19 ก.ย. เวลา 10:39 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 160

ศึกต้าหมิงฝู่ (8) ล้างแค้นกิเลน
คืนวันนั้นไฉ้ฝูกำชับให้น้องชายไฉ้ชิ่งดูแลคุกให้ดี ส่วนตนจะกลับบ้านสักพักเดี๋ยวมา พอมาถึง เปิดประตูเข้าบ้าน มีคนสองคนรีบตามเข้ามา คนแรกแต่งตัวเป็นนายทหาร ใต้แสงตะเกียง ไฉ้ฝูจำได้ว่าคือพายุหมุนน้อยไฉจิ้น คนหลังแต่งตัวเป็นคนใช้คือ นกหวีดเหล็กเยว่เหอ แต่ไฉ้ฝูยังไม่รู้จัก
พัศดีไฉ้เชิญทั้งสองเข้ามาในบ้าน แล้วเตรียมจอก ไฉจิ้นว่า “สุราไม่ต้อง ข้าน้อยมานี่ มีเรื่องสำคัญ เจ้าสัวหลู สือสิ้วที่ท่านช่วยดูแลอย่างดีนั้น นับเป็นพระคุณอย่างที่สุด คืนนี้ข้าน้อยใคร่อาศัยว่าเทศกาลหยวนเซียวครึกครื้น ถือโอกาสเข้าเรือนจำไปเยี่ยมสักครั้ง ขอให้ท่านช่วยนำทาง โปรดอย่าได้บ่ายเบี่ยง”
ไฉ้ฝูเป็นเจ้าหน้าที่ราชการ คาดเดาได้แปดส่วนแล้ว ถึงใจไม่อยาก แต่ก็รู้ดีว่าหากเมืองแตกแล้ว ครอบครัวจะกลับตกอยู่ในอันตราย ต้องทำใจช่วย จึงหาเครื่องแบบเก่าให้ทั้งสองแต่งตัวเป็นเจ้าหน้าที่แล้วแฝงตัวเข้าเรือนจำไป
ราวยามหนึ่ง เสือเตี้ยหวาง อีจ้างชิง ซุนซิน กู้ต้าเส่า จางชิง ซุนเอ้อเหนียง แต่งตัวเต็มที่เป็นชาวชนบทสามคู่เข้าเมืองมาทางประตูตะวันออกมาเที่ยวงานประทีป กงซุนเสิ้งนำหลิงเจิ้นถือตระกร้าสาน ไปยังศาลพระเสื้อเมือง 城隍庙 (เฉิงหวงเมี่ยว)
ข้างที่ว่าการเมือง โจวยวน โจวยุ่น แบกโคมเร่ขายอยู่กลางเมือง ตู้เชียน ซ่งว่านเข็นรถคนละคัน นำมาจอดหน้าจวนเจ้าเมืองเหลียงจ้งซู จวนตั้งอยู่ใกล้ประตูเมืองตะวันออก หลิวถัง หยางสยง ซ่อนอาวุธประจำตัว ถือไม้พลองน้ำไฟ ไปนั่งบนสะพานเข้าเมือง เอี้ยนชิงพาจางซุ่นเข้าเมืองทางประตูน้ำแล้วหาที่ซุ่มอยู่
ไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม หอกลองตีบอกเวลายามสอง สือเชียนหิ้วตะกร้าใส่กำมะถัน ดินประสิว เชื้อปะทุสำหรับวางเพลิง โดยนำเอาเน่าเอ๋อ 闹鹅 เครื่องประดับผมสตรีหลายชิ้นวางพรางไว้ด้านบน หิ้วเข้าไปในหอเมฆาหยก บนหอมีดนตรีบรรเลง และการละเล่นรื่นเริง เสียงอึกทึก ผู้คนส่วนใหญ่สนใจแต่ชมประทีป
