13 ก.ย. เวลา 08:19 • หุ้น & เศรษฐกิจ

🟢บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) : [TIPH]🟢

✴️OPPDAY : MD&A Q2/2024
📌ผลการดำเนินงานงวดครึ่งปี (H1/2024)
🎇 ภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิตและประกันวินาศภัยในประเทศไทย ครึ่งปีแรก : 2024
เบี้ยประกันรับรวม : 453,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 2.60% (YoY) จากจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นเบี้ยประกันวินาศภัย 31% หรือประมาณ 141,600 ล้านบาท (คงที่จากปีที่แล้ว แทบไม่โต) และกำไรจากการรับประกันภัยในภาพรวมอุตสาหกรรม ลดลง 6.11% (YoY)
⬛ เบี้ยประกันภัยรถยนต์ มีสัดส่วน 56% หรือประมาณ 80,000 ล้านบาท แทบไม่โตเลยจากปีที่แล้ว เนื่องจากการลดลงของเบี้ยรถสันดาป และการเพิ่มขึ้นของเบี้ยรถไฟฟ้า (EV Car)
⬛ เบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ดและอื่นๆ มีสัดส่วน 44% หรือประมาณ 61,600 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 0.70% เนื่องจากเบี้ยประกันภัยสุขภาพลดลงมาก แบ่งย่อยเป็น
🔸 ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล : 10% (15,000 ล้านบาท)
🔸 ประกันสุขภาพ : 7% (9,200 ล้านบาท)
🔸 ประกันอัคคีภัย : 4% (6,000 ล้านบาท)
🔸 ประกันภัยทางทะเล : 3% (3,600 ล้านบาท)
✅[TIPH] : ผลการดำเนินงานงวดครึ่งปี (H1/2024)
📌เบี้ยประกันวินาศภัยรับรวมของ ‘TIPH’ ครึ่งปีแรก 2024 : 15,678 ล้านบาท ลดลง 3.60% (YoY) เนื่องจากนโยบายของบริษัทที่เข้มงวดในการเลือกรับประกันมากขึ้น อะไรที่เสี่ยงสูงหรือกำไรต่ำก็จะระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะ ‘EV Car’ และโครงการเงินกู้ ช.พ.ค. ซึ่งมีผลประกอบการไม่ดี จึงต้องเพิ่มเบี้ยประกันและลดขนาดพอร์ตลง
🔘 เบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด (สุขภาพ อุบัติเหตุ) ประมาณ 10,000 ล้านบาท ลดลง 6.90% จากนโยบายบริษัทข้างต้นที่ได้กล่าวไปแล้ว
🔘 เบี้ยประกันภัยรถยนต์ ประมาณ 3,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.90%
🔘 เบี้ยประกันอัคคีภัย ประมาณ 1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.40%
🔘 เบี้ยประกันภัยทางทะเล ประมาณ 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.30%
✴️สรุป✴️
💸 รายได้รวม : 7,749 ล้านบาท ถือว่าคงที่ แทบไม่โตเลยจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
💸 รายได้จากการรับประกันภัย : 7,316 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.50% (YoY)
💸 ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน : 1,129 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.20% (YoY)
💸 กำไรจากการรับประกันภัย : 1,685 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.70% (YoY)
💸 กำไรสุทธิ : 815 ล้านบาท ลดลง 15% (YoY)
💸 กำไรจากการลงทุน : 433 ล้านบาท ลดลง 11% (YoY) เหตุผลสั้นๆ คือ “ตลาดหุ้นไทยแย่”
⭐‘InsurVerse’ : ประกันภัยดิจิทัล 100% เต็มรูปแบบ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมและสถิติการค้นหาแบรนด์ในโลกออนไลน์เพิ่มขึ้นทุกเดือน นับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้ว (2023)
⭐‘บริษัท มีที่มีเงิน’ (ปล่อยสินเชื่อรายย่อย) ในครึ่งปีแรกนั้นทำกำไรไปแล้วกว่า 70 ล้านบาท มากกว่ากำไรทั้งปีของปีที่แล้ว และมีเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อในปี 2024 ประมาณ 50,000 ราย
