะเป็น โดยเน้นจุดที่ต้องการการปรับปรุง
ขั้นตอนนี้จะให้ภาพรวมที่ชัดเจนเกี่ยวกับสภาพคุณภาพในปัจจุบันและชี้ให้เห็นถึงพื้นที่ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานหรือมีข้อบกพร่อง
ขั้นตอนที่ 2: ฟื้นฟูสภาพการควบคุม
เมื่อปัญหาคุณภาพได้รับการระบุแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการฟื้นฟูสภาพการควบคุมที่เหมาะสม:
1. กลับสู่สภาพที่เหมาะสมที่สุด: ด้วยการปฏิบัติตามเงื่อนไขพื้นฐานอย่างเคร่งครัด เพื่อฟื้นฟูสภาพของระบบให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
2. ติดตามผลลัพธ์: มีการติดตามผลการปรับปรุงผ่านข้อมูล และเปรียบเทียบผลลัพธ์ก่อนและหลังจากการแก้ไข
หากการฟื้นฟูสภาพไม่สามารถลดข้อบกพร่องได้ตามเป้าหมาย ก็จำเป็นต้องดำเนินการวิเคราะห์เพิ่มเติม:
ลดข้อบกพร่องเล็กน้อย: ไปยังขั้นตอนที่ 3 เพื่อทำการปรับปรุงเพิ่มเติม
ปรับปรุงได้บางส่วนแต่ยังไม่ถึงเป้าหมาย: ไปยังขั้นตอนที่ 6 และ 3
ลดข้อบกพร่องได้ตามเป้าหมาย: ไปยังขั้นตอนที่ 6 เพื่อรักษาสภาพที่ดีไว้
ขั้นตอนที่ 3: วิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้เกิดข้อบกพร่อง
ในขั้นตอนนี้ จะใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุของข้อบกพร่อง:
1. การวิเคราะห์ปัจจัย: ใช้เทคนิคเช่น PM Analysis หรือวิธี “Why-Why” เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของข้อบกพร่อง โดยเครื่องมือ FMEA อาจช่วยในการระบุสาเหตุที่เป็นไปได้และจัดลำดับความสำคัญในการแก้ไข
2. การตรวจสอบสภาพที่เหมาะสมที่สุด: ใช้เครื่องมือทางสถิติ เช่น การทดลองปัจจัย (DOE) เพื่อตรวจสอบผลกระทบของปัจจัยต่างๆ ต่อข้อบกพร่อง ซึ่งจะช่วยระบุสภาพการผลิตที่เหมาะสมที่สุดในการลดข้อบกพร่อง
การดำเนินการตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้โรงงานสามารถปรับปรุงกระบวนการควบคุมคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และมุ่งสู่การผลิตแบบ Zero Defect ได้
ในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อความปลอดภัยและความพึงพอใจของลูกค้า เช่น โรงงานอุตสาหกรรม การใช้วิธีการที่เป็นระบบนี้จะช่วยลดความผิดพลาด เพิ่มประสิทธิภาพ และรับรองการปฏิบัติตามมาตรฐานของกฎระเบียบ
#วิศวกรเค้นประสิทธิภาพ #hozenandkaizen
โฆษณา