สือเชียนทำทีเดินขายเน่าเอ๋อเที่ยวชะโงกดูห้องนั้นห้องนี้ มาถึงห้องหนึ่งมองเห็นเซี่ยเจิน เซี่ยเป่าถือสามง่ามห้อยกระต่ายเดินอยู่ด้านนอก จึงถามว่า
“ได้เวลาแล้ว ไม่เห็นนอกเมืองมีความเคลื่อนไหว”
เซี่ยเจินว่า “เมื่อครู่ข้าสองคนอยู่หน้าหอ เห็นพวกม้าเร็วเร่งรีบผ่านหน้าไป ทหารพวกเราคงมาถึงกันแล้ว ท่านก็จัดการตามนัดเถิด”
พลันได้ยินเสียงคนบนหอตะโกนบอกว่า “มีทัพเขาเหลียงซานอยู่นอกประตูตะวันตก”
เซี่ยเจินบอกสือเชียนว่า “ท่านรีบไปจัดการ พวกข้าจะไปหน้าสำนักหลิวโส่ว”
พอมาถึงสำนักหลิวโส่ว (ป้องกันภัยและความมั่นคง) ก็เห็นทหารแตกทัพกลับเข้าเมืองมาคุยได้ความว่า “ดาบใหญ่เหวินค่ายแตกแล้ว พวกโจรเหลียงซานนำทัพมาถึงเมืองแล้ว”
หลี่เฉิงที่ลาดตระเวนอยู่รีบกลับมาเกณฑ์พลที่สำนักหลิวโส่ว แล้วสั่งให้ปิดประตูเมืองป้องกันให้มั่นคง
หวางไท่โส่วที่นำคนร้อยกว่าคนถือโซ่ตรวนและคา เดินตรวจตรารักษาความสงบอยู่บนท้องถนน ได้รับรายงาน ก็รีบกลับมายังสำนักหลิวโส่ว
ทางด้านเหลียงจ้งซูนั่งเมาอยู่หน้าจวน ได้รับรายงานแรกยังไม่กังวลนัก แต่อีกไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ม้าเร็วมารายงานติดๆ จึงกลัวจนวิญญาณแทบหลุดร่าง ไม่ทันไรเห็นฟ้าสว่างจ้าด้วยแสงเพลิง เกิดไฟไหม้ใหญ่ที่หอเมฆาหยก เหลียงจ้งซูรีบขึ้นม้าจะมาดูไฟ มีชายฉกรรจ์สองคนเข็นรถสองคันมาขวางทางไว้ แล้วไปคว้าถ้วยน้ำมันจากโคมที่แขวนมาจุดที่รถจนติดไฟไหม้
เหลียงจ้งซูขี่ม้าจะหนีออกทางประตูตะวันออก มีชายฉกรรจ์สองคนร้องตะโกนว่า “หลี่อิ้ง สื่อจิ้นอยู่นี่” แล้วใช้ดาบพอเตาลุยสังหารเข้ามา ทหารเฝ้าประตูหนีกันจ้าละหวั่น ตู้เชียน ซ่งว่านตามมาสมทบเฝ้าประตูตะวันออกเอาไว้
เหลียงจ้งซูเห็นท่าไม่ดีพาผู้ติดตามหนีมาทางประตูทิศใต้ พบคนหนีมาบอกว่า “มีสงฆ์อ้วนใหญ่ใช้ไม้เท้ากับผู้แสวงบุญหน้าเหมือนเสือใช้มีดคู่ไล่ฆ่าคนอยู่” เหลียงจ้งซูชักม้ากลับมาทางสำนักหลิวโส่ว แลเห็นเซี่ยเจิน เซี่ยเป่าใช้สามง่ามแทงซ้ายย้ายขวาอยู่ จึงลังเลคิดจะหนีกลับที่ว่าการ ก็เห็นหวางไท่โส่วพาคนกลับมา แต่พบหลิวถัง หยางสยงดักอยู่ใช้ไม้พลองน้ำไฟฟาดพร้อมกัน หัวแตกสมองไหลตายคาที่ พวกหวีโห้วผู้ติดตามต่างพากันหนีไม่คิดชีวิต