⭐ยังมีนโยบายการจ่ายปันผลระหว่างกาลในปี 2024 เหมือนเดิมเช่นทุกปี ล่าสุดประกาศจ่ายปันผล 0.50 บาท/หุ้น โดยจ่ายปันผลเป็นเงินสดในวันที่ 25.09.2024
⭐‘TIPH’ มีอัตราส่วนทางการเงิน ‘ROE’ และ ‘NPM’ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทประกันวินาศภัย 5 อันดับแรก (TOP 5) ที่จดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ไทย
🚌สำหรับงานรับประกันวินาศภัยจากภาครัฐในครึ่งปีหลังจากนี้ ผู้บริหารเชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะเร่งอัดฉีดงบประมาณสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ หลังจากที่อัดอั้นมานาน และหลายโครงการถูกระงับมาหลายปี แน่นอนว่า ‘TIPH’ เป็นบริษัทผู้รับประกันวินาศภัยเจ้าหลักของโครงการภาครัฐขนาดใหญ่มาโดยตลอด และเชื่อว่าจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปในอนาคต
🚌ส่วนประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ปัจจุบันมี ‘Loss Ratio’ สูงขึ้นมาก และยังมีการลดราคาขายอีก สิ่งเหล่านี้คือปัญหาของธุรกิจประกันภัยซึ่งประสบเหมือนกันทั่วโลก สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ ในต่างประเทศนั้นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าจะมีอัตราเบี้ยที่สูงกว่ารถยนต์สันดาปประมาณ 30-50% แต่ในประเทศไทย เบี้ยประกันของรถทั้ง 2 ประเภทยังคงใกล้เคียงกัน และมีการแข่งขันสูงภายในอุตสาหกรรม
ซึ่ง ‘TIPH’ ระมัดระวังในประเด็นดังกล่าว ปีนี้บริษัทจึงถอนตัวจากการเป็นผู้รับประกันภัยจากตัวแทนขายรถยนต์ไฟฟ้า เพราะผลตอบแทนไม่เพียงพอที่จะชดเชยความเสี่ยงที่มีอยู่ “หากเป็นสงครามการตัดราคา เราไม่เล่นแน่นอน”
🚌ล่าสุดบริษัทได้รับการประเมิน ‘Credit rating’ : A- (Stable) ถือว่าสูงที่สุดจากบริษัทในอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยไทย
🚌อุตสาหกรรมประกันวินาศภัยไทย มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยย้อนหลัง 4 ปี (2019-2023) ประมาณ 4% ต่อปี ซึ่ง ‘TIPH’ ตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตให้ได้ 2 เท่าของค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมในปี 2024 (มาดูกันว่าจะทำได้หรือเปล่า?)
🔥ส่วนแบ่งทางการตลาดอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยในประเทศไทย ณ สิ้นปี 2023
1️⃣ ‘บริษัท วิริยะประกันภัย จํากัด (มหาชน)’ : (14%) เบี้ยประกันรับรวม 40,000 ล้านบาท
2️⃣ ‘บริษัท ทิพยประกันภัย จํากัด (มหาชน)’ : (12%) เบี้ยประกันรับรวม 34,000 ล้านบาท
3️⃣ ‘บริษัท กรุงเทพประกันภัย จํากัด (มหาชน)’ : (10%) เบี้ยประกันรับรวม 28,000 ล้านบาท
4️⃣ ‘บริษัท คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน)’ : (7%) เบี้ยประกันรับรวม 20,000 ล้านบาท
5️⃣ ‘บริษัท เมืองไทยประกันภัย จํากัด (มหาชน)’ : (6%) เบี้ยประกันรับรวม 18,000 ล้านบาท
📈เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีบทวิเคราะห์แนวโน้มอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยในประเทศไทย ปีนี้ (2024) คาดการณ์ว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 5-6% จากปีที่แล้ว ซึ่งจะทำให้เบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งอุตสาหกรรมมีมูลค่ามากกว่า 300,000 ล้านบาท
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊
โฆษณา