เหลียงจ้งซูจึงควบม้าหนีมาทางประตูเมืองตะวันตก ได้ยินเสียงปืนดังก้องมาจากศาลพระเสื้อเมือง โจวยวน โจวยุ่นเอาราวไม้ไผ่เที่ยวแหย่ชายคาบ้านวางเพลิง ที่ย่านการค้าหว่าจื่อทางใต้ เสือเตี้ยหวาง อีจ้างชิง ไล่ล่าสังหารอยู่ ซุนซิน กู้ต้าเส่าก็อยู่แถวนั้นด้วย ที่วัดพระสำริด 铜佛寺 จางชิง ซุนเอ้อเหนียง ปีนเผาเขาเต่าอ๋าว เป่ยจิงยามนี้ ชาวบ้านวิ่งพล่านเหมือนหนูติดจั่น ร้องไห้กันระงม ทุกทิศรอบทางมีแต่แสงเพลิง
เหลียงจ้งซูหนีมาทางประตูตะวันตกพบหลี่เฉิงจึงเข้าสมทบนำกำลังมาทางกำแพงเมืองด้านนี้ เหลียงจ้งซูขึ้นบนหอกลองมองออกไปนอกกำแพงเมืองเห็นทัพประชิดกำแพงแน่นขนัด มีธงเขียนว่า “แม่ทัพใหญ่ฮูหยันจว๋อ” ดูน่าสะพรึงใต้แสงเพลิง ด้านซ้ายหันเทา ด้านขวาเผิงฉี่ ด้านหลังหวงซิ่น เห็นชัดว่าหนีออกทางนี้ไม่ได้
จึงหนีมากับหลี่เฉิงมาทางประตูทิศเหนือ แอบมองออกไปเห็นทหารม้าเหลือคณานับ หัวเสือดาวหลินชงถือทวนยืนม้าจังก้าอยู่ ซ้ายหม่าหลิน ขวาเติ้งเฟย หลังฮวาหยง มาทางประตูตะวันออกอีกที เห็นทัพราบราวพันกว่าคนนำโดยจอมบุ่มบ่ามมู่หง ซ้ายตู้ซิง ขวาเจิ้งเทียนโซ่วลุยสังหารเข้าเมืองมา
เหลียงจ้งซูเสี่ยงตายมาทางประตูทิศใต้ เห็นข้างสะพานทอด พายุหมุนดำหลี่ขุยถอดเสื้อถือขวานอยู่ใต้แสงไฟ ซ้ายหลี่ลี่ ขวาเฉาเจิ้ง หลี่เฉิงรบแหวกทางให้เหลียงจ้งซูตามมา พลันมีเสียงโห่ร้องทางด้านซ้าย ง้าวใหญ่กวนเสิ้งขี่ม้ากระต่ายแดงถือง้าวมังกรเขียว ซ้ายเซวียนจ้าน ขวาเห่าซือเหวิน หลังซุนลี่ไล่ตามมา
หลี่เฉิงไม่มีใจรบ ควบม้าพาเหลียงจ้งซูรบพลางหนีพลาง ด้านหลังหลีกว่างน้อยฮวาหยงมาถึง หยิบลูกธนูพาดสายยิงถูกรองแม่ทัพของหลี่เฉิงตกม้า หลี่เฉิงรีบชักม้าหนี รอดธนูที่ยิงตามมาหวุดหวิด ไม่ทันไร ทางขวามีเสียงม้าล่อดัง อสนีบาตฉินหมิง นำเอี้ยนซุ่น โอวเผิง หยางจื้อไล่ตามมา หลี่เฉิงเสียทหารไปมากกว่าครึ่ง พาเหลียงจ้งซูควบม้าหนี
ทางด้านในเมือง ตู้เชียน ซ่งว่านไปไล่สังหารครอบครัวเหลียงจังซู หลิวถัง หยางสยงไปไล่สังหารครอบครัวหวางไท่โส่ว
ข่งหมิง ข่งเลี่ยงลอบปีนเข้าหลังเรือนจำ โจวยวน โจวยุ่น อยู่หน้าเรือนจำสกัดคนที่จะเข้ามาช่วย ไฉจิ้น เยว่เหออยู่ด้านในเห็นสัญญาณเพลิง จึงกล่าวกับไฉ้ฝูว่า “พวกท่านสองพี่น้อง คงเห็นกันแล้ว จะมัวรออะไร”
ไฉ้ชิ่งยืนมองแสงเพลิงอยู่ริมประตู โจวยวน โจวยุ่น ก็พังประตูคุกเข้ามาตะโกนว่า “พวกผู้กล้าเหลียงซานอยู่นี่ ส่งตัวเจ้าสัวหลู พี่สือสิ้วมาโดยดี”
ไฉ้ชิ่งรีบวิ่งกลับมาบอกไฉ้ฝู ข่งหมิง ข่งเหลี่ยงเข้ามาถึงก่อนจากด้านหลังแล้ว ไฉจิ้นไม่สนใจว่าไฉ้ฝูจะยินยอมหรือไม่ ถอดคาให้หลูจวิ้นอี้และสือสิ้ว แล้วหันมาบอกไฉ้ฝูว่า
“ท่านรีบตามข้ากลับบ้านไปคุ้มครองครอบครัว”
ทั้งหมดพากันออกมาทางประตูเรือนจำ
ไฉ้ฝู ไฉ้ชิ่ง ตามไฉจิ้น เยว่เหอมายังบ้านป้องกันครอบครัว
หลูจวิ้นอี้ นำสือสิ้ว ข่งหมิง ข่งเลี่ยง โจวยวน โจวยุ่นมายังบ้านเพื่อจับหลี่กู้และนางเจี่ยสื้อ
ทางด้านหลี่กู้ได้ยินว่าพวกเหลียงซานเข้าเมืองมา รอบด้านมีแต่แสงเพลิงไหม้ ตาก็กระตุกเป็นลาง จึงหารือนางเจี่ยสื้อ รีบเก็บทรัพย์สินเงินทองที่ติดตัวได้ใส่ห่อผ้าสะพายหลัง พากันหนีมาทางประตู พลันเห็นประตูข้างล้มระเนระนาด ใครต่อใครแห่กันเข้ามา จึงหันกลับหนีมาทางประตูหลัง มาลงเรือ
จางซุ่นอยู่บนตลิ่งตะโกนมาว่า “แม่นาง จะหนีไปไหน”
หลี่กู้ตกใจ จะรีบมุดหลบเข้าโถงเรือ มีมือเอื้อมมาคว้าเคราไว้ ตะคอกว่า “หลี่กู้ จำข้าได้ไหม”
หลี่กู้จำเสียงเอี้ยนชิงได้จึงรีบตะโกนบอกว่า “พี่เสียวอี่ ท่านกับข้าไม่มีความแค้นกัน อย่าจับข้าขึ้นฝั่งเลย”
บนตลิ่ง จางซุ่นจับตัวนางเจี่ยสื้อไว้แล้ว ลากตัวมายังข้างเรือ เอี้ยนชิงจับตัวหลี่กู้ แล้วพากันมายังประตูตะวันออก
ทางด้านหลูจวิ้นอี้ พอมาถึงบ้านไม่เห็นหลี่กู้และนางเมียแล้ว จึงให้คนในบ้านช่วยกันเก็บทรัพย์สินต่างๆ ขึ้นใส่รถให้หมดเพื่อนำมาเหลียงซาน
ทางด้านไฉจิ้น มากับไฉ้ฝูถึงบ้านก็ให้ครอบครัวเก็บข้าวของเตรียมย้ายมาเหลียงซาน ไฉ้ฝูบอกไฉจิ้นว่า “ท่านขุนนางใหญ่ โปรดไว้ชีวิตชาวเมืองด้วย อย่าเข่นฆ่าเลย”
ไฉจิ้นจึงมาหาเสธ.อู๋ย่ง แต่กว่าอู๋ย่งจะออกคำสั่งไป ในเมืองก็เสียหายไปแล้วครึ่งหนึ่ง
烟迷城市,火燎楼台。
红光影里碎琉璃,黑焰丛中烧翡翠。
娱人傀儡,顾不得面是背非;
照夜山棚,谁管取前明后暗。
斑毛老子,猖狂燎尽白髭须;
绿发儿郎,奔走不收华盖伞。
踏竹马的暗中刀枪,舞鲍老的难免刃槊。
如花仕女,人丛中金坠玉崩;
玩景佳人,片时间星飞云散。
可惜千年歌舞地,翻成一片战争场。
ควันกลบตลบเมือง
ไฟเรืองผลาญบ้านร้านหอ
กระเบื้องร้าวเพลิงแดงทอ
หยกหมกไหม้กลางควันดำ
หุ่นกระบอกที่ชักชู
ดูไม่รู้หน้าหลังคล้ำ
เทศกาลร้านปะรำ
มืดสว่างฝั่งไหนช่างมัน
ผู้เฒ่าผมสองสี
ฉุนเฉียวที่เคราไหม้สั้น
หนุ่มเหน้าผมดำมัน
หนีกันไม่สนร้านแผง
ม้าไม้เรียวยังแอบถูกดาบฟัน
เป้าเหล่านั้นย่อมไม่พ้นถูกทิ่มแทง
สาวงามดังไม้หอม
ทองหลอมลับหยกอับแสง
ดาวรุ่งที่พุ่งแรง
เพียงพริบตาลาลับหาย
 
แสนเสียดายลานบันเทิงนับพันปี
กลับมามีสภาพเป็นลานประหาร
(踏竹马 ลักษณะเดียวกับ ม้าก้านกล้วย ทำจากไม้ไผ่เหมือนไม้เรียว)
(เป้าเหล่า 鲍老 ตัวละครในการแสดงตามเทศกาล)
ทางด้านหลี่เฉิงพาเหลียงจ้งซูหนีมาพบเหวินต๋ากลางทางจึงรวมกำลังเข้าด้วยกันแล้วพากันหนีลงใต้ พบเข้ากับทัพจอมมารป่วนโลกาฝานยุ่ย เซี่ยงชง หลีกุ่น รบกันอยู่ เสือติดปีกเหลยเหิงมาถึง นำซือเอิน มู่ชุนเข้ารุมรบด้วย หลี่เฉิง เหวินต๋ารบสุดฤทธิ์แม้จะเสียทหารไปเกือบหมด แต่ก็หนีเอาตัวรอดไปทางตะวันตกได้ทั้งสามคน
ทางเมืองเป่ยจิง อู๋ย่งให้ออกประกาศปลอบขวัญราษฎร ช่วยผู้ประสบอัคคีภัยเปิดคลังแจกจ่ายเยียวยา ส่วนที่เหลือให้เก็บกวาดกลับเหลียงซานทั้งหมด ครอบครัวของเหลียงจ้งซู หวางไท่โส่ว หลี่เฉิง เหวินต๋าถูกสังหารเกือบสิ้นแล้ว ที่รอดไปได้ก็ไม่ติดตาม จากนั้นก็ให้เดินทัพกลับเหลียงซาน ให้นำหลี่กู้ นางเจี่ยสื้อใส่รถนักโทษไปด้วย ให้ไต้จงล่วงหน้าไปแจ้งซ่งเจียงก่อน
เมื่อทัพกลับมาถึง ซ่งเจียงมารับขึ้นไปยังหอธรรมภักดิ์ ซ่งเจียงคำนับหลูจวิ้นอี้ หลูจวิ้นอี้รีบคำนับตอบ
ซ่งเจียงว่า “เดิมทีพวกเราใคร่เชิญท่านเจ้าสัวขึ้นเขาร่วมผดุงคุณธรรม มิคาดกลับทำให้ประสบเคราะห์กรรม ปวดใจยิ่งนัก ยังดีที่สวรรค์เมตตาให้ได้กลับมาพร้อมหน้า”
หลูจวิ้นอี้ว่า “ได้อาศัยบารมีพี่ท่าน และคุณธรรมน้ำใจเหล่าพี่น้องร่วมแรงช่วยเหลือจึงรอดมาได้ บุญคุณนี้ยากทดแทน”
แล้วหลูจวิ้นอี้ก็กล่าวแนะนำตัวไฉ้ฝู และไฉ้ชิ่งว่า “หากมิได้สองคนนี้ช่วยเหลือ ก็คงไม่รอดมาถึงวันนี้”
ซ่งเจียงกล่าวเชิญหลูจวิ้นอี้จงขึ้นเป็นประมุข หลูจวิ้นอี้ไม่ยินยอมกล่าวว่า “ผู้แซ่หลูจะรับได้อย่างไร หากให้เป็นทหารรับใช้ถือแส้ม้า ยังพอได้ตอบแทนพระคุณที่ช่วยชีวิต”
ซ่งเจียงกล่าวเชิญถึงสามครั้งแต่หลูจวิ้นอี้มิยินยอม
หลี่ขุยรำคาญโพล่งว่า “พี่ท่านหากสละตำแหน่งประมุขให้ผู้อื่น คงได้ฆ่ากัน”
อู่ซงว่า “พี่ท่านจะสละตำแหน่ง เกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมา พี่น้องปวดตับกันหมดแล้ว”
ซ่งเจียงตวาดว่า “พวกเจ้ารู้อะไร อย่าพูดมาก”
หลูจวิ้นอี้ว่า “หากพี่ท่านยังจะสละตำแหน่ง ผู้แซ่หลูคงอยู่ไม่เป็นสุข”
หลี่ขุยว่า “วันนี้ก็หมดเรื่องแล้ว พี่ท่านเป็นฮ่องเต้ เจ้าสัวหลูเป็นเสนาบดี พวกเราทุกคนเป็นขุนนาง บุกไปตงจิงชิงตำแหน่งนกเขามา ดีกว่านั่งอยู่ที่นี่”
ซ่งเจียงโมโห ด่าว่าหลี่ขุย
อู๋ย่งว่า “เอาเป็นว่าเชิญท่านเจ้าสัวพักในฐานะแขกก่อน วันหน้ามีผลงานค่อยสละตำแหน่งกันใหม่”
ซ่งเจียงจึงให้จัดโต๊ะเลี้ยงดูกัน
ระหว่างอาหาร หลูจวิ้นอี้ลุกขึ้นถามว่า “หญิงชั่วชายชู้ที่จับมา คงต้องจัดการ”
ซ่งเจียงหัวเราะแล้วว่า “ข้าก็ลืมไป เอาตัวทั้งสองมา”
ทหารเข็นรถนักโทษมาหน้าหอ นำตัวหลี่กู้ลงมามัดไว้ที่ต้นกระบองเพชร 将军柱 ด้านซ้าย นางเจี่ยสื้อมัดไว้ที่ต้นกระบองเพชรด้านขวา
ซ่งเจียงว่า “ไม่ต้องไต่สวนความผิด เชิญท่านเจ้าสัวลงโทษเลย”
หลูจวิ้นอี้ถือมีดสั้นก้าวลงจากหอ ยืนด่าหญิงแพศยาและชายโฉดยกใหญ่ ผ่าอกควักหัวใจ แล้วแล่เนื้อเป็นชิ้นๆ 凌迟 ก่อนให้นำศพไปทิ้ง แล้วจึงกลับขึ้นมานั่งบนหอ กล่าวขอบคุณเหล่าพี่น้อง
ตอนก่อนหน้า : อุบายตีต้าหมิง
ตอนถัดไป : ไม่ไว้หน้า